หลังจากมีรายงานว่า นางส่วย ส่วย วิน หรือหมอดูอีที แม่หมอนักพยากรณ์ชื่อดังชาวเมียนมา วัย 58 ปี เสียชีวิตลงแล้ว เมื่อวันที่ 10 ก.ย.60 เมื่อเวลา 04.20 น. ที่ผ่านมา 

ในวันนี้ ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ จะขออาสาพาแฟนๆ ไทยรัฐออนไลน์ ทุกท่าน ไปรู้จักประวัติโดยสังเขป ของแม่หมอโลกตะลึงผู้นี้กัน 

สำหรับประวัติของ หมอดูเจ้าของฉายา หมอดูอีที ซึ่งว่ากันว่าสามารถทำนายอนาคตได้ราวกับตาเห็น จนกระทั่งทำให้บรรดาเซเลบคนดัง ไฮโซน้อยใหญ่ หรือแม้กระทั่งระดับผู้บริหารประเทศหลายคน ยอมย่อกายเดินทางมาให้เธอทำนายอนาคตนั้น ผู้ใกล้ชิด เปิดเผยว่า เธอเกิดในครอบครัวที่มีพ่อเป็นผู้จัดการธนาคารในประเทศเมียนมา และแม้ว่าร่างกายจะมีอวัยวะผิดสัดส่วนไปจากปกติทั่วไป ตัวเล็ก ขาและนิ้วคดงอ ยาวผิดปกติ เดินไม่คล่อง รวมถึงมีพัฒนาการด้านการพูดและการเดินช้ากว่าปกติ และไม่ได้มีพลังวิเศษหยั่งรู้อนาคตมาแต่กำเนิด แต่ก็มีชีวิตที่ราบเรียบ

ทุกอย่างมันเริ่มต้นขึ้นเมื่อเธออายุ 15 ปี จู่ๆ เธอก็มีอาการป่วยเป็นไข้สูง จนกระทั่งค่อยๆ ทำให้เธอมีอาการหูหนวกและพูดได้น้อยลง หลังจากกลับมาจากไหว้พระ แต่สิ่งที่ได้รับกลับมาทดแทนคือ พลังพิเศษ ที่สามารถทำนายทายทักได้ราวกับตาเห็น โดยคำทำนายแรกที่ทำให้เธอมีชื่อเสียงโด่งดังขึ้นก็คือ เมื่อครั้งที่พ่อของเธอย้ายไปทำงานที่เมืองเมืองหนึ่ง ปรากฏว่าได้เกิดเหตุการณ์ข้าวของเครื่องใช้ของทางราชการสูญหาย และไม่ว่าทางเจ้าหน้าที่จะเพียรพยายามสืบค้นเท่าไร ก็ไม่พบแม้แต่เงา เมื่อถึงตาจน จึงมีคนมาสอบถามเอากับ หมอดูอีที จนได้รับคำทำนายว่า ขณะนี้สิ่งของเหล่านั้นกำลังอยู่บนเรือ กำลังล่องไปตามแม่น้ำ ให้รีบตามไปสกัดจับคนร้ายโดยเร็ว ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่ตามไป ก็สามารถสกัดจับคนร้ายได้จริงๆ

...

จากนั้น.....ชื่อเสียงที่รู้กันแค่ในหมู่คนใกล้ชิด ก็ค่อยๆ ขยายไปสู่คนใกล้บ้าน จากนั้นก็ขยับไปสู่ ระดับหมู่บ้าน ตำบล จังหวัด และระดับประเทศ ก่อนที่จะขจรขจายไปสู่นอกประเทศในที่สุด

สำหรับวิธีการดูดวงของ หมอดูอีที จะมีความแตกต่างจากหมอดูทุกคนทั่วโลก เพราะเธอไม่จำเป็นต้องรู้วันเดือนปีเกิด หรือตัวเลขที่เกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น เพราะเพียงเห็นหน้าบุคคล ก็สามารถทำนายทายทักบุคคลผู้นั้นได้แล้ว!

โดยการถ่ายทอดคำทำนาย แม่หมอจะใช้วิธีเขียนสิ่งที่ได้เห็นจากพลังพิเศษ ลงบนกระดาษ หรือพูดให้น้องสาวของเธอ ที่มีชื่อว่า ตี้ตี่ อ่านริมฝีปากตีความหมาย แล้วนำไปถ่ายทอดกับบรรดาลูกค้าต่ออีกทีหนึ่ง

นอกจากนี้ สิ่งที่ว่า หมอดูอีที สามารถทำนายได้แม่นยำ และเธอมักจะใช้เรียกศรัทธาบรรดาลูกค้าอยู่เสมอ ก็คือ การทำนายเลขธนบัตรในกระเป๋าเงิน โดยใช้วิธีเพียงเอามือจับที่กระเป๋าเท่านั้น ซึ่งว่ากันว่าคลาดเคลื่อนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

หากแต่ใครที่คิดจะให้แม่หมอทำนายทายทักอนาคตนั้น จะต้องมีวาสนาที่ต้องกันกับเธอเท่านั้น ฉะนั้นใช่ว่า มีเงินล้นฟ้า หรือใหญ่บิ๊กเบิ้มมาจากไหน จะมาสั่งให้เธอดูดวงให้ได้ โดยเฉพาะเรื่องการเมือง เพราะเธอมองว่า มันสุ่มเสี่ยงที่จะสร้างอันตรายให้กับตัวเองเปล่าๆ หากแต่มันก็คงมีข้อยกเว้นอยู่บ้าง สำหรับบรรดาบิ๊กๆ ในพม่า และแน่นอน บรรดาคอนเนกชั่นทางการเมืองที่ยึดโยงกับผู้นำทางทหารของเมียนมาทั้งหลาย ด้วยความเกรงอกเกรงใจ

สำหรับคำทำนายที่ว่ากันว่า แม่นยำราวกับตาเห็นนั้น แน่นอน เมื่อมันแม่นมันก็ย่อมมีราคาสูง ว่ากันว่า เรตราคาอยู่ที่ประมาณ 30,000 - 300,000 บาท ภายในเวลาที่อาจจะมีเพียง 15 นาทีเท่านั้น! แถมในวันวันหนึ่ง จะรับลูกค้าผู้ที่มีดวงชะตาต้องกัน เพียง 7-8 คนเท่านั้น ส่วนรายได้เหลือคณานับที่ได้จากการดูดวงนั้น หมอดูชื่อดังนำไปใช้ทำนุบำรุงศาสนาด้วยการสร้างวัดในประเทศเมียนมา

ว่ากันว่า เมื่อเธอใช้พลังสำหรับการทำนายอนาคตเสร็จสิ้นลงในแต่ละวัน แม่หมอจะมีอาการเหนื่อยอ่อนลงมาก ฉะนั้นในเวลาพัก เธอจะต้องสวดมนต์และนั่งปฏิบัติสมาธิอยู่เสมอ ส่วนเวลาที่เหลือนอกเหนือจากการดูดวง เธอจะหมดไปกับการสะสมของที่ชื่นชอบ เช่น เสื้อผ้าที่ออกแบบเอง ตุ๊กตา โดยเฉพาะ คิตตี้ และการดูซีรีส์เกาหลี!.