กลับมาอีกครั้งกับงานมหกรรมแสดงสินค้าคุณภาพที่ยิ่งใหญ่จากประเทศจีน “The 9th China ASEAN (Thailand) Commodity Fair 2019 &10th Guangdong (Thailand) Products show 2019” ซึ่งปีนี้จัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 10 สำหรับผู้ประกอบการชาวไทยที่กำลังมองหาช่องทางนำเข้าสินค้าคุณภาพจากจีน ในราคาคุ้มค่าการลงทุน พร้อมอัพเดตหลากหลายความรู้ในการทำธุรกิจกับผู้ประกอบการชาวจีนให้ประสบความสำเร็จ โดยวิทยากรมากความสามารถที่ยกทัพหมุนเวียนมาให้ความรู้แบบอัดแน่น ตั้งแต่การเตรียมรับมือ และมองหาโอกาสทางธุรกิจ การศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภค ทำความเข้าใจตลาดจีนยุคใหม่ ตลอดจนเทคนิคการทำตลาดออนไลน์ บนเวทีสัมมนาภายในงาน ซึ่งจะจัดขึ้นตั้งแต่ 5-7 ก.ย. นี้ ณ ฮอลล์ 100 ไบเทค บางนา
งานนี้เพื่อเป็นการอุ่นเครื่องก่อนวันงานจริง เมย์-ภัสส์ศา ปาลิไชยวัฒน์ Sale Marketing Manager บริษัท ทีซีเอที (TCAT Cargo) ที่จะมาชวนคุยในหัวข้อ “ระเบิดตู้จีน ยุค 5G เผยทริคในการสั่งซื้อสินค้าจีนด้วยตัวเอง ไม่ต้องรู้ภาษา ก็ซื้อของได้ราคาถูก และไม่ถูกโกง” ถือโอกาสเรียกน้ำย่อยด้วยการแนะนำเทคนิคง่ายๆ ในการติดต่อซื้อสินค้ากับจีน ตั้งแต่การเปรียบเทียบทั้งคุณภาพและราคา ในสินค้าที่เหมือนๆ กัน จากหลายๆ แหล่งและหลายๆ ร้าน ไปจนถึงการดูรีวิวความน่าเชื่อถือ และการหาตัวกลางที่ไว้ใจได้มาทุ่นเวลา
“เพื่อให้สเกลการหาข้อมูลแคบลง ผู้ประกอบอาจสำรวจวัตถุประสงค์ในการสั่งซื้อก่อนเพื่อเลือกช่องทางออนไลน์ที่เหมาะ เพราะถ้าซื้อเป็นจำนวนมาก และต้องการให้ได้ราคาทุน แนะนำแพลตฟอร์มที่ชื่อว่า 1688 เพราะสามารถเลือกจำนวนสินค้าที่ต้องการเปรียบเทียบเรตราคาส่งได้ แต่ถ้าอยากได้ราคาคุ้มทุนกว่านั้น แนะนำให้ ลองคุยหลังไมค์ในกล่องข้อความกับผู้ขายโดยตรงก่อนสั่งจะดีกว่า เพราะจะได้ราคาต่อรองที่ต่างจากราคาหน้าเว็บ แต่ถ้าซื้อในปริมาณไม่มาก แนะนำแพลตฟอร์มที่ชื่อเถาเป่า โดยพิจารณาจากคะแนนความน่าเชื่อถือของร้าน, การรีวิว และระยะเวลาในการเปิดให้บริการของร้านค้าเป็นสำคัญ สุดท้ายถ้าต้องการเลือกสินค้าจากแบรนด์ แนะนำให้ใช้แพลตฟอร์มที่ชื่อ Tmall เพราะเป็นแพลตฟอร์มที่เจ้าของแบรนด์มาจำหน่ายเอง ฉะนั้นการันตีได้ในคุณภาพ แต่ราคาอาจจะสูง”
ถามว่าทำไมให้ศึกษาจากความน่าเชื่อถือของร้านค้าบนแพลตฟอร์มออนไลน์นั้นๆ เป็นหลัก ในเมืองจีนการได้มาซึ่งคะแนนความน่าเชื่อถือ ถือว่ามีมาตรฐานดีมาก ทำให้ร้านค้าที่มีคะแนนเหล่านี้อยู่แล้วจะพยายามรักษามาตรฐานเหล่านี้สุดชีวิต ยกตัวอย่างแพลตฟอร์มสั่งซื้อของออนไลน์จากจีนยอดฮิตอย่าง เถาเป่า ถ้าร้านค้านั้นมีสัญลักษณ์เพชร 5 เม็ด ถือว่าน่าเชื่อถือมาก ขณะที่ 1688 ถ้าได้สัญลักษณ์กระทิงสีแดง ถือว่าน่าเชื่อถือ
อย่างไรก็ตาม เมย์ยอมรับว่าที่แนะนำไป เป็นเพียงไกด์ไลน์ที่นำไปปรับใช้ แต่ไม่ใช่สูตรสำเร็จ ถ้าอยากทดสอบความน่าเชื่อถือของร้านค้าจีนที่หมายตาจะทำการค้าด้วยอาจต้องยอมที่จะเสียรู้ในครั้งแรกด้วยการทดลองสั่งซื้อมาน้อยๆ ทดลองก่อนในครั้งแรก เพื่อเปรียบเทียบคุณภาพและราคา เพื่อให้ได้สินค้าที่ตอบโจทย์มากที่สุด หรือ ถ้าไม่อยากเสี่ยง เสียเวลาอาจใช้คนกลางมาช่วยประสานงานในการสั่งซื้อ เหมาะกับการสั่งซื้อของเป็นจำนวนมากๆ
ขณะที่ หมอกิม-นสพ. ธีรพงษ์ เศรษฐิวัฒน์ สัตวแพทย์ เจ้าของเพจ The Sales-Partan จะมาเผยกลยุทธ์ทำการตลาด B2B บนออนไลน์ให้ผู้ประกอบการได้นำไปใช้ โดยเจาะลึกตั้งแต่การทำคอนเทนต์เพื่อเรียกลูกค้า B2B มาในระบบออนไลน์และโซเชียลมีเดียพร้อมเทคนิคการกรองกลุ่มผู้ติดตามว่าใช่กลุ่มเป้าหมายที่แท้จริงหรือเปล่า
“วิธีการกรองมีหลากหลาย ส่วนใหญ่จะแนะนำวิธีขอรายชื่อ เพราะการที่ลูกค้ายอมให้ข้อมูลส่วนตัว นั่นแปลว่าเขาย่อมมีแนวโน้มสนใจในสินค้าหรือบริการนั้นๆมากกว่ากลุ่มที่แค่กดไลค์-กดแชร์ ดังนั้นหากได้ข้อมูลกลุ่มที่คาดว่าจะเป็นลูกค้ามาจะนำมาต่อยอดทางธุรกิจไปได้ ซึ่งต้องอาศัยกลยุทธ์แบบ online to offline เช่น มีระบบเซล ระบบอีเมล เข้ามา follow up เพื่อให้ได้ลูกค้า B2B กลับมา ซึ่งรายละเอียดทั้งหมดนี้ผมจะไปเผยในงานให้เข้าใจกัน”
นอกจากนี้ หมอกิมยังจะชวนคิดไปกับการหลากหลายเทคนิคเรียกลูกค้าแบบ B2B ทั้งในเชิงโฆษณาและการนำเสนอ ด้วยไม้ตายที่ผู้ประกอบการต้องยอมเสียอะไรบางอย่างเพื่อแลกกับข้อมูลบางอย่าง
“วิธีนี้เป็นวิธีที่เวิร์ก ง่าย ได้ผลเร็ว ชัดเจน เจาะจง และทำให้ต้นทุนค่าโฆษณาถูกลงโดยปริยาย อาจจะแจกอีบุ๊ก มีของสมนาคุณ เพราะอย่าลืมว่าการขอข้อมูลส่วนตัวจากกลุ่มคนเหล่านี้ เขาจะรู้สึกว่าไม่ปลอดภัย เกิดความลังเลว่าเราเป็นใคร จะเอาข้อมูลส่วนตัวของเราไปทำอะไรหรือเปล่า เพราะฉะนั้นต้องทลายความสงสัยนี้ลงไป เพื่อให้ได้ข้อมูลที่จะเป็นประโยชน์ต่อการต่อยอดคอนเทนต์ อำนวยความสะดวกให้กับทีมเซลล์ในการติดต่อกับลูกค้าเพื่อปิดการขาย ไม่ต้องถามข้อมูลลูกค้าซ้ำซ้อน จนทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าแบรนด์ไม่ทำการบ้าน เป็นต้น”
ทั้งนี้ หมอกิมยังทิ้งท้ายถึงหลุมพรางสำคัญที่คนทำการตลาดออนไลน์แบบ B2B คือ ทำออนไลน์แบบไม่ได้จริงจัง แค่คิดว่าทำพอให้มี กลายเป็นว่า “ทำแค่พอให้มี แต่ไม่ได้ทำให้มันเกิด” สุดท้ายพอไม่ได้ผล ก็สรุปด้วยความเข้าใจผิดว่าธุรกิจของตัวเองไม่เหมาะกับออนไลน์ ทั้งที่ในความเป็นจริงอาจจะยังทำไม่สุดก็ได้” คือ ทุกคนรู้ว่าต้องทำ แต่ไม่รู้ว่าต้องทำในระดับไหน
เทคนิคน่ารู้สำหรับผู้ประกอบการยุคใหม่เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ถ้าอยากเติมอาหารสมองแบบอิ่มหนำ ตามไปเจอกันได้ที่งาน งานมหกรรมแสดงสินค้าคุณภาพส่งตรงจากจีนมาสู่ไทยครั้งยิ่งใหญ่ กับการรวมสองงานใหญ่ประจำปีมาไว้ที่เดียว "The 9th China ASEAN (Thailand) Commodity Fair 2019 &10th Guangdong (Thailand) Products show 2019" รวมสินค้าดี ราคาถูกส่งตรงจากผู้ผลิตจากจีนกว่า 350 บริษัท อาทิ เครื่องใช้ไฟฟ้า ผลิตภัณฑ์เครื่องครัว ของแต่งบ้าน เฟอร์นิเจอร์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ วัสดุก่อสร้าง เครื่องมือฮาร์ดแวร์ และอีกมากมาย ในวันที่ 5-7 ก.ย.นี้ ฮอลล์ 100 ไบเทค บางนา
ผู้สนใจร่วมฟังสัมมนาฟรี! ดูรายละเอียดและลงทะเบียนสำรองที่นั่งได้ที่ www.chinaproductshow.com