พ่อเมืองอุตรดิตถ์ เปิดเมืองพญานาคที่ฟากท่า ขับเคลื่อน "Soft Power" ด้านประชาชนแห่ส่อง "เลขเด็ด" จากธูปมงคลในพิธีบวงสรวง หวังเป็นเลขนำโชคงวดนี้ 16/9/66


วันที่ 5 กันยายน 2566 มีรายงานว่า ที่วัดกกต้อง ต.ฟากท่า อ.ฟากท่า จ.อุตรดิตถ์ เมื่อวันที่ 4 กันยายน ที่ผ่านมา นายสมหวัง พ่วงบางโพ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ เป็นประธานเปิดงานเปิดเมืองพญานาคที่ฟากท่า เมืองงามกลางหุบเขา พร้อมด้วย นางวันทนา  พ่วงบางโพ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดอุตรดิตถ์ และนายวารุจ ศิริวัฒน์ ส.ส.อุตรดิตถ์ เขต 2 พรรคเพื่อไทย นายสหวิช อภิชัยวิศรุตกุล รองผวจ.อุตรดิตถ์ โดยมี นายสุรพันธ์ เจริญทรัพย์ วัฒนธรรมจังหวัดอุตรดิตถ์  กล่าวรายงาน หัวหน้าส่วนราชการ/ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น ประชาชน ร่วมงานโดยพร้อมเพรียงกัน และประชาชนแห่ส่องเลขธูป 054 และในขณะบวงสรวง ลมพัดตลอดงาน 

สำหรับการจัดงานในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการขับเคลื่อนชุมชนสู่การพัฒนาจังหวัดคุณธรรม พัฒนาต่อยอดและส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยภายในงานมีกิจกรรมต่างๆ ประกอบด้วย พิธีสักการบูชาพระธาตุมหาจุฬามณีแก้วศรีโพธิ์วา โบราณสถานในพื้นที่, การถวายบายศรีพญานาคของแต่ละสาย, การรำถวายพ่อปู่ แม่ย่าพญานาค/ พิธีเจริญพระพุทธมนต์และทำบุญอุทิศส่วนกุศล, กิจกรรมเปิดแหล่งท่องเที่ยวพระธาตุมหาจุฬามณีแก้วศรีโพธิ์วา, การเสวนาหัวข้อ “ศรัทธาพญานาคสู่วิถีฟากท่าและลายผ้า”, การสาธิตและการแสดงศิลปวัฒนธรรม, การปฏิบัติธรรม, การทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง

...

และการสาธิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรมและเป็นการนำทุนทางวัฒนธรรม หรือ "Soft Power" ที่โดดเด่นและเป็นอัตลักษณ์ของอำเภอฟากท่าและของจังหวัดอุตรดิตถ์ ความเชื่อเกี่ยวกับพญานาค มาพัฒนาต่อยอด สร้างเศรษฐกิจฐานราก และส่งเสริมการท่องเที่ยว สร้างรายได้ สร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจให้กับจังหวัดอุตรดิตถ์ สอดคล้องตามนโยบายของรัฐบาล กระทรวงวัฒนธรรม และสอดคล้องกับ 12 เป้าหมายร่วมของจังหวัดอุตรดิตถ์ที่ว่า “อุตรดิตถ์เที่ยวได้ทั้งปี 365 วัน ที่อุตรดิตถ์” 

สำหรับเรื่องเล่าตำนานพญานาคที่ฟากท่านี้ คุณบุญเทียน ภูมิปัญญาบ้านกกต้อง เล่าว่า โบราณสถานพระธาตุมหาจุฬามณีแก้วศรีโพธิ์วา เป็นเจดีย์พุทธสถานบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ส่วนพระอุระ ของพระพุทธเจ้า ที่มีมานาน 300 กว่าปี เป็นเมืองชายแดนของกรุงอยุธยาสืบเนื่องมาสยามประเทศ ซึ่งมีถ้ำและมีพ่อปู่แม่ย่าพญานาค ปกป้องคุ้มครองดูแลเจดีย์พระธาตุอยู่ คือ เจ้าปู่สุวรรณนาคราช เป็นพญานาคราช ที่อยู่ในตระกลูวิรูปักขะ พระวรกายสีทอง เศียรและปล้องพระนาภีสีทอง เป็นพญานาคราชที่ดูแลและปกครองอาณาเขตลุ่มแม่น้ำยมและน่าน อดีตเคยเป็นสหาย กับเจ้าปู่ศรีสุทโธฯ แต่มีเหตุให้ทั้งสองพระองค์ บาดหมางกัน เพราะแข่งขันกันขุดลำน้ำ เจ้าปู่ศรีสุทโธฯ ขุดแม่น้ำโขง และเจ้าปู่สุวรรณนาคราช ขุดแม่น้ำน่าน ใครชนะได้ปลาบึกไปครอง

ผลปรากฏว่า เจ้าปู่ศรีสุทโธฯ ชนะ ในแม่น้ำโขงจึงมีปลาบึก เพราะขุดได้ตรง ใหญ่และยาวกว่า ส่วนแม่น้ำน่าน ขุดยากเพราะคดเคี้ยวตามทิวภูเขา จึงแคบและสั้นกว่า และในส่วนของพระมเหสีคือนางพญาแก้วคำกลองนาคิณี หรือเจ้าย่าแก้วคำกลองนาคิณี เป็นพญานาคิณีที่อยู่ในตระกลูฉัพพะยาปุตตะ มีพระวรกายสีม่วงเม็ดมะปราง บางครั้งอาจจะเห็นเป็นสีขาว–ทองในช่วงจำศีล มีพระเศียรและปล้องพระนาภีสีทอง เป็นบุตรขององค์กาลนาคราช พ่อปู่แม่ย่าจึงดูแลและปกครองอาณาเขตลุ่มแม่น้ำยมและน่าน เป็นกษัตริย์ปกครองนาคราชฝั่งภาคเหนือทั้งหมด