ระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก Eastern Economic Corridor (EEC) ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง เวลานี้กำลังฮอตฮิต ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯเศรษฐกิจ กำลังผลักดันเต็มที่ มีโปรเจกต์เกิดขึ้นมากมาย วันที่ 5 เมษายน จะมีการประชุมคณะกรรมการชุดใหญ่ มี นายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นประธาน เพื่อประกาศให้ พื้นที่รอบสนามบินอู่ตะเภา 6,500 ไร่ เป็น เขตส่งเสริมระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ เมืองการบินภาคตะวันออก Eastern Airport City
เป็นงานสร้างที่ยิ่งใหญ่อลังการมาก จะส่งผลให้ราคาที่ดินรอบสนามบิน อู่ตะเภาขยับขึ้นไปหลายเท่า เจ้าของที่ดินจะกลายเป็นเศรษฐีทันที นิคมอุตสาหกรรมก็จะมีกำไรบานเบิก เศรษฐกิจภาคตะวันออกจะโชติช่วงชัชวาลขึ้นมาอีกครั้ง
นอกจาก เมืองอู่ตะเภาแอร์พอร์ตซิตี้ แล้ว ดร.สมคิด จะเร่งเปิดประมูล รถไฟความเร็วสูงสายกรุงเทพฯ-ระยอง ในกลางปีนี้ เพื่อให้เชื่อมกับสนามบินอู่ตะเภา ลงจากเครื่องบินปุ๊บก็นั่งรถเข้าบริษัทหรือโรงงานได้ทันที หรือขึ้นรถไฟความเร็วสูงจากสนามบินอู่ตะเภาเข้ากรุงเทพฯได้ทันที ไม่ต้องเสียเวลามากมายเหมือน สนามบินสุวรรณภูมิ ถ้าโครงการนี้เสร็จเมื่อไหร่ สนามบินสุวรรณภูมิมีหนาวแน่ เพราะช้าทุกอย่าง นักธุรกิจที่อยู่ในเขตอีอีซีจะไม่ต้องไปใช้สนามบินสุวรรณภูมิอีกต่อไป
ดร.สมคิด ประกาศจะปั้น สนามบินอู่ตะเภา ให้เป็น ศูนย์กลางการบินในภูมิภาค มีทั้ง รถไฟความเร็วสูง โรงเรียนการบิน ศูนย์ซ่อมเครื่องบิน ศูนย์โลจิสติกส์ ศูนย์อุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า แต่ให้ “กองทัพเรือ” เป็น หน่วยงานหลัก นี่สิ น่าเป็นห่วง แม้จะให้ กระทรวงอุตสาหกรรม เข้าไปร่วมด้วยก็ตาม
อีกโครงการที่ถือเป็น “ความหวังใหม่” ของ ประเทศไทย ที่อยู่ในเขตเศรษฐกิจระเบียงเศรษฐกิจตะวันออกก็คือโครงการ “ซิลิคอน วัลเลย์ ไทยแลนด์” หรือ “ดิจิทัล พาร์ค ไทยแลนด์” เรื่องนี้ ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีกระทรวงดิจิทัล ให้สัมภาษณ์ไว้ในวารสาร “การเงินธนาคาร” ฉบับเดือนมีนาคม ค่อนข้างละเอียดว่า
...
จะใช้พื้นที่ของ การสื่อสารแห่งประเทศไทย หรือ แคท จำนวน 621 ไร่ ที่อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี จัดตั้งเป็น ศูนย์กลางทางนวัตกรรม ให้เป็นเหมือน ซิลิคอน วัลเลย์ สัญชาติไทย เพื่อทำให้ประเทศไทยเก่งทางเทคโนโลยีดิจิทัล โดยใช้ความได้เปรียบของโครงสร้างพื้นฐานเน็ตเวิร์ก เพราะพื้นที่ตรงนั้นเป็นจุดที่เคเบิลใต้น้ำโผล่ขึ้นมา ทำให้มีแบนด์วิธเยอะมาก เหมาะสำหรับกิจการใหม่ๆระดับประเทศและระดับโลก
ดร.พิเชฐ บอกว่า ดิจิทัล พาร์ค ไทยแลนด์ จะเป็นยุทธศาสตร์แนวตั้ง เพื่อสร้างความเก่งด้านดิจิทัลให้ประเทศไทย เราจะเชิญเอกชน ต่างประเทศเข้าร่วม เช่น กูเกิล เฟซบุ๊ก ด้านการวิจัยก็จะดึงสถาบันวิจัยชั้นนำในต่างประเทศมาร่วม เช่น เอ็มไอที หัวเหว่ย มหาวิทยาลัยโตเกียว China Academy of Science และจะดึงดูดคนไทยเก่งๆเข้ามา จะสร้างที่พักดีๆ มีสิ่งแวดล้อมที่น่าอยู่เพื่อให้เกิดไอเดียสร้างสรรค์
“ตัวชูโรง” ใน Silicon Valley Thailand ที่รัฐบาลให้ความสำคัญมากที่สุด ดร.พิเชฐ บอกว่า เป็นอุตสาหกรรมยานยนต์ ที่กำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน จะมีองค์ประกอบดิจิทัลในยานยนต์มากขึ้น โดยใช้เทคโนโลยี IOT หรือ Internet of Things
ผมก็หวังว่า อีสเทิร์น แอร์พอร์ต ซิตี้ และ ซิลิคอน วัลเลย์ ไทยแลนด์ จะเป็นเมือง Smart City ที่สมบูรณ์แบบอย่างแท้จริง มีผังเมืองที่สวยงามเป็นสัดส่วน มีสิ่งแวดล้อมที่ดีสวยงาม มีกฎหมายที่เข้มงวดและเป็นธรรม อย่าให้เหมือนสมาร์ทซิตี้ที่ประกาศไปก่อนหน้านี้ ดูยังไงก็ไม่สมาร์ท แค่ผังเมืองก็สอบตกแล้ว
แต่สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ การทำความฝันให้เป็นความจริง ซึ่งจะต้อง ทำให้เกิดขึ้นเร็วที่สุดในปีสองปี เพื่อให้ “ไล่ทัน” การเปลี่ยนแปลงของโลกดิจิทัล เพราะโลกดิจิทัลวันนี้เขาแข่งกันที่สปีดความเร็ว และเป็นความเร็วในโลกอนาคต ไม่ใช่ในโลกปัจจุบัน.
“ลม เปลี่ยนทิศ”