ตามรายงานของ ศูนย์วิจัย TMB ธนาคารทหารไทย ระบุเอาไว้ว่า คนไทยเล่นหวย (ลอตเตอรี่และหวยใต้ดิน) รวมเป็นเงินมหาศาลมากถึงปีละ 2.5 แสนล้านบาท ซึ่งนั่นเท่ากับเงินลงทุนสำหรับโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน!
โดยคนที่มีรายได้ต่ำกว่า 15,000 บาทต่อเดือน ค่าเฉลี่ยสำหรับเงินที่จะใช้ซื้อหวยต่อเดือนต่อคน จะอยู่ที่ 350 บาท ส่วนคนที่มีรายได้มากกว่า 15,000 บาท ค่าเฉลี่ยสำหรับเงินที่จะใช้ซื้อหวยต่อเดือนต่อคน จะอยู่ที่ 680 บาท
ในขณะที่รูปแบบการเล่นหวยนั้น แบ่งออกได้เป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ 1 เล่นขำๆ กลุ่มที่ 2 ชอบหวย และกลุ่มที่ 3 ติดหวย
โดยกลุ่มเล่นขำๆ นั้น 87% จะเลือกเล่นแล้วแต่โอกาส โดยจะใช้เงินซื้อหวยต่อเดือนเฉลี่ยอยู่ที่ 225 บาท แต่มีโอกาสที่จะใช้เงินซื้อเพิ่มในงวดถัดไปถึง 43%
กลุ่มชอบหวย 87% จะเลือกเล่นอย่างน้อยเดือนละครั้ง โดยจะใช้เงินซื้อหวยต่อเดือน เฉลี่ยอยู่ที่ 420 บาท แต่มีโอกาสที่จะใช้เงินซื้อเพิ่มในงวดถัดไปถึง 54%
ส่วนกลุ่มติดหวย 93% จะเลือกเล่นทุกงวด โดยจะใช้เงินซื้อหวยต่อเดือน เฉลี่ยอยู่ที่ 800 บาท แต่มีโอกาสที่จะใช้เงินซื้อเพิ่มในงวดถัดไปถึง 72%
...
จากข้อมูลเพียงเท่านี้ น่าจะบอกได้แล้วว่า การเล่นหวยนั้น อยู่ในสายเลือดของคนไทยเราขนาดไหน แต่ในการทุ่มทุนเพื่อซื้อหวยหวังรวยในแต่ละงวดนั้น เราพอจะมีคำตอบกันในใจบ้างหรือไม่ว่า
จริงๆ แล้ว เรามีโอกาสที่จะถูกหวยกันมากน้อยเพียงใด
อ่ะแฮ่ม! อ่านมาถึงบรรทัดนี้ อย่าทึกทักคิดในใจกันนะว่า ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์จะมาบอกตัวเลขวิเศษเพื่อเตรียมแทงในงวดถัดไปกัน
เพราะวันนี้ ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์จะขอนำข้อมูลทางสถิติมาลองไขรหัสทางตัวเลข เพื่อบอกถึง "ความน่าจะเป็น" กันดูว่า หากคุณเริ่มซื้อลอตเตอรี่ทุกงวด ตั้งแต่คุณอายุ 15 ปี เป็นเวลาต่อเนื่อง 25 ปี ซึ่งนั่นจะเท่ากับ 600 งวดนั้น คุณจะมีโอกาสถูกลอตเตอรี่ เอาแต่แค่เฉพาะเลขท้าย 2 ตัว ที่ดูแล้วน่าจะถูกได้ง่ายที่สุดนั้น ในความเป็นจริงทางสถิตินั้น
มันมีที่จะถูกได้สักกี่เปอร์เซ็นต์?
และเพื่อให้การคาดคำนวณ ความน่าจะเป็นนี้ ตรงกับใจทุกท่านมากที่สุด ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์จะขอคิดตามแบบฉบับคนไทยของเรา ที่หากคิดเลขอะไรไม่ออก เราก็มักจะเลือกซื้ออายุและปีเกิดกันเป็นส่วนใหญ่ เพื่อลองค้นหาคำตอบที่ว่านี้กันดู ว่า หากคุณใช้กลยุทธ์นี้เพื่อนำเงิน 80 บาท ไปแลกเพื่อหวังจะได้เงิน 2,000 บาท คุณจะมีโอกาสได้เงินจำนวนนี้กันสักกี่เปอร์เซ็นต์?
โดยผู้เชี่ยวชาญที่ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์เชื้อเชิญมาหาคำตอบในวันนี้ คือ รศ.ศิริลักษณ์ สุวรรณวงศ์ ภาควิชาคณิตศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ผู้เชี่ยวชาญด้านการไขรหัสตัวเลข
เอาล่ะ งั้น เราไปเริ่มพร้อมๆ กับอาจารย์กัน
การพยายามหาคำตอบ ในเรื่องนี้ ดิฉันใช้วิธีการคำนวณหาความน่าจะเป็นเอาไว้ดังต่อไปนี้
1.ผู้ซื้อลอตเตอรี่จะเริ่มซื้อทุกงวด เริ่มตั้งแต่ปีที่มีอายุ 15 ปี ถึงงวดวันที่ 1 กรกฎาคม 2562
2.การเก็บข้อมูลเลขท้าย 2 ตัวของสลากกินแบ่งรัฐบาล เริ่มตั้งแต่งวดวันที่ 16 กรกฎาคม 2537 ถึงงวดวันที่ 1 กรกฎาคม 2562
...
3.ผู้ที่จะเริ่มซื้อลอตเตอรี่งวดวันที่ 16 กรกฎาคม 2537 ได้ และมีอายุ 15 ปีในปีนั้น คือ ผู้เกิดปี พ.ศ. 2522
4.การคิดคำนวณจะเริ่มผู้ที่เกิดปี พ.ศ. 2522 ถึงปี พ.ศ. 2545
5.การเลือกซื้อลอตเตอรี่ คือ ซื้อตามอายุในแต่ละปี เช่น ผู้เกิดปี พ.ศ. 2537 จะซื้อเลข 15 ทุกงวดในปี 2537 เมื่อปี พ.ศ. 2538 จะซื้อเลข 16 ทุกงวด และซื้อตามปี พ.ศ. เกิด เช่น ผู้เกิดปี 2522 จะซื้อ 22 ทุกงวด ตั้งแต่อายุ 15 ปี จนกระทั่ง ถึงงวดวันที่ 1 กรกฎาคม 2562
ขั้นตอนการคำนวณ
1.นับจำนวนครั้งที่ถูกรางวัลของผู้ที่เกิดตั้งแต่ปี พ.ศ. 2522 ถึงปี พ.ศ. 2545
2.หาความน่าจะเป็นที่ผู้ที่เกิดตั้งแต่ปี พ.ศ. 2522 ถึงปี พ.ศ. 2545 ถูกรางวัล
3.หาค่าเฉลี่ยความน่าจะเป็นในข้อ 2
ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ คือ....
นี่คือความเป็นจริงทางสถิติที่เห็นกันได้แบบชัดๆ 4K เมื่อคุณๆ ท่านๆ เห็นกันดั่งนี้แล้ว งวดต่อไปลองคิดกันสักนิดไหมว่า เรายังควรจะเอาเงินไปละลายน้ำ เพื่อหวังรวยกันอยู่อีกหรือ? รศ.ศิริลักษณ์ กล่าวทิ้งท้าย หลังแจกแจงผลลัพธ์ให้เราได้ทราบ
...
เอาล่ะ หากคุณยังไม่เชื่อ หลักการคำนวณทางสถิติเพื่อค้นหา ความน่าจะเป็นในลักษณะนี้
งั้นเอาแบบนี้ไหม ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ ขอทำตัวเป็นผู้วิเศษ เพื่อขอทายอายุของทุกท่านที่อ่านสกู๊ปชิ้นนี้ดู โดยจะขอใช้เพียง เลขท้ายสองตัว จากเบอร์โทรศัพท์มือถือของทุกคนเท่านั้น เพราะเพียงเท่านี้ เราก็สามารถรู้อายุของท่านได้แล้ว
ไม่เชื่อใช่ไหม? งั้นลองคิดตัวเลขตามพวกเราดู
เอาเลขท้ายเบอร์โทรศัพท์มือถือของคุณคูณ 2 บวก 5 คูณ 50 บวก 2312 จากนั้น เอาไป ลบ กับ พ.ศ.เกิดของคุณ
คำตอบที่ได้ สองตัวเลขท้าย คือ อายุปัจจุบันของคุณ
(สูตรคำนวณนี้ จะใช้ได้เฉพาะผู้ที่มีอายุไม่เกิน 100 ปี และจะใช้ได้เฉพาะภายในปี พ.ศ. 2562 นี้เท่านั้น)
ไม่เชื่อลองทำดู...ทั้งหมดนี้ มันก็คือ แค่หลักคิดทางตัวเลข ก็แค่นั้น
ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ รายงาน