การเปลี่ยนรัฐบาลใหม่ทำให้ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายปี 2567 คลอดช้ากว่า ปกติไป 7 เดือน
จากที่เคยเริ่มเปิดท่อจ่ายต้นเดือนตุลาคมทุกปี จึงต้องชักตะพานแหงนเถ่อไปถึงปีหน้าปลายเดือนเมษายน
โดย นายกฯเศรษฐา ทวีสิน จะเสนอ ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายปี 2567 ต่อสภาผู้แทนราษฎรต้นเดือนมกราคม
ยังต้องรอให้สภาฯใช้เวลาทำคลอดอีก 3 เดือน
แล้วส่งให้วุฒิสภาตัดสายสะดือก่อนสงกรานต์
ก่อนนำขึ้นทูลเกล้าฯประกาศใช้ปลายเดือนเมษายน
“แม่ลูกจันทร์” สรุปวงเงินงบประมาณรัฐบาลปี 2567 ล็อกไว้ที่ 3.48 ล้านล้านบาท
พองขึ้นกว่างบปี 2566 รัฐบาลลุงตู่ 2.9 แสนล้านบาท
แต่แนวทางจัดทำงบประมาณรายจ่ายของรัฐบาลใหม่ยังคงใช้ตำราเดียวกับรัฐบาลเดิม
คือจัดงบแบบลิงอุ้มแตง
ตั้งรายจ่ายสูงกว่ารายรับถึง 6.9 แสนล้านบาท
ต้องกู้เงินมาโปะส่วนที่ขาดอีกก้อนโต
“แม่ลูกจันทร์” มองว่าการจัดงบ ประมาณขาดดุลติดลบตัวแดงต่อเนื่องกัน 10 ปี ชี้ให้เห็นปัญหาใหญ่ 2 ประการ
1, ประสิทธิภาพการหารายได้ของรัฐบาลไล่ตามรายจ่ายไม่ทัน
ทำให้ต้องกู้ซ้ำกู้ซากจนหนี้สูงทะลุเพดาน
2, ภาระรายจ่ายประจำที่รัฐบาลแบกจนหลังแอ่นบานขึ้นๆทุกปีๆ
หากปล่อยให้รายจ่ายสูงกว่ารายรับอีกไม่เกิน 10 ปี จะเกิดปัญหาใหญ่ตามมาอย่างแน่นอน
“แม่ลูกจันทร์” ชี้ว่า จุดสลบของงบประมาณรายจ่ายรัฐบาลคือ รายจ่ายประจำบานฉ่ำไปถึง 2.6 ล้านล้านบาท
บวมขึ้นจากงบปีล่าสุด 2 แสนล้านบาท
หรือ 75 เปอร์เซ็นต์ของรายจ่ายประเทศโดยรวม
รายจ่ายประจำที่บานไม่หุบคือ เบี้ยหวัดบำนาญข้าราชการที่พุ่งไปถึง 3.2 แสนล้านบาท
...
เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 6,640 ล้านบาท
รายจ่ายชดเชยเงินคงคลังและรายจ่ายผ่อนชำระเงินกู้ที่รัฐบาลเก่าก่อไว้อีกกว่า 2.2 แสนล้านบาท
รายจ่ายโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เบี้ยยังชีพคนชรา เบี้ยคนพิการ และสวัสดิการจิปาถะอีกกว่า 2 แสนล้านบาท
อ้อ...ยังมีงบโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าอีก 2.1 แสนล้านบาท
และรายจ่ายอื่นๆอีกนุงนังพันเต
“แม่ลูกจันทร์” เจาะงบรายจ่ายแยกเป็นรายกระทรวง...
อันดับ 1, กระทรวงมหาดไทยรับประเคนไป 3.5 แสนล้านบาท
กระทรวงศึกษาฯ อันดับ 2, รับไปเน็ตๆ 3.2 แสนล้านบาท
กระทรวงการคลัง อันดับ 3, ตามมาติดๆ 3.2 แสนล้านบาท
กระทรวงกลาโหม อันดับ 4, อัดไป 1.9 แสนล้านบาท
และกระทรวงคมนาคม อันดับ 5, กวาดไป 1.8 แสนล้านบาท
“แม่ลูกจันทร์” เทียบงบปีสุดท้ายของนายกฯประยุทธ์กับงบปีแรกของนายกฯเศรษฐา
รัฐบาลลุงตู่ จัดงบขาดดุลปีสุดท้ายอีก 6.95 แสนล้านบาท
รัฐบาลเศรษฐา จัดงบขาดดุลปีแรก 6.93 แสนล้านบาท
สรุปเศรษฐากู้น้อยกว่าประยุทธ์เพียง 2,000 ล้านบาท
ลูกศิษย์อาจารย์กู้ทั้งคู่ว่างั้นเถอะ.
“แม่ลูกจันทร์”