เมื่อวานนี้ผมเขียนถึงสถานภาพของเด็กไทยที่จะเติบใหญ่เป็น “ทรัพยากรมนุษย์” ที่สำคัญของประเทศในภายภาคหน้าว่า ยังมีปัญหาอยู่อีกเยอะ โดยเฉพาะปัญหาในเรื่องการศึกษา
ผลการสอบโอเน็ตล่าสุดปรากฏว่าคะแนนเฉลี่ยของเด็กไทยทั่วประเทศ ถือว่า “สอบตก” ในทุกหมวด โดยเฉพาะที่ตกอย่างน่าเป็นห่วงคือหมวดวิทยาศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และคณิตศาสตร์ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาและการแข่งขันกับประเทศอื่นๆในอนาคต
ผมยังเขียนล้อเลียนเอาไว้ว่า ถ้าคุณภาพของเด็กไทยเรายังเป็นเช่นนี้ เราจะเดินหน้าไปสู่ความฝัน “ไทยแลนด์ 4.0” ได้อย่างไร?
แต่ในช่วงจบผมก็ทิ้งท้ายว่าอย่าเพิ่งท้อแท้ก็แล้วกัน เพราะผมเพิ่งไปดูไปเยี่ยมโรงเรียนชั้นยอดมาโรงเรียนหนึ่ง
โรงเรียนที่มุ่งเน้นในการที่จะสอนวิชาวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ (และ ภาษาอังกฤษด้วย) เพื่อจะเตรียมสร้างเด็กไทยไว้สำหรับการเดินไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองทางวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและนวัตกรรมทันสมัยในอนาคต
นั่นก็คือ โรงเรียนกำเนิดวิทย์ ซึ่งเป็นโรงเรียนที่กลุ่ม ปตท. จัดสร้างขึ้น เนื่องในวโรกาสครบรอบ 60 พรรษา ของ สมเด็จพระเทพรัตน ราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งตั้งอยู่ ณ เลขที่ 999 หมู่ 1 ตำบลป่ายุบใน อำเภอวังจันทร์ จังหวัดระยอง
ผมเคยเขียนถึงโรงเรียนนี้ไว้แล้วครั้งหนึ่งว่าเป็นโรงเรียนที่มีวัตถุประสงค์ที่จะสอนเด็กให้เป็นนักวิทยาศาสตร์ชั้นนำเพื่อการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน โดยการจัดการศึกษาที่มีมาตรฐานระดับโลกให้แก่ผู้ที่มีความสามารถพิเศษด้านคณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ ระดับมัธยมปลาย
ควบคู่ไปกับการบ่มเพาะจิตวิญญาณของเด็กๆในการที่จะเติบใหญ่ เป็นนักวิจัย นักประดิษฐ์และนักนวัตกรรมควบคู่ไปกับการมีจิตสาธารณะและเจตคติที่ดีต่อประเทศชาติเพื่อนร่วมชาติและเพื่อนร่วมโลก
...
ต่อมาได้รับพระราชทานนามว่า “โรงเรียนกำเนิดวิทย์” จาก สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมกับเปิดรับนักเรียนเข้าเรียนตั้งแต่ปี 2557 เป็นต้นมา
โดยรับนักเรียนเข้าเรียนปีละ 72 คน สำหรับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายในแต่ละระดับชั้น ซึ่ง ณ บัดนี้เปิดสอนครบทั้ง 3 ระดับ คือ 4-5-6 แล้ว จึงมีนักเรียนรวมกันทั้งสิ้น 216 คนตามพิกัด
เหตุที่ต้องรับจำกัดเพียงชั้นเรียนละ 72 คน ก็เพื่อจะแบ่งออกเป็น 4 ห้องเรียน ห้องละ 18 คน ซึ่งจะทำให้ครูสามารถสอนเด็กทุกคนได้อย่างมีคุณภาพสูงสุด
จุดเด่นอีกประการหนึ่งของที่นี่ก็คือจะสอนเป็นภาษาอังกฤษในทุกวิชา เพื่อให้เด็กๆได้รับความรู้ในเนื้อหาวิชาควบคู่ไปกับภาษาอังกฤษ ซึ่งมีความจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการเป็นนักวิทยาศาสตร์ นักวิจัยหรือนักนวัตกรรมในอนาคต
เด็กทุกคนจะเรียนฟรีทั้งหมดและเป็นนักเรียนประจำทั้งหมดเช่นกัน ถือว่าได้ทุนจาก ปตท. และผู้บริจาคอื่นๆที่ร่วมสมทบ
72 คนในแต่ละปีการศึกษาที่คัดเลือกเข้ามานั้น อาจกล่าวได้ว่าเป็นสุดยอดหรือหัวกะทิของเด็กที่มีความสามารถพิเศษด้านคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ของประเทศไทย เพราะจะมาจากจำนวนนักเรียนที่สมัครเข้ามาหลายหมื่นคนทั่วประเทศ...
ผมยังไม่มีโอกาสได้พบปะพูดคุยกับเด็กๆ เพราะห้วงเวลาที่ผมแวะไปเยี่ยมเมื่อสัปดาห์ที่แล้วอยู่ระหว่างปิดเทอม เด็กๆกลับบ้านหมด
แต่จากการได้เห็นสภาพโรงเรียน ได้เห็นห้องเรียน ตลอดจนห้องทดลองและเครื่องไม้เครื่องมือในการเรียนการสอน ฯลฯ
รวมทั้งได้สนทนากับอดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ในฐานะประธานบริหารโรงเรียนกำเนิดวิทย์ ดร.ไพรินทร์ ชูโชติถาวร และท่านผู้อำนวยการโรงเรียน ดร.ธงชัย ชิวปรีชา ซึ่งมีประสบการณ์ในฐานะอดีตผู้อำนวยการ โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ (องค์การมหาชน) มาแล้วถึง 8 ปี ก่อนจะมาเป็นผู้อำนวยการที่นี่
ทำให้ผมเกิดความมั่นใจอย่างยิ่งว่า เด็กๆที่จะทยอยกันจบจากโรงเรียนแห่งนี้ ปีละ 72 คนนั้น จะเติบใหญ่ไปเป็นทรัพยากรมนุษย์อันทรงคุณค่าของประเทศไทย สมกับนาม “กำเนิดวิทย์” ที่สมเด็จพระเทพรัตนฯ พระราชทานไว้
บอกแล้วว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องยาว เขียนแล้วจบวันเดียวยาก... โปรดติดตามอ่านต่อในฉบับวันจันทร์นะครับ.
“ซูม”