เจเจ กฤษณภูมิ เผยลงรูปเท้าเหยียบอกและแท็กหาต้าเหนิง กัญญาวีร์ แค่อยากลงรูปเล่นกัน แต่ลบออกไปหลังคนรอบข้างเตือนว่าไม่เหมาะสม หลังจากนี้ต้องคิดก่อนลงรูปมากขึ้น แจงออกงานคู่กับต้าเหนิงแต่ไม่สัมภาษณ์คู่กันเพราะต้องรีบไปงานต่อ
ตกเป็นประเด็นดราม่าอีกแล้วสำหรับนักแสดงหนุ่มคลื่นลูกใหม่ เจเจ กฤษณภูมิ พิบูลสงคราม และนักแสดงสาวหน้าใสจากซีรีส์ฮอร์โมนฯ ต้าเหนิง กัญญาวีร์ สองเมือง เพราะล่าสุดฝ่ายหนุ่มเจเจลงรูปเท้าเหยียบอกแล้วแท็กไปหาต้าเหนิง แต่หลังจากลงรูปไปไม่นานก็ลบรูปดังกล่าวทิ้ง ท่ามกลางกระแสวิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสม เจอ เจเจ มาร่วมงาน “สุดสัปดาห์คนหล่อขอทำดีปี 10” ณ ลานอีเดน ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เลยถามถึงเรื่องนี้
ซึ่ง เจเจ ชี้แจงถึงภาพดังกล่าวว่า "อันนั้นก็เป็นรูปที่เล่นกัน ไม่ได้คิดอะไรก็เลยลงไป เหตุที่ลบรูปทิ้งเพราะว่ามีคนรอบข้างเตือนมาว่ามันไม่เหมาะสม จริงๆ ตอนที่ลงรูปนี้ไปฟีดแบ็กคอมเม้นต์ส่วนใหญ่จะขำๆ ไม่ค่อยเห็นคอมเม้นต์ที่เข้ามาด่าเท่าไหร่ ซึ่งตัวผมเองก็ไม่ได้ซีเรียสอะไร ปกติเราสองคนไม่ได้เล่นอะไรแบบนี้บ่อย แต่มันเป็นจังหวะที่เล่นกันแล้วเห็นว่าขำดีก็เลยถ่ายรูปไว้ ผมก็ต้องขอโทษทุกคนด้วยที่ไม่ทันได้คิดว่าการเล่นแบบนี้อาจจะไม่เหมาะสมกับวัฒนธรรมไทย" ตอนแรกคิดไหมว่ามันจะกลายเป็นเรื่องแบบนี้? "ไม่นะครับ เพราะว่ามันไม่ได้มีฟีดแบ็กด้านลบมาถึงตัวผมเท่าไหร่ ซึ่งผมก็ไม่ได้ไปตามอ่านดูว่าเขาว่ากันยังไงบ้าง เพราะว่าลงรูปไปประมาณ 7 นาทีก็ลบออก" หลังจากนี้เวลาจะเล่นอะไรต้องระวังมากขึ้นไหม? "คิดมากขึ้นครับ จริงๆ การที่ลงรูปครั้งนี้ไปเป็นเพราะว่าตัวผมไม่ได้คิดอะไร มองว่าเป็นเรื่องขำๆ ไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องขนาดนี้" แล้วทางต้าเหนิงมีฟีดแบ็กมาถึงตัวเขายังไงบ้างไหม? "ไม่มีนะครับ เราสองคนก็ได้คุยกันเรื่องนี้และขำๆ ตัวเขาก็ไม่ได้เครียดด้วย แต่ก็ไม่อยากให้ใครไปโจมตีเขา ผมผิดเองเพราะผมเป็นคนลงรูปเอง ถ้าจะด่ามาด่าผมดีกว่า ส่วนทางผู้ใหญ่ก็อาจจะมีเตือนมาบ้างว่ามันไม่เหมาะสม ซึ่งผมก็รับฟัง"
...
ถามถึงงานก่อนหน้าที่ออกคู่กับต้าเหนิง แต่กลับไม่ได้ให้นักข่าวสัมภาษณ์? "วันนี้มีสองงาน พอเสร็จจากการเดินแบบก็ต้องวิ่งมางานที่สองต่อเพราะว่าเขาให้มาสแตนด์บายตอนบ่าย 3 โมง ซึ่งงานนั้นก็เสร็จเวลาใกล้มากเลยต้องรีบออกมา ถามว่าได้มีการแจ้งไว้ก่อนล่วงหน้ามั้ยว่าไม่สะดวกให้สัมภาษณ์ อันนี้ผมไม่ชัวร์ ต้องถามฝั่งทีมเออาร์ แต่ว่างานที่ไปเดินแบบเป็นงานแทรก ซึ่งผมรับงานที่นี่ไว้ก่อนแล้ว ไม่ได้มีเจตนาที่จะหลบหรือว่าชิ่งไม่ให้สัมภาษณ์เพราะต้องรีบมางานนี้จริงๆ เพราะระหว่างทางที่มาทีมงานก็โทรตามตลอดว่าถึงไหนแล้ว" คนเลยมองว่าพอเริ่มดังพักหลังก็เริ่มเยอะขึ้น? "ไม่ใช่นะครับมันเป็นด้วยจังหวะมากกว่า ผมก็ต้องมาสแตนด์บายงานนี้ด้วย เพราะว่ามีคนอื่นอีกเยอะก็ไม่อยากให้ใครต้องมารอ".