อีกหนึ่งปลายทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลกเมื่อมาไทย ต่างมุ่งหน้ามายังถนนข้าวสาร ซึ่งมีชื่อเสียงกระฉ่อนระดับโลกมานับหลายสิบปี ตามประวัติจากคำบอกเล่าของ น.ส.ญาดา พรเพชรรัมภา ประธานชมรมผู้ค้าแผงลอยถนนข้าวสาร บอกกับทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ว่า ถนนข้าวสารในยุคแรกไม่เคยมีใครสนใจหรือเหลียวแล แม้กระทั่งหน่วยงานรัฐก็ไม่เคยมาสนับสนุน

ต่อมาชุมชนและผู้ค้ารวมตัวกันสร้างร้านค้า จัดกิจกรรมขึ้นเองในทุกเทศกาล อาทิ ปีใหม่ สงกรานต์ กระทั่งถนนข้าวสารเริ่มเป็นที่สนใจและได้รับความนิยมทั้งคนไทยและต่างชาติทั่วโลกหลั่งไหลมาเที่ยวมากขึ้นนับหลายสิบปี เหตุตอบโจทย์ครบทุกการท่องเที่ยว คือ ร้านอาหาร ร้านค้า แหล่งช็อปปิ้ง รวมถึงร้านอาหารริมทาง (Street food) 

ถนนข้าวสารก่อนถูกจัดระเบียบ
ถนนข้าวสารก่อนถูกจัดระเบียบ

...

แต่เพราะความฮิตของถนนข้าวสารที่มีคนหลั่งไหลเข้ามาเยี่ยมเยียนอย่างไม่ขาดสายทั้งกลางวันและกลางคืนนี้เอง ทำให้กลายเป็น “ถนนเศรษฐกิจ” สายสำคัญของไทย เกิดพื้นที่ค้าขายในสภาพไม่เป็นระเบียบเรียบร้อย แผงค้าตั้งวางทั้งบนถนนและทางเท้า กทม. จึงมีนโยบายจัดระเบียบทางเท้า และปรับภูมิทัศน์พื้นที่ ตั้งแต่ 1 ส.ค. 61 ไม่ให้ขายบนทางเท้าในตอนกลางวัน แต่ให้ขายบนผิวถนน เวลา 18.00-24.00 น. เพื่อคืนทางเท้าให้กับผู้สัญจร

การจัดระเบียบครั้งนี้ก็เหมือนจุดอื่นๆ ที่ กทม. จัดระเบียบไว้ เช่น ถนนข้างห้างเซ็นทรัลลาดพร้าว คือ ส่งผลกระทบกับการหาเลี้ยงชีพของ พ่อค้า แม่ค้าหาบเร่ รถเข็นและแผงลอย รายได้ลด แล้วยังได้รับผลกระทบด้านการท่องเที่ยวของไทยด้วย เหตุนักท่องเที่ยวลดลง 50% ยังส่งผลให้เสน่ห์ของถนนข้าวสารขาดหายไป ดังที่ทีมข่าวฯ นำเสนอไปแล้ว คลิกอ่านข่าว รวยคงไม่นั่งให้มาไล่ ถนนข้าวสาร เสน่ห์ลด อนาคต “ป่าช้า” (คลิป)

เสน่ห์ความวุ่นวายที่มีระเบียบ คือ สิ่งที่นักท่องเที่ยวเคยมาต้องการ

หลังถนนข้าวสารถูกจัดระเบียบครบ 1 เดือน ในมุมมองของต่างชาติมีความคิดเห็นอย่างไร...

เสน่ห์และเอกลักษณ์ของถนนข้าวสารที่พวกเขาหลงใหลที่แท้จริงยังมีอยู่ไหม?.... ความคิดเห็นจากนักท่องเที่ยวต่างชาติเหล่านี้คงเป็นแนวทางและข้อมูลให้ กทม. ได้พิจารณาว่าระหว่างความถูกต้อง กับ ความมีระเบียบนั้น สิ่งใดสำคัญกว่ากัน

ตลอดทั้งวัน จนพลบค่ำที่ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ เฝ้าดูสถานการณ์ บรรยากาศไม่คึกคัก บรรดาพนักงานร้านรวงนั่งหงอยเหงา พนักงานต้อนรับนั่งจิ้มดูแต่โทรศัพท์ นักท่องเที่ยวต่างชาติบางตา นานๆ จึงจะมีนักท่องเที่ยวแบบแบ็กเเพ็กเดินเข้ามา และนักท่องเที่ยวบางคน หรือบางกลุ่มเมื่อออกจากที่พักก็พากันเดินออกจากถนนข้าวสารด้วย

...

นายโจเซฟ จากประเทศเยอรมนี บอกกับทีมข่าวฯ ว่า ตนนั้นเคยมาเที่ยวถนนข้าวสารเมื่อสามปีก่อน บรรยากาศตอนกลางวันยังคึกคัก บนถนนมีแผงร้านค้ามากมาย ทำให้เดินไม่สะดวกเพราะคับแคบ มาวันนี้แม้จะมีที่ให้เดินบนฟุตปาทกว้างขึ้น แต่บรรยากาศจอแจที่เคยเจอกลับไม่มีอีกต่อไปแล้ว

ความพลุกพล่าน จอแจ ผมรู้สึกว่าทำให้กรุงเทพฯ เป็นกรุงเทพฯ มันดูวุ่นวายก็จริง แต่มันคือเสน่ห์สำหรับผม น่าเสียดายที่สีสันแบบนั้นค่อยๆ ถูกลบล้าง” นายโจเซฟกล่าว

เพื่อนของเขา นายจอห์นสัน ยืนฟังอยู่ใกล้ๆ ให้ความเห็นเพิ่มเติมถึงมาตรการจัดระเบียบทางเท้าของ กทม. ซึ่งคิดว่ากำลังค่อยๆ ทำลายบรรยากาศร้านอาหารริมทาง ที่เป็นเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวมายังถนนข้าวสารว่า

“ปีที่แล้ว ผมมาเดินเที่ยวถนนข้าวสารกับเพื่อนอีกกลุ่ม บรรยากาศน่าตื่นตาตื่นใจ เต็มไปด้วยของกินไทยหลากหลาย บรรยากาศสวยงาม ปัจจุบันบรรยากาศเปลี่ยนไปมาก”

...

ฝรั่งรู้ข่าว ร้อง “อ้าว แล้วจะไปดูอะไรกัน” ชี้ไทยจัดระเบียบเลียนแบบต่างชาติ

นาย Peter Chandler อายุ 62 ปี เดินทางมาจากเมืองเพิร์ธ ประเทศออสเตรเลีย กับ นางวนิดา ดวงจันทร์ วัย 42 ปี ภรรยาสาวไทย จ.นครศรีธรรมราช บอกว่า เมื่อทั้งสองกลับมาเมืองไทยก็มาเที่ยวถนนข้าวสารทุกครั้ง

เสน่ห์ของถนนข้าวสารในมุมมองของนาย Peter คือ ความหลากหลาย ทั้งร้านอาหาร เสียงเพลง และอาหารริมทาง มีให้เลือกซื้อ เลือกกินมากมาย เป็นถนนที่น่าตื่นตาตื่นใจ อีกทั้งได้เรียนรู้วัฒนธรรมไทยผ่านอาหารริมทาง

ก่อนมาไทย ตั้งใจจะมากินอาหารริมถนน เพราะออสเตรเลียไม่มี แต่พอรู้ข่าวจากเพื่อนชาวไทยของภรรยาว่า เปิดขายเฉพาะตอนเย็นถึงเที่ยงคืน รู้สึกผิดหวัง จนต้องถามภรรยาว่า “อ้าว แล้วจะไปดูอะไรกัน”

“เงียบมากๆ ในตอนเช้า ไม่มีอะไรตื่นเต้น มาก็อยากเห็นอาหารไทย เรียนรู้วัฒนธรรมไทยผ่านอาหารไทย ไม่อยากเห็นร้านแมคโดนัลด์ ก่อนมาก็คาดหวังว่าจะมากินอาหารริมถนนกัน ตอนนี้ไม่ให้ขายกลางวัน แต่ไม่เป็นไร สงบเงียบดี ยังชอบอยู่ แต่ถ้าเป็นแบบเดิมก็จะดีกว่า นาย Peter กล่าว

...

ส่วนการเปิดแผงค้าเฉพาะกลางคืนนั้น นางวนิดา ดวงจันทร์ ภรรยาสาวไทยวัย 42 ปี มองว่า ไม่ควรปิดขายกลางวัน ควรเปิดขายเที่ยงวันก็ได้ และอยากให้มีลักษณะรูปเเบบเดิมๆ ที่ดูสบายๆ มีรถเข็น ขายผัดไทย มีคนขายเสื้อยืด เสื้อกล้าม งานแฮนด์เมดไทยๆ 

เผยเหตุต่างชาติชอบถนนข้าวสาร เพราะท่ีเมืองนอก และออสเตรเลียไม่มี เพราะประเทศมีระเบียบวินัย พอจัดระเบียบถนนข้าวสารแล้วก็เหมือนๆ ซอยทั่วไป ที่มีการขายของอยู่แต่ในร้าน ซึ่งขาดสีสัน และเสน่ห์ และมองว่าการจัดระเบียบครั้งนี้ไทยกำลังเลียนแบบต่างชาติ

ถนนข้าวสารสุดเงียบเหงาในตอนกลางวัน
ถนนข้าวสารสุดเงียบเหงาในตอนกลางวัน

ตอนนี้คิดว่าประเทศไทย ลอกและเลียนแบบต่างชาติ คือ อยากให้มีระเบียบมากขึ้น ก็ไม่รู้ว่าพ่อค้า แม่ค้าจะทำมาหากินไรกัน แฟนมาเที่ยวถนนข้าวสาร เพราะที่ออสเตรเลียไม่มีขายอาหารริมทางเหมือนไทย เพราะมีการจัดระเบียบเข้มงวด ข้าวสารมีเสน่ห์ที่มีร้านขายของเยอะแยะ คนมาเดินดู หาซื้อของฝาก ของกิน พอมาถนนข้าวสารแล้วไม่เจอแบบนั้น ก็เหมือนขาดหายอะไรไปบางอย่าง นางวนิดา เปรียบเทียบ สตรีทฟู้ด จากประสบการณ์ชีวิตในออสเตรเลีย 20 ปี

บริเวณ
บริเวณ "ท่าเตียน" แหล่งชิค ชิล ชิม แทนถนนข้าวสาร

ชิค ชิล ชิม แลนมาร์กใหม่ ต่างชาติเห่อเที่ยวทดแทนถนนข้าวสาร

จากความคิดเห็นดังกล่าวของชาวต่างชาติ จะเห็นว่าเอกลักษณ์ของสตรีทฟู้ดบนถนนข้าวสารที่พวกเขาจดจำ คือ ความไร้ระเบียบ เป็นเสน่ห์ที่ยากจะหาใครเหมือน ดึงดูดนักท่องเที่ยวหลั่งไหลมาเยี่ยมเยือนข้าวสาร เรียกได้ว่าถ้ามาเหยียบเมืองไทยแล้วต้องมา Check-in ให้ได้ เมื่อถูกจัดระเบียบจน “เสียบรรยากาศการท่องเที่ยว” หรือมาเสียเที่ยว เพราะไม่มีอาหารริมทาง ไม่มีแหล่งช็อปปิ้ง นักท่องเที่ยวจึงเบนเข็มไปเที่ยวจุดอื่นแทนถนนข้าวสาร

อาหารริมทาง คือ เสน่ห์ที่นักท่องเที่ยวต่างชาติชอบ
อาหารริมทาง คือ เสน่ห์ที่นักท่องเที่ยวต่างชาติชอบ

ทีมข่าวฯ อยากรู้ว่าแหล่งช็อปแห่งใหม่ ที่มีร้านอาหารริมทาง ครบครันทั้งกิน เที่ยว นั้นคือที่ใด จึงออกติดตามนักท่องเที่ยวกลุ่มหนึ่งที่เดินออกจากถนนข้าวสาร สอบถามได้ความว่ากำลังมุ่งหน้าไปหาของอร่อยๆ ริมทางกินกัน ซึ่งอยู่ใกล้กับวัดพระแก้วและสนามหลวง

ทีมข่าวฯ ติดตามต่อไปว่าแลนด์มาร์กแห่งใหม่นี้คือที่ใด และสังเกตเห็นว่ามีชาวต่างชาติหลายคนต่างเดินมุ่งหน้ามายังจุดหมายปลายทางแห่งนี้ เมื่อเดินทางมาถึงจึงพบว่าเป็น “ท่าเตียน” ที่มีบรรยากาศสุดคึกคัก คราคร่ำด้วยนักท่องเที่ยวหลากหลายชาติมาเดินเที่ยว

วัดโพธิ์ ตั้งอยู่ใกล้ท่าเตียน อีกหนึ่งสถานที่เที่ยวยอดฮิตของนักท่องเที่ยวต่างชาติ
วัดโพธิ์ ตั้งอยู่ใกล้ท่าเตียน อีกหนึ่งสถานที่เที่ยวยอดฮิตของนักท่องเที่ยวต่างชาติ

ถ่ายภาพชิค ชิล คู่ตึกเก่าโบราณสีเหลืองแสนคลาสสิก มองไปคล้ายกับชิโนโปรตุกีสของจังหวัดภูเก็ต มีกลิ่นอายของความเป็นกรุงเก่าให้สัมผัส บริเวณรอบๆ ตึกเก่ามีขายอาหารแห้ง อาหารทะเล ร้านอาหารนั่งสบายๆ รวมถึงร้านค้าให้ช็อปปิ้ง ดึงดูดนักท่องเที่ยวมากทีเดียว เป็นภาพคนละขั้วที่แตกต่างจากถนนข้าวสารยิ่งนัก ที่เงียบเชียบราวกับป่าช้า

วัดโพธิ์ แลนมาร์กใหม่ ต่างชาติเห่อเที่ยวทดแทนถนนข้าวสาร
วัดโพธิ์ แลนมาร์กใหม่ ต่างชาติเห่อเที่ยวทดแทนถนนข้าวสาร

เจสสิกา จากประเทศสหรัฐอเมริกา บอกทีมข่าวฯ ว่า นับว่าโชคดีที่ยังมีสถานที่เที่ยว ช็อปในตอนกลางวันชดเชยถนนข้าวสาร หลังจากเดินช็อป ชิม บริเวณท่าเตียนแล้ว ตั้งใจข้ามไปเที่ยวอีกหนึ่งสถานที่ชื่อดังของไทย นั่นคือ ไหว้พระนอนที่วัดโพธิ์ หรือวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร 

“โชคดีที่ยังมีที่นี่ให้ได้เดินซื้อของตอนกลางวันแทนถนนข้าวสาร และยังใกล้กับวัดโพธิ์ด้วย” เจสสิกากล่าวสั้นๆ ด้วยรอยยิ้ม

จากสถานการณ์หลังจัดระเบียบเดือนกว่าๆ ส่งผลให้นักท่องเที่ยวลดลงจริงหรือไม่ ทีมข่าวฯ สอบถามจาก พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. เปิดเผยว่า การจัดระเบียบถนนข้าวสารยังมีนโยบายกลางวันห้ามขายของ ขายเฉพาะกลางคืน (18.00-24.00 น.) ด้านการท่องเที่ยว กลางคืนยังมีนักท่องเที่ยวมาท่องเที่ยวเยอะอยู่ ไม่พบชาวบ้านมาร้องเรียน ไม่เกี่ยง ไม่งอน และไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน มีแต่ผู้ประกอบการที่ไปปล่อยเช่าจะมีปัญหาเยอะ

ภาพ ชุติมน เมืองสุวรรณ

อ่านข่าวเกี่ยวข้อง


สืบเสาะข่าว รับเรื่องราวร้องทุกข์ สามารถส่งเรื่องราว หรือประเด็นปัญหาของท่านมาได้ที่

                  reporter.thairath@gmail.com หรือช่องทาง Facebook : ทีมข่าวเฉพาะกิจ