เป็นภัยใกล้ตัวที่ไม่ควรละเลย โดยเฉพาะคนที่มีลูกเล็กต้องระแวดระวังให้ดี เพราะหากปล่อยปละละเลย อาจทำให้เสียคนที่รักได้ ดังกรณีของผู้ใช้เฟซบุ๊ก ชื่อ Ratcha Mook Hemmabut ได้โพสต์รูปพร้อมข้อความระบุว่า
ขอแชร์ประสบการณ์ที่ไม่คิดว่าจะเกิดค่ะ #แชร์ได้นะคะ
เมื่อสักพักพาเต๊ะไปซื้อขนมโตเกียว แล้วเต๊ะจะกินเยลลี่เม็ดกลมๆ เม็ดใหญ่ ซึ่งชอบกินและกินเป็นประจำ พอกลับมาถึงบ้าน ก็แกะกินตามปกติ มี 5 เม็ด กินถึงเม็ดที่ 4 แม่สังเกตว่าเต๊ะมีอาการพยายามจะขากเหมือนติดคอ ปกติเต๊ะจะขากออก แต่วันนี้ไม่ออก แม่ ป๊ะป๋า ยาย ตกใจ แม่เรียกตาซึ่งตากินข้าวอยู่ ก็วางจานพุ่งมาหาเต๊ะเร็วมาก
ตอนนั้นเต๊ะเริ่มปากเขียวแล้ว แม่อุ้มทุบหลัง สลับกับตา พยายามทำทุกอย่างแบบที่อ่านเจอมา แต่เยลลี่ไม่หลุดออกมา เต๊ะตาเหลือก หน้าเขียวซีดแบบไม่ไหวแล้ว ตาเลยเอานิ้วล้วงคอ 3 ครั้งถึงอ้วกออกมา ตอนนั้นคือเต๊ะฉี่แตก น้ำมูกไหล ตาค้างไปพักนึง ตาเรียกเขย่าถึงรู้สึกตัว แล้วจากนั้นเต๊ะร้องไห้หนักมากเหมือนตกใจมาก ซึ่งแม่ตกใจมากกว่า ไม่รู้ว่าถ้าตาล้วงไม่ออก เต๊ะจะเป็นยังไง จะยังอยู่พูดมากให้แม่ฟังไหม มันเป็นนาทีที่เลวร้ายที่สุด และผ่านไปช้ามาก ขอฝากไว้เป็นอุทาหรณ์นะคะ บนมือคือเม็ดที่อ้วกออกมา

...
จากกรณีดังกล่าว หลังเผยแพร่ในโลกโซเชียล ชาวเน็ตนอกจากจะเข้ามาแสดงความคิดเห็นให้กำลังใจแล้ว หลายคนบอกว่าโชคดีที่ช่วยไว้ได้ทัน และจะระวังและดูแลลูกหลานมากขึ้น
น.ส.รัชชา เหมบุตร อายุ 23 ปี เจ้าของโพสต์ ย้อนเล่าเหตุการณ์ร้ายครั้งนี้กับทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ว่า ลูกชายชื่อ “หมูเต๊ะ” อายุ 2 ขวบ 2 เดือน หยิบขนมมากัดกินแล้วลื่นลงคอ เธอตกใจมาก และพยายามเอาหัวลูกทิ่มลง แต่ขนมก็ยังไม่ออกจากปาก พอเห็นแววตาของลูกนิ่งๆ คุณตาเลยตัดสินใจล้วงคอจนขนมหลุดออกมา
หลังเกิดเหตุ ลูกชายนอนผวาอยู่ 2 คืน กินอะไรก็บอกเดี๋ยวติดคอตาย ตอนนี้เธอห้ามไม่ให้ลูกกินของที่กลมๆ ลื่นๆ หรือถ้าให้กินก็หั่นครึ่ง และให้เคี้ยวอาหารให้ละเอียด จะได้ไม่เกิดปัญหาอาหารติดคออีก “อยากฝากเตือนแม่ๆ ต้องระวังให้ดี ควรมองลูก อย่าให้คลาดสายตา เพราะเพียงเสี้ยววินาทีก็อาจคร่าชีวิตลูกได้ และไม่อยากให้เรื่องราวเลวร้ายแบบนี้เกิดขึ้นกับครอบครัวไหนเลย เพราะอาจจะไม่โชคดีทุกครั้งที่ลูกปลอดภัย” เธอกล่าว

ด้าน รศ.นพ.สุริยเดว ทรีปาตี ผอ.สถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล ให้ความคิดเห็นกับกรณีดังกล่าวว่า ขนมเยลลี่ไม่ควรให้กินด้วยซ้ำในเด็กเล็ก เพราะมีโอกาสสำลักสูง ยิ่งทำเป็นเม็ดกลมขนาดพอดีให้อุดกับหลอดลม ยิ่งทำให้สำลักได้ง่าย และยังมีแต่โทษ ไม่มีคุณค่าทางอาหารใดๆ เพราะเป็นการเอาน้ำตาลมาทำโดยใส่องค์ประกอบเข้าไปให้มีรสชาติ สี กลิ่นชวนกิน เป็นขนมยอดแย่
"พ่อแม่อย่าได้ข้องแวะหรือซื้อให้ลูกกินเด็ดขาด และควรใส่หัวใจความเป็นพ่อแม่ อย่าตามใจเด็กทุกอย่างเวลาร้องไห้อยากได้ของ ควรปล่อยให้ร้องไห้ หากประเมินแล้วว่าของนั้นๆ กินไม่ได้ ไม่มีประโยชน์ อย่าหยิบยื่นอันตรายให้กับชีวิตลูก" รศ.นพ.สุริยเดวระบุ.