มีรายงานวิจัยในวารสารแอคต้า ทรอปิกา ระบุว่า ในปี 2551 นั้นมีผู้เสียชีวิตจากแมงป่องกัดกว่า 3,000 คนต่อปีเลยทีเดียว ทำให้นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยปอร์โต ประเทศโปรตุเกส เกิดความสนใจเกี่ยวกับแมงป่องที่แม้จะเป็นสัตว์ตัวเล็กๆ แต่กลับมีพิษร้ายแรงจนสามารถฆ่าคนได้ พวกเขาได้นำแมงป่องพันธุ์ที่มีพิษมาเปรียบเทียบพันธุ์เพื่อวิจัยลักษณะการเคลื่อนไหวและการปล่อยพิษ โดยสร้างพื้นที่ขนาดเล็กๆล้อมรอบด้วยกระจก 4 ด้าน และจับภาพจังหวะการโจมตีด้วยกล้องวีดิโอจากด้านบนได้ภาพเรียงกันต่อเนื่อง 500 ภาพต่อวินาที จากนั้นก็ใช้คอมพิวเตอร์สร้างเป็นแบบจำลองรูปทรง 3 มิติ

ทีมวิจัยเผยว่าแมงป่องเดธ สตอล์คเกอร์ (Death stalker) เป็นชนิดที่มีการโจมตีได้รวดเร็วที่สุด เมื่อยกหางขึ้นเหนือหัวตวัดเหมือนแส้ได้ราว 130 เซนติเมตรต่อวินาที มีพิษทำลายระบบประสาท ทำให้ร่างกายเป็นอัมพาตและถึงตายได้ ขนาดของแมงป่องชนิดนี้มีขนาด 4.3 นิ้ว พบในพื้นที่แห้งแล้งของทวีปแอฟริกาเหนือและตะวันออกกลาง ที่อาศัยอันโปรดปรานของมันคืออยู่ใต้ก้อนหิน ส่วนแมงป่องจักรพรรดิซึ่งเป็นพันธุ์ขนาดใหญ่ที่สุดในโลกจะมีลักษณะการโจมตีคล้ายกัน ขณะที่สายพันธุ์อื่นๆ เช่น แมงป่องแบล็ก สปิตติ้ง (Black spitting) สามารถพ่นพิษได้ในระยะไกล ทำให้พบว่ารูปทรงของหางที่แตกต่างกันจะมีการโจมตีต่อสู้ต่างกัน

อย่างไรก็ตาม พิษของแมงป่องก็เป็นสิ่งที่นักวิทยาศาสตร์ให้ความสนใจที่จะนำมาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ด้านยารักษาโรคบางชนิด.