สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกรมการขนส่งทางบก ตั้งโต๊ะแถลงข่าวด่วน ยอมอนุโลมให้ผู้โดยสารท้ายรถกระบะ และโดยสารภายในแค็บรถกระบะไปจนกว่าพ้นเทศกาลสงกรานต์ โดยให้เจ้าหน้าที่ตักเตือนละเว้นโทษปรับ ให้ทำความเข้าใจว่ายังห้ามอยู่...

จากกรณีที่เมื่อวันที่ 5 เม.ย. ในการประชุมของตำรวจ ร่วมกับหน่วยงานในสังกัดทั่วประเทศผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ เพื่อวางมาตรการดูแลประชาชนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พล.ต.ท.วิทยา ประยงค์พันธุ์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ตำรวจเน้นย้ำการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะการไม่สวมหมวกนิรภัย ไม่คาดเข็มขัดนิรภัยขณะขับขี่ ไม่มีใบอนุญาตขับขี่ เมาแล้วขับ และขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด โดยให้กวดขันจับกุมผู้กระทำความผิดทั้งรถส่วนบุคคลและรถของหน่วยงานราชการ โดยมีประเด็น เรื่องการใช้รถผิดประเภท หรือการบรรทุกคนบริเวณท้ายกระบะที่กำลังเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางในวงสังคม และประชาชนทั่วประเทศ นั้น

พล.ต.ท.วิทยา ระบุว่า ทาง พลตำรวจเอกสุวิระ ทรงเมตตา ที่ปรึกษาสัญญาบัตร 10 ยืนยันว่า ไม่สามารถทำได้ แต่เจ้าหน้าที่จะมีการผ่อนปรนการบรรทุกผู้โดยสารภายในแค็บของรถเป็นกรณี โดยหากพิจารณาว่ามีความจำเป็นและเดินทางไม่ไกลจะใช้การตักเตือน แต่หากพบการบรรทุกในเชิงรับจ้างขนส่ง ก็จะถูกจับกุมดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมเชิญชวนให้ประชาชนใช้รถขนส่งสาธารณะในการเดินทางกลับภูมิลำเนาแทนการเดินทางไปภายในแค็บของกระบะเพื่อความปลอดภัย

...

เมื่อ 18.00 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พลตำรวจเอกเดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วยนายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก แถลงข่าวภายหลังวันนี้เป็นวันแรกที่มีการบังคับใช้กฎหมายห้ามผู้โดยสารนั่งท้ายรถกระบะและต้องคาดเข็มขัดทุกที่นั่ง จนถูกประชาชนวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง

พลตำรวจเอกเดชณรงค์ กล่าวว่า การบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวเป็นการบังคับใช้เพื่อความปลอดภัยของประชาชนเอง แต่เมื่อมีการวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง รัฐบาลจึงมอบหมายให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกรมการขนส่งทางบก ออกมาชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชน โดยยอมรับว่าจะผ่อนผันชะลอการบังคับใช้กฎหมายออกไปก่อน โดยในช่วงนี้จะเน้นการประชาสัมพันธ์สร้างความรับรู้ให้กับประชาชนก่อน จากนั้นหลังช่วงสงกรานต์ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะกลับมาหารือกันอีกครั้งว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป โดยไม่สามารถระบุกรอบเวลาการเริ่มบังคับใช้กฎหมายได้

"ในช่วงนี้จะยังไม่มีการจับปรับรถกระบะ ทั้งที่มีผู้นั่งท้ายกระบะ หรือผู้โดยสารที่อยู่ในแค็บท้ายกระบะ หากเจ้าหน้าที่พบจะมีการประชาสัมพันธ์ให้ทราบถึงข้อกฎหมาย ในส่วนของการคาดเข็มขัดนิรภัยทุกที่นั่งนั้น เจ้าหน้าที่จะยังเน้นบังคับใช้กฎหมายในการจับปรับผู้โดยสารเบาะคู่หน้าต่อไป ส่วนผู้โดยสารด้านหลังหากไม่คาดเข็มขัด เมื่อเจ้าหน้าที่พบก็จะทำการตักเตือนก่อน ซึ่งหากประชาชนพบเจ้าหน้าที่คนใดพยายามเรียกรับผลประโยชน์ในส่วนนี้ สามารถถ่ายคลิปแจ้งมายังสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ทันที" รอง ผบ.ตร.กล่าว

พลตำรวจเอกเดชณรงค์ ยอมรับว่า เจ้าหน้าที่เข้าใจดีถึงวิถีชีวิตในการเดินทางคนไทย แต่เมื่อมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ เจ้าหน้าที่และรัฐบาลก็มองประชาชนเป็นศูนย์กลาง จึงพร้อมน้อมรับทุกความคิดเห็นของประชาชน ส่วนข้อเรียกร้องของประชาชนที่ต้องการให้ยกเลิกบังคับใช้กฎหมายห้ามนั่งท้ายกระบะนั้น ตนยืนยันรัฐบาลจะพยายามหาทางออกที่ดีที่สุดสำหรับประชาชน อย่างไรก็ตาม รัฐบาลก็ยังมีความห่วงใยในเรื่องความปลอดภัยของประชาชน จึงอยากเตือนประชาชนให้ระวังการโดยสารท้ายรถกระบะ โดยเฉพาะการเดินทางในช่วงสงกรานต์นี้.