มีคำถามเกิดขึ้นว่าถึงเวลาแล้วหรือยังที่จะมีการนำ “วีดิโอ เทคโนโลยี” มาช่วยตัดสินในเกมลีกสูงสุดเมืองผู้ดี หลังจบเกมที่ “ปิศาจแดง” แมนฯยูทำได้แค่เปิดบ้านไล่ตีเสมอ “ทอฟฟี่” เอฟเวอร์ตัน หืดจับ 1–1 ในศึกพรีเมียร์ลีก นัดมิดวีก เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา
เพราะว่าเกมนี้มีจังหวะปัญหาเกิดขึ้นในนาทีที่ 71 ของการแข่งขัน ขณะที่ปิศาจแดงยังคงมีสกอร์ตามหลังทีมเยือน 0-1
โดยเป็นจังหวะที่ อันเดร เอร์เรรา โยนบอลจากริมเส้นฝั่งขวาเข้ามาให้ซลาตัน อิบราฮิโมวิช โขกบอลตุงตาข่าย
แต่ผู้ตัดสินไม่ให้เป็นประตูของแมนฯยู เนื่องจากไลน์แมนยกธงส่งสัญญาณว่า ซลาตันอยู่ในตำแหน่งล้ำหน้า ทั้งที่จากการรีเพลย์ภาพช้าแสดงให้เห็นว่า ยอดกองหน้าชาวสวีดิชยืนอยู่ในไลน์เดียวกับผู้เล่นเอฟเวอร์ตัน
ดังนั้น จังหวะนี้จึงไม่ใช่ลูกล้ำหน้าแน่นอน และต้องเป็นประตูตีเสมอ 1-1 ของ “ผีแดง” แมนฯยู
บ่อยครั้งที่กรรมการตัดสินผิดพลาด โดย เฉพาะในเวทีพรีเมียร์ลีก อังกฤษ จนมีเสียงเรียกร้องให้นำเอาเทคโนโลยีวีดิโอมาช่วยตัดสินได้แล้ว ในกรณีที่มีจังหวะปัญหาระหว่างเกมการแข่งขัน
ล่าสุด โจเซ มูรินโญ กุนซือทีมปิศาจแดง ออกโรงเรียกร้องให้มีการนำเทคโนโลยีวีดิโอมาช่วย ผู้ตัดสินในพรีเมียร์ลีก หลังจบเกมที่แมนฯยูเปิดบ้านทำได้แค่ไล่ตีเสมอเอฟเวอร์ตัน หืดจับ 1-1 ในศึกพรีเมียร์ลีก นัดมิดวีก เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา
มูรินโญเชื่อว่า ทีมผีแดงของเขาควรเป็นฝ่ายชนะ 2-1 ในเกมนี้ เพราะลูกโหม่งของ
อิบราฮิโมวิชนั้นไม่ล้ำหน้า “พวกเขาสู้จนวินาทีสุดท้าย และเราน่าจะชนะ 2-1 เพราะมันไม่ใช่ลูกล้ำหน้า (จังหวะโหม่งของอิบราฮิโมวิช) มันเป็นการตัดสินใจที่ยากสำหรับไลน์แมน ผมไม่วิจารณ์เขาหรอก เมื่อวีดิโอ เทคโนโลยีมาถึง มันจะช่วยไลน์แมนและผู้ตัดสินได้มากทีเดียว ถ้าผู้ตัดสินมีจังหวะปัญหา มันควรจะยกประโยชน์ให้ทีมที่เป็นฝ่ายบุก สำหรับผมแล้ว
...
มันไม่ล้ำหน้า แต่พวกเขาคือผู้เชี่ยวชาญ ถ้ามีจังหวะก้ำกึ่ง มันก็ควรเป็นประตู แต่ผมไม่ได้ตำหนิไลน์แมนนะ ผมแค่คิดว่ามันน่าจะเอาวีเออาร์มาใช้ก็เท่านั้น” กุนซือผีแดงระบุ
ปัจจุบัน “ฟีฟ่า” ได้มีการนำเทคโนโลยีวีดิโอช่วยตัดสิน (Video Assistant Referee) หรือที่เรียกย่อๆว่า วีเออาร์ (VAR) มาใช้ และก็ได้ผลเป็นอย่างดี
โดยในเกมกระชับมิตรทีมชาติที่ “ตราไก่” ทีมชาติฝรั่งเศสเปิดบ้านแพ้ให้กับ “กระทิงดุ” ทีมชาติสเปน 0-2 เมื่อวันที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมา ก็มีการนำเทคโนโลยี “วีเออาร์” มาตัดสินจังหวะปัญหาถึง 2 ครั้งด้วยกัน
จังหวะแรกเกิดขึ้นในนาทีที่ 47 เมื่อเลย์แวง คูร์กซาวา โหม่งตั้งให้อองตวน กรีซมันน์ โขกบอลตุงตาข่าย แต่ผู้ตัดสินชาวเยอรมันไม่มั่นใจ จึงปรึกษาทีมงานและขอดูภาพช้า ก่อนจะกลับคำตัดสินไม่ให้เป็นประตู เพราะเห็นว่าคูร์กซาวาอยู่ในตำแหน่งล้ำหน้าไปก่อน
จังหวะที่สองเกิดขึ้นในนาทีที่ 77 ซึ่งเป็นลูกที่สเปนได้ประตูนำห่าง 2-0 โดยจอร์ดี อัลบา เปิดบอลไปที่เสาไกลให้เคราร์ด เดวโลเฟว ยิงจ่อๆเข้าประตูไป
ซึ่งดูก้ำกึ่งว่าจะเป็นลูกล้ำหน้า ก่อนที่ผู้ตัดสิน จะขอดูภาพรีเพลย์และตัดสินให้เป็นประตูในที่สุด เนื่องจากเห็นว่า เดวโลเฟวไม่อยู่ในตำแหน่งล้ำหน้า
นี่คือคุณประโยชน์ของเทคโนโลยีวีดิโอ หรือวีเออาร์ ที่จะสามารถสร้างความยุติธรรมให้กับเกมลูกหนังอย่างแน่นอน.
หมวดแซม