แม่สุดเศร้า ลูกป่วยโรค 1 ในล้าน ยิ่งในทารกหญิงพบยาก เกิดเหตุระทึก 2 ครา ลูกโคม่าแต่รอดปาฏิหาริย์ สุดท้ายสุดยื้อ วินาทีบีบหัวใจ ให้เลือกและสั่งลาทั้งน้ำตา ลูกมีชีวิตแค่ 14 ชม. จากลากะทันหัน สุดสะเทือนใจ นอกจากไม่มีโอกาสได้อุ้ม กอด หอมแก้ม ให้นมลูกสักครั้ง แม้แต่งานฝังศพลูกก็ไปไม่ได้ เฝ้ารอร่างกายแข็งแรงเพื่อกอดหลุมฝังศพลูก....

“หลังลูกคลอด เกิดความเป็นความตายเท่ากันของเราแม่ลูก ตอนนั้นไม่รู้ว่าใครจะไปก่อนกัน แม่ก็ตกเลือด ยังไม่ได้อุ้ม ไม่ได้ให้นมลูก ลูกก็ต้องถูกส่งตัวไปรักษา รพ.อีกจังหวัด ทุกอย่างไม่ได้ผิดที่ รพ. แต่เป็นที่ตัวลูกเองที่โชคร้ายเกิดมาผิดปกติ ไม่นึกว่าลูกจะเป็นแบบนี้ หมอบอกเป็นเคส 1 ในล้าน

“ฟ้า” (นามสมมติ) วัย 23 ปี ผู้เป็นแม่ เปิดใจกับทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ ด้วยน้ำเสียงสั่นเครือที่ยังรู้สึกเศร้าใจ ย้อนเล่าเหตุการณ์วันที่ลูกคนที่สองของครอบครัวลืมตาดูโลก ด้วยอายุครรภ์ 40 สัปดาห์ ในวันพุธที่ 21 สิงหาคม 2562 เวลา 14.00 น. ณ รพ.แห่งหนึ่งของภาคใต้

1 ในล้านที่พบ ยิ่งในทารกผู้หญิง เกิดได้ยาก

หลังหมอตรวจปากมดลูกเปิดได้ 9 เซนก็พร้อมคลอด ซึ่งเธอดีใจมากที่จะได้เจอหน้าลูก หลังเฝ้าดูแล บำรุงครรภ์มาอย่างดีกว่าท้องแรก ฝากครรภ์กับ รพ.รัฐ และคลินิก อัลตราซาวนด์ทุกเดือน ลูกแข็งแรงและหายใจปกติดีทุกอย่าง น้ำหนักเยอะกว่าลูกคนแรกด้วยซ้ำ แต่พอคลอดแล้ว ก็ต้องพบกับเรื่องไม่คาดคิด

ลูกที่จากไปอย่างกะทันหันหลังคลอด โดยที่ผู้เป็นแม่ไม่มีโอกาสแม้แต่จะได้อุ้ม ได้กอด ได้หอมแก้ม ได้ให้นมลูกสักครั้ง
ลูกที่จากไปอย่างกะทันหันหลังคลอด โดยที่ผู้เป็นแม่ไม่มีโอกาสแม้แต่จะได้อุ้ม ได้กอด ได้หอมแก้ม ได้ให้นมลูกสักครั้ง

...

เหมือนฟ้าผ่าลงกลางใจ ลูกเกิดมาพร้อมกับโรค “ไส้เลื่อนกระบังลม” (Congenital diaphragmatic hernia) ทำให้เกิดความผิดปกติ คือ ตรงกระบังลมมีรู ลำไส้กับกระเพาะอาหารเลยผ่านรูเข้าไปช่องอก เบียดปอด และหัวใจไปอยู่อกขวา ทำให้หายใจเองไม่ได้ ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ และต้องได้รับการผ่าตัดด่วนที่สุด หมอรีบติดต่อ รพ.อื่นเพื่อส่งตัวไปผ่าตัด พยายามโทรเช็ก รพ.หลายแห่งที่มีเครื่องมือรองรับการผ่าตัด แต่ต้องผิดหวัง โชคร้ายเตียงเต็ม กระทั่ง รพ.หนึ่งในจังหวัดใกล้เคียงพร้อมให้การรักษา 

“ลูกคนแรกเกิดมาปกติทุกอย่าง ท้องนี้แม่ดูแลดีกว่าท้องแรกอีก ไม่คาดคิดเหมือนกันว่าจะเจอเรื่องโชคร้าย อาการของลูก มองด้วยตาเปล่าหรืออัลตราซาวนด์ไม่เห็น จะมารู้สาเหตุความผิดปกติก็หลังคลอดแล้ว หมอ พยาบาลในห้องคลอดงงกันหมด ลูกเกิดมาไม่ร้อง ต้องรีบเอกซเรย์ถึงพบความผิดปกติ ว่าเป็นโรคไส้เลื่อนกระบังลม หมอบอกเด็กทารก 1 ในล้านที่จะพบ ยิ่งในทารกผู้หญิงยิ่งเกิดได้ยากมาก 

ผลอัลตราซาวนด์ทุกเดือน ไม่พบความผิดปกติของลูก
ผลอัลตราซาวนด์ทุกเดือน ไม่พบความผิดปกติของลูก

เกิดเหตุระทึก “ลูกโคม่า” 2 ครา รอดปาฏิหาริย์ 

เธอต้องอยู่รักษาตัวจากอาการตกเลือด มีเพียงสามีต้องไปกับลูก ระหว่างเดินทางเธอโทรสอบถามอาการด้วยความห่วงใย และหัวใจคนเป็นแม่แทบแตกสลาย เกิดเหตุระทึก ลูกมีภาวะ “หัวใจหยุดเต้น” ต้องรีบหา รพ.ใกล้ที่สุด ปั๊มหัวใจและยื้อชีวิตลูกกลับมาได้ สร้างความดีใจให้เธอและสามีอย่างมาก

แต่เดินทางต่อไม่ถึง 15 นาที ลูกหยุดหายใจอีกครั้ง เนื่องจากเครื่องช่วยหายใจปั๊มด้วยมือ หมอที่ร่วมเดินทางจึงตัดสินใจนำตัวเข้า รพ.ใหญ่ประจำจังหวัด ทันทีที่รถจอด หมอและพยาบาลรีบกรูมารับไปรักษา สายระโยงระยางเต็มตัวลูกไปหมด ใส่ท่อช่วยหายใจ เจาะท้องเพื่อตรวจเลือด เนื่องจากตามร่างกายลูกโดนเจาะเยอะแล้ว จากนั้นถูกส่งตัวไปเอกซเรย์

“หมอศัลยกรรมเด็กในภาคใต้มีแค่ 5 คน ที่รองรับการรักษา ซึ่งมีแค่จังหวัดที่ลูกจะเดินทางไป แม่ไม่ได้ไปด้วย เพราะรักษาตัวเองอยู่ ให้สามีไปกับลูก สามีเล่าว่า ทุกครั้งที่ยื้อชีวิตลูกกลับมาได้ สามีมีความหวังว่าลูกจะต้องรอด ระหว่างถูกยื้อชีวิต ลูกใจสู้มาก พยายามลืมตา ขยับมือเท้าไปมาเพื่อสื่อว่าลูกยังสู้ ความรู้สึกของพ่อแม่คือลูกต้องปลอดภัย ลูกต้องสู้ ลูกต้องหาย”

...

เลือกทั้งน้ำตา “อยู่ต่อ” อย่างทรมาน หรือ “จากไป” อย่างสงบ

นั่นคือความรู้สึกที่เปี่ยมความหวังของเธอและสามีที่อยากให้ “ลูก” รอด แต่เหมือนโลกแตกสลาย เมื่อหมอบอกให้ “ทำใจ” พร้อมแจ้งผล ลูกมีโอกาสรอดน้อยมาก ถ้าส่งตัวต่อ เกรงจะเสียชีวิตกลางทาง เนื่องจากลูกหยุดหายใจบ่อย อีกทั้งหากถึง รพ.ที่รองรับการผ่าตัดและผ่าตัดสำเร็จ ลูกอาจไม่รอด หรือถ้ารอดก็มีชีวิตไม่เกิน 1-3 ปี

เนื่องจากลำไส้สร้างเซลล์ผิดที่แต่แรก ลำไส้สร้างเซลล์ส่วนบนตรงกระบังลมทำให้ลำไส้และกระเพาะเบียดขึ้นไปทับปอดทับหัวใจ ซึ่งปอดจะขยายตามอายุคน ปอดลูกถูกทับจนขยายไม่ได้ หรือไม่สามารถขยายได้ ส่งผลปอดแฟ่บ เนื่องจากโดนทับก็ไม่สามารถหายใจเองได้ แม้ถ้าผ่าตัดเหลือแค่ปอดข้างเดียว อีกข้างแฟ่บ ก็หายใจเองไม่ได้อยู่ดี ต้องศัลยกรรมหาปอดใหม่มาเปลี่ยน แต่นั่นยากมากที่จะทำได้ 

28 ส.ค. 62 ผู้เป็นแม่มารักษาอาการตกเลือด และได้เข้ามาในห้องที่เคยคลอดลูก ห้องที่ลูกได้มีโอกาสหายใจและลืมตาดูโลกครั้งแรก  เธอสัมผัสเตียงที่ลูกเคยอยู่อย่างทะนุถนอมให้คลายคิดถึงลูก
28 ส.ค. 62 ผู้เป็นแม่มารักษาอาการตกเลือด และได้เข้ามาในห้องที่เคยคลอดลูก ห้องที่ลูกได้มีโอกาสหายใจและลืมตาดูโลกครั้งแรก เธอสัมผัสเตียงที่ลูกเคยอยู่อย่างทะนุถนอมให้คลายคิดถึงลูก

...

ส่วนหัวใจที่โดนทับก็ขยายไม่ได้ แม้ผ่าตัด ลูกจะมีหัวใจเล็กกว่าปกติ ใช้ชีวิตปกติไม่ได้ หมอระบุลูกของเธอโชคร้ายเป็น "โรคไส้เลื่อนกระบังลม" ประเภทหายากที่เกิดขึ้นกับทารกแรกเกิด ซึ่งเกิดจากความผิดปกติของกระเพาะ หรือกระบังลมแต่กำเนิดเอง เป็นเคสที่หายาก 1 ในล้านคนที่จะพบ ซึ่งเกิดจากความผิดปกติของตัวเด็กเอง เหตุที่เจอไม่บ่อย เพราะส่วนมากจะแท้งไปก่อนคลอด หลังฟังหมออธิบายจบ เธอและสามีพร้อมญาติจึงปรึกษากันอย่างเคร่งเครียดอยู่นาน ซึ่งเป็นการตัดสินใจยากที่สุดในชีวิตของทุกคน 

“วินาทีที่ตัดสินใจให้ลูกอยู่หรือไป มันเป็นอะไรที่ยากมาก ความหวังที่รอมานานเป็น 10 เดือน มันจะสลายไปเพียงข้ามคืน ทรมานและเจ็บปวดที่สุด ร้องไห้จนแทบขาดใจ สงสาร ไม่อยากให้ลูกทรมานกับแผลผ่า กับสิ่งที่ลูกเป็น และอดสงสาร อดเห็นลูกทรมานไม่ได้ เลยบอกสามีทางโทรศัพท์ว่าถ้าลูกไม่ไหว ปล่อยให้ลูกจากไปอย่างสงบนะพ่อ” 

วินาทีบีบหัวใจ สั่งลาทั้งน้ำตา เกิดมาแค่ 14 ชั่วโมงก็จากลา

หลังละสายจากกัน ผู้เป็นพ่อจึงขอหมอเข้าไปลาลูก พูดคุยร่ำลากันเป็นครั้งสุดท้าย “หากลูกเหนื่อย ถ้าลูกไม่ไหว ก็ขอให้ลูกไปอย่างสงบนะลูก ลูกจะได้ไม่ทรมานอีก พ่อกับแม่รักลูก ถ้าหากแม่กับพ่อพร้อมก็ขอให้ลูกเกิดมาเป็นลูกสาวของพ่อกับแม่อีกนะลูก” หลังลาจากกัน และเดินหันหลังกลับได้ไม่กี่ก้าว ลูกรักก็จากไปอย่างสงบ ในวันที่ 22 สิงหาคม 2562 เวลา 04.00 น. สามีโทรมาบอกเธอด้วยเสียงสั่นเครือ พร้อมมือที่ปาดน้ำตาที่ไหลบ่าจนนองหน้า “ลูกเสียชีวิตแล้วนะ” 

เสื้อผ้าเตรียมไว้ให้ลูก ก่อนเกิดเหตุไม่คาดคิด ลูกเสียชีวิตกะทันหัน หลังคลอดได้ 14 ชั่วโมง
เสื้อผ้าเตรียมไว้ให้ลูก ก่อนเกิดเหตุไม่คาดคิด ลูกเสียชีวิตกะทันหัน หลังคลอดได้ 14 ชั่วโมง

...

เมื่อรู้ว่าลูกจากไปแล้ว เธออยากออก รพ.ทันที ทั้งๆ ที่ยังเจ็บแผล คิดว่าร่างกายตัวเองไหว พยายามเดิน พยายามทำตัวให้ปกติที่สุด เพราะอยากไปหาลูก และคิดถึงลูก แต่อาการตกเลือดยังวิกฤติ และไม่ควรเดินทางไกล เธอเสียใจมากที่ไปหาลูกไม่ได้ ร้องไห้ทั้งคืน กินไม่ได้  นอนไม่ได้ ทรมานมาก ส่วนผู้เป็นพ่อหัวใจแทบแตกสลาย ต้องกลั้นน้ำตาไม่ให้ใครเห็น โดยเฉพาะลูก เพื่อไม่ให้ลูกเป็นห่วง

“ถ้าย้อนเวลาได้ วันคลอดจะขอหมอถ่ายภาพลูกไว้ดูต่างหน้า ได้แต่คิดถึงภาพลูกตอนคลอดออกมา เห็นหน้ากันครั้งแรก มือ เท้า ขยับเขยื้อนไปมา ยังจำแววตาดวงน้อยๆ ที่ลูกมองมาได้”

ที่สุดแห่งความสะเทือนใจ เฝ้ารอวัน "กอดหลุมศพลูก" 

เธอบอกกับทีมข่าวฯ อีกว่าลูกมีชีวิตอยู่บนโลกได้แค่ 14 ชั่วโมง และจากไปอย่างกะทันหัน เป็นเรื่องช็อกและเสียใจที่สุดในชีวิต เพราะนอกจากยังไม่ได้กอด ได้อุ้ม ได้หอม ได้ให้นมลูกสักครั้งแล้ว ยังมีเรื่องช็อกสุดสะเทือนใจยิ่งกว่านั้น วันฝังศพลูกในบ่ายสองของวันนั้น เธอโชคร้าย ไม่ได้เข้าร่วมพิธีอีกด้วย 

ปัจจุบัน เธอออก รพ. มาพักฟื้นที่บ้าน แต่ยังไม่มีโอกาสไปกอดหลุมศพลูก เนื่องจากเลือดยังออก เพราะปากมดลูกยังเป็นแผล งดการเดินทางไกล เหตุเสี่ยงเกิดการช็อกเพราะเสียเลือดเยอะ กว่าสองอาทิตย์แล้วที่ลูกจากไป เธอยังทำใจไม่ได้ และไม่มีวันไหนไม่คิดถึง ร้องไห้ทุกวัน เสื้อผ้าที่เตรียมไว้ให้ลูกเก็บไว้อย่างดีเหมือนเดิม รวมถึงผ้าห่อตัวลูกขณะถูกส่งตัวไปรักษา ในยามคิดถึงลูก เธอก็จะมาลูบคลำ หยิบมาดม มากอดแนบอก

ผ้าห่อตัวลูกในวันถูกส่งตัวไปรักษา
ผ้าห่อตัวลูกในวันถูกส่งตัวไปรักษา

“โรคไส้เลื่อนกระบังลมที่ลูกเป็น หมอบอกว่าตอนลูกอยู่ในท้อง ลูกหายใจเองได้เพราะหายใจร่วมรกกับแม่ พอเกิดมาตัดสายรกแล้ว ทำให้หายใจเองไม่ได้ ตอนนี้คิดถึงลูกเหลือเกิน อยากได้ลูกคืน เวลาคิดถึงลูกก็ร้องไห้ทุกวัน คิดถึงตลอด ทรมานมาก อยากให้แม่ๆ ดูแลลูกให้ดีที่สุด ฝากท้องกับหมอเด็กเฉพาะทาง ตรวจให้ละเอียด หลีกเลี่ยงอาหารทุกอย่างที่คนท้องไม่ควรกิน ไม่ควรกินยาที่หมอไม่ได้สั่งด้วย ตอนก่อนรู้ว่าท้องได้ 1 เดือน แม่เป็นภาวะแท้งคุกคาม และเป็นหวัดหนักมากก็ซื้อยามากินเอง คนที่รู้ว่าตั้งครรภ์แล้วให้รีบไปหาหมอ โดยเฉาะคนที่มีภาวะแท้งคุกคาม" ผู้เป็นแม่กล่าวด้วยความห่วงใย.

อ่านข่าวอื่นที่น่าสนใจ

สืบเสาะข่าว รับเรื่องราวร้องทุกข์ สามารถส่งเรื่องราว หรือประเด็นปัญหาของท่านมาได้ที่