ประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้นสำหรับงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 37 หรือมอเตอร์เอ็กซ์โป 2020 ที่เพิ่งผ่านพ้นไปเมื่อวันที่ 13 ธ.ค.ที่ผ่านมา อันเป็นงานแสดงรถยนต์ที่ยิ่งใหญ่สุดส่งท้ายปี

เพราะมีประชาชนแห่กันเข้ามาชมงานกันทะลักล้น และยังสามารถทำยอดจองทั้งในส่วนของรถยนต์และรถจักรยานยนต์ได้มากเกินคาด แม้ช่วงนี้ยังคงมีสถานการณ์การระบาดไปทั่วโลกของ “โควิด-19”

นายขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ ประธานบริษัท สื่อสากล จำกัด หนึ่งในผู้นำธุรกิจสื่อสายยานยนต์ กล่าวในฐานะผู้จัดงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2020 ว่า งานปีนี้ประสบความสำเร็จเกินคาด พบว่ายอดจองรถยนต์และรถจักรยานยนต์ในงานคึกคักมาก โดยมีจำนวนยอดจองใกล้เคียงกับปีก่อน ซึ่งนับว่าเกินคาดและยังสวนกระแสเศรษฐกิจปัจจุบัน

“โดยรถยนต์นั่งขนาดเล็กได้รับความนิยมสูงสุด ซึ่งน่าจะเป็นผลจากการระบาดของโควิด-19 ทำให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อรถส่วนตัว เพื่อหลีกเลี่ยงระบบขนส่งสาธารณะ ตามด้วยรถกิจกรรมกลางแจ้งหรือเอสยูวี และรถอเนกประสงค์ หรือรถเอ็มพีวีจากกระแสนิยมการท่องเที่ยวภายในประเทศที่เพิ่มขึ้น ขณะที่รถยนต์พลังงานทางเลือก มีความหลากหลายและทางเลือกให้ผู้ใช้มากกว่าเดิม ส่วนยอดขายรถจักรยานยนต์ปรับลดลงตามที่คาดไว้ก่อนหน้า”

นายขวัญชัย ย้ำว่า จากความคึกคักอย่างเห็นได้ชัดของงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2020 นับเป็นการส่งสัญญาณที่ดีว่าตลาดรถยนต์ในปีหน้าจะยังคงไปโลด มีความสดใส ไม่เลวร้ายเหมือนกับที่เคยคาดการณ์ก่อนหน้านี้ในช่วงที่โควิด-19 ระบาดใหม่ๆในช่วงครึ่งปีแรก

ขณะที่ นายปราจิน เอี่ยมลำเนา ประธานบริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) อีกหนึ่งในผู้นำธุรกิจสื่อสายยานยนต์ ในฐานะผู้จัดงานบางกอกมอเตอร์โชว์ อันเป็นงานมอเตอร์โชว์ที่ยิ่งใหญ่สุดของอาเซียน ซึ่งมักจัดประจำในช่วงเดือน มี.ค.-เม.ย.ของทุกปี กล่าวว่า สถานการณ์ตลาดรถยนต์ในประเทศไทยในปีหน้าจะยังไปได้ต่อเนื่อง เพราะการระบาดของโควิด-19 ในประเทศไทยไม่รุนแรงเหมือนหลายประเทศ ยิ่งปีหน้ามีวัคซีนป้องกัน “โควิด-19” ออกมายิ่งช่วยให้สถานการณ์ต่างๆดีขึ้น หนุนเนื่องให้ตลาดรถยนต์ในประเทศยิ่งขยายตัว

...

“ในส่วนของงานบางกอกมอเตอร์โชว์ปีหน้าจะยังคงจัดในช่วงเวลาเดิมคือประมาณกลางเดือน มี.ค.-ต้นเดือน เม.ย. ไม่ต้องเลื่อนมาจัดในช่วงกลางปีเหมือนปีนี้”

นายปราจิน ย้ำว่าสำหรับงานบางกอกมอเตอร์โชว์ในปีนี้ที่ได้เลื่อนมาจัดช่วงกลางปี ภายหลังจากที่สถานการณ์โควิด-19 ในประเทศได้คลี่คลาย ซึ่งทำให้รัฐบาลได้ผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์ต่างๆ ได้ทำให้บรรยากาศของการซื้อขายรถยนต์ในบ้านเรามีความคึกคักมาก โดยนับว่าการจัดงานบางกอกมอเตอร์โชว์เมื่อเดือน ก.ค.ปีนี้มีส่วนสำคัญในการปลุกตลาดรถยนต์ในประเทศไทยให้กลับมาสดใส และยังถือเป็นหนึ่งในปัจจัยที่จะช่วยปลุกเศรษฐกิจของประเทศกลับมากระเตื้องขึ้นอีกด้วย

ด้าน นายสุรศักดิ์ สุทองวัน รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า จากการที่ภาครัฐฯ ออกมาตรการเยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจในด้านต่างๆ เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายของภาคประชาชน และเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการให้สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ ตลอดจนสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน และผู้บริโภคให้สามารถผ่านพ้นวิกฤตินี้ไปได้เช่นกัน นอกจากนี้ในด้านของตลาดรถยนต์ บรรดาบริษัทรถยนต์ต่างๆพยายามอย่างเต็มที่ในช่วงปลายปี ที่จะดึงดูดความสนใจและการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค ทั้งการแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ การจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย การออกกลยุทธ์ต่างๆ การบริการหลังการขาย ส่งผลให้ตลาดรถยนต์มีทิศทางที่ดีขึ้น

ขณะที่ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด คาดการณ์ว่าตลาดรถยนต์ในประเทศปีนี้ น่าจะมีโอกาสแตะระดับ 770,000 คัน หรือหดตัวกว่า 23.6% อย่างไรก็ตาม เมื่อเข้าสู่ปี 2564 ทิศทางยอดขายรถยนต์ในประเทศมีโอกาสกลับมาขยายตัวได้ดีอีกครั้ง โดยในกรณีเศรษฐกิจในประเทศฟื้นตัวดีขึ้นอย่างที่หลายฝ่ายประเมินและภาครัฐไม่มีความจำเป็นต้องดึงมาตรการล็อกดาวน์มาใช้เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อีก

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่าทิศทางยอดขายรถยนต์ในประเทศปี 2564 จะขยายตัวได้กว่า 7% ถึง 11% คิดเป็นยอดขายที่เพิ่มขึ้นสู่ตัวเลข 825,000 ถึง 855,000 คัน

พร้อมฟันธงว่ารถยนต์ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าจะเป็นกลุ่มที่มีการขยายตัวได้อย่างก้าวกระโดด

โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่าในปี 2564 ยอดขายรถยนต์กลุ่ม HEV (รถยนต์ไฮบริด) และ PHEV (รถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด) น่าจะมียอดขายประมาณ 48,000 ถึง 50,000 คัน หรือขยายตัวกว่า 10% ถึง 23% ขยายตัวต่อเนื่องจากปี 2563 ที่คาดว่าจะขยายตัว 17% คิดเป็นยอดขาย 31,000 คัน

ขณะที่รถยนต์ BEV (รถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่) น่าจะมียอดขายประมาณ 4,000-5,000 คัน ขยายตัวกว่า 176% ถึง 245% ขยายตัวต่อเนื่องจากปีนี้ที่คาดว่าจะขยายตัว 102% คิดเป็นยอดขาย 1,450 คัน!!!

เจริญสุข ลิมป์บรรจงกิจ