สะเดาชนิดนี้ เป็นสายพันธุ์ที่พบขึ้นเองตามธรรมชาติเกือบทุกภาคของประเทศไทย และสายพันธุ์ที่แนะนำในคอลัมน์วันนี้ เป็นพันธุ์ที่พบขึ้นในป่าเขตพื้นที่ จ.พิจิตร ถูกนำเอาต้นไปปลูกขยายพันธุ์นานหลายปีแล้ว มีความโดดเด่นประจำพันธุ์คือ ปลูกแล้วเติบโตได้ในทุกพื้นที่ โดยผู้ปลูกไม่ต้องบำรุงปุ๋ยและใช้ยาฉีดพ่นฆ่าแมลงเลย ต้นจะมีดอกและยอดอ่อนได้ตลอดทั้งปี แม้ในช่วงฤดูฝนที่เป็นช่วงที่สะเดาทั่วไปไม่มียอดอ่อน ขนาดของต้นไม่สูงใหญ่นัก สามารถปลูกลงกระถางขนาดใหญ่ มีดอกและยอดอ่อนให้ผู้ปลูกเก็บรับประทานได้แบบไม่ขาดต้น รสชาติของยอดอ่อนจะมีความขมเหมือนกับยอดสะเดาทั่วไปทุกอย่าง แต่เมื่อนำไปลวกน้ำร้อนแล้วความขมจะหายไปได้อย่างเหลือเชื่อ จะมีเพียงความมันอย่างเดียวรับประทานอร่อยมาก จึงถูกตั้งชื่อว่า “สะเดารวยดอก” ดังกล่าว และได้รับการจดทะเบียนรับรองพันธุ์จากกองพืชสวน กรมวิชาการเกษตร ว่าเป็นพืชปลอดสารพิษอย่างถูกต้อง ทำให้ได้รับความนิยมปลูกอย่างกว้างขวางในเวลานี้

สะเดารวยดอก มีชื่อวิทยาศาสตร์และลักษณะทางพฤกษศาสตร์เหมือนกับสะเดาทั่วไปทุกอย่าง คือ เป็นไม้ยืนต้น ผลัดใบ ปลูกลงดินสามารถสูงได้ 10 เมตร ใบเป็นใบประกอบ ออกเรียงสลับ มีใบย่อย 7-9 คู่ ปลายแหลม โคนเบี้ยว ขอบใบจัก ดอก ออกเป็นช่อขนาดใหญ่ที่ปลายยอด มีกลีบดอก 5 กลีบ เป็นสีขาวอมเหลืองหรือสีขาวนวล มีเกสรตัวผู้ 10 อัน “ผล” รูปกลมรี เมื่อผลแก่เป็นสีเหลือง มีเมล็ด มีดอกและยอดอ่อนทั้งปีไม่ขาดต้น ซึ่งสะเดาทั่วไปจะมีดอกและยอดอ่อนเฉพาะช่วงระหว่างเดือนกุมภาพันธ์–พฤษภาคม ของทุกปี ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด ประโยชน์ทางอาหาร ยอดอ่อน ดอกอ่อนลวกหรือกินสดกับน้ำพริกชนิดต่างๆอร่อยมาก โดยเฉพาะดอกอ่อนยอดอ่อนของ “สะเดารวยดอก” ลวกแล้วเหลือความมันอย่างเดียวเท่านั้น

...

ใคร ต้องการกิ่งตอนแท้ติดต่อ “คุณเจษฎา สุวรรณศรี” หรือ สวนลุงสอน 55/1 หมู่ 14 ต.หนองบัว อ.หนองบัว จ.นครสวรรค์ โทร.08–1888–6245, 08–9666–7580 หรือไปซื้อที่งานเกษตรย่าโม จ.นครราชสีมา วันที่ 23 มี.ค.–3 เม.ย.60 ราคาสอบถามกันเองครับ.

“นายเกษตร”