@สนั่น อังอุบลกุล ประธานหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เข้าพบหารือ ดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ เรื่องการเปิดประเทศ โดยมี พรพิมล กาญจนลักษณ์, ปฐมา จันทรักษ์ และ ธวัชชัย ชีวานนท์ มาร่วมหารือด้วย ที่กระทรวงการต่างประเทศ วันก่อน.@
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ...ยอดจำหน่ายมากที่สุดของประเทศ...ท่ามกลางสถานการณ์ความทุกข์เข็ญและคราบน้ำตาของประชาชนตาดำๆ ทุกหย่อมหญ้า...ฉบับ ประจำวันอังคารที่ 20 กรกฎาคม 2564
การแก้ไขปัญหาวิกฤติโควิด–19...โดยการที่ รัฐบาลผลักภาระให้กับประชาชน...งัดมาตรการควบคุมแบบเข้มงวด...ล็อกดาวน์ กทม. ปริมณฑล 4 จังหวัดภาคใต้และ 3 จังหวัดเพิ่มเติม ชลบุรี ฉะเชิงเทรา และพระนครศรีอยุธยา ...ชนิด 100%...อ้างเหตุจากมีการแพร่ระบาดอย่างรุนแรงของโควิด-19...จำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นในระดับหลักหมื่น คนเสียชีวิตระดับหลักร้อย...พริบตาเดียวจำนวน ผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสมในประเทศไทย กว่า 403,386 ราย...และ ยอดผู้เสียชีวิตสะสม กว่า 3,247 คน...ไม่น่าเชื่อว่า ประเทศไทย จะมาถึงจุดนี้เพราะ การติดกระดุมผิดเม็ดของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา...เพราะฉะนั้น การบริหารประเทศบนความทุกข์ยากและคราบน้ำตาของประชาชน...จะกัดกร่อนศรัทธา พล.อ.ประยุทธ์และคณะ...จนหมดศรัทธา
...
จนกระทั่ง สถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 สุกงอม เกินกว่าจะรับมือ...รัฐบาล เพิ่งจะมาตื่นสั่ง เร่งฉีดวัคซีนให้กับผู้สูงอายุ และ ผู้ป่วยเรื้อรัง...อนุญาตให้ สถานประกอบการ โรงงาน ให้ใช้วิธีการตรวจด้วย Antigen test kit และ ใช้มาตรการ Bubble and seal เพื่อควบคุมโรค...เน้นการทำงานที่บ้าน Work from home 100%...ส่องมาตรการล็อกดาวน์เมื่อปี 2563...ห้ามเข้าพื้นที่เสี่ยง ตามคำสั่งของแต่ละจังหวัด...ปิดสถานที่เสี่ยง สนามกีฬา สนามมวย สนามม้า สนามเด็กเล่น ผับ สถานที่แสดงมหรสพ สวนสาธารณะ อาบ อบ นวด แหล่งท่องเที่ยว พิพิธภัณฑ์ ห้องสมุด สถานีขนส่ง ห้างสรรพสินค้า...ปิดช่องทางเข้ามาในราชอาณาจักร ทั้งท่าอากาศยาน เรือ รถยนต์...ห้ามกักตุนสินค้า ยาและเวชภัณฑ์ อาหารน้ำดื่ม...ห้ามการชุมนุม ทำกิจกรรมมั่วสุม และ ห้ามเสนอข่าวเท็จให้ประชาชนหวาดกลัว...ห้ามออกนอกเคหสถาน ตั้งแต่ 22.00-04.00 น. ....ร้านอาหารเปิดได้ถึง 21.00 น. ห้ามนั่งรับประทานอาหารในร้าน...งานนี้ “อินทรีเหล็ก” ดูแล้ว เป็นมาตรการล็อกดาวน์ ที่ไม่ถูกที่ถูกเวลา ...ในเมื่อ โควิด กระจาย เข้าไปสู่ครัวเรือน เรียบร้อย...พบ การติดเชื้อจากในครอบครัวเป็นส่วนใหญ่...การโยนภาระให้กับชาวบ้าน ในยามที่ ขาดแคลนทั้งวัคซีนต้านโควิด และ ยารักษาโควิด (เกิดจากความผิดพลาดของรัฐบาล)...ก็เท่ากับให้ ประชาชนต้องดิ้นรนสู้โควิดด้วยลำแข้ง...ตนนั่นแหละเป็นที่พึ่งแห่งตน
ฟังอธิบดีกรมควบคุมโรค นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์...อ้างที่ ยังพบการติดเชื้ออย่างต่อเนื่อง...โดยเฉพาะการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด สายพันธุ์เดลตา (สายพันธุ์อินเดีย) ที่ระบาดใน 111 ประเทศทั่วโลก...และประเทศไทย พบว่า มีการแพร่ระบาดในวงกว้างระดับสูง...จน กระทบขีดความสามารถทางการแพทย์และสาธารณสุข...รวมทั้ง ผู้ติดเชื้อกลับภูมิลำเนาจำนวนมาก (เกิดจากการไม่ยอมล็อกดาวน์ของรัฐตั้งแต่เริ่มการระบาด)...การเสียชีวิต ที่มีจำนวนสูงขึ้นส่วนใหญ่ เป็นผู้สูงอายุ ถึง 70%...ถึงเวลาที่ทุกครอบครัวจำเป็นต้องปกป้องผู้ที่ทุกท่านรักและตัวท่านเอง...ด้วยตัวของท่านเอง...และถ้าสถานการณ์ยังเป็นเช่นนี้...จะทำให้ มีผู้ติดเชื้อ และ ผู้เสียชีวิตจำนวนมาก ไปอีกอย่างน้อย 3-4 เดือน...เฮ้อ แล้วเราจะมีรัฐบาลและระบบสาธารณสุขไว้เพื่อ?
...
การที่ อนุชา บูรพชัยศรี โฆษกรัฐบาล ออกมาประชาสัมพันธ์แทน พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะ ผอ.ศบค. มีความห่วงใยต่อสถานการณ์โควิด-19 และ ทำให้ประชาชนจำนวนมากเข้าไม่ถึงการ บริการคัดกรองตรวจเชื้อและการรักษาพยาบาล...ได้กำชับให้ทุกหน่วยงานเร่งแก้ปัญหาและปรับแผนการทำงานให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน ...จัดการดูแลผู้ติดเชื้อในลักษณะการดูแลรักษาที่บ้าน Home Isolation หรือ การดูแลรักษาที่ชุมชน Community Isolation อนุญาตให้ใช้ Antigen Test Kit ตรวจหาเชื้อโควิด–19 ได้...ในที่สุดก็ต้องยอมจำนนอยู่ดี
...
และที่กลายเป็นประเด็นใหญ่...เป็นใบเสร็จมัดการตัดสินใจติดกระดุมผิดเม็ดของรัฐบาลชุดนี้ มาตั้งแต่ต้น... สำนักข่าวอิศรา เปิดเผยจดหมายของ สจอร์ด ฮับเบน รองประธานฝ่ายกิจการองค์กรทั่วโลก แอสตราเซ-เนกา...เมื่อ วันที่ 25 มิ.ย.2564 ที่ผ่านมานี้เอง...ถึง อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข และ นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค...มีสาระสำคัญ การผลิตวัคซีนแอสตราเซเนกาในประเทศไทย โดย บริษัทสยาม-ไบโอไซเอนซ์...มีการตกลงว่า แอสตราเซเนกา จะส่ง วัคซีนให้สาธารณสุข 1 ใน 3 ของกำลังผลิตในไทย หรือ 3 ล้านโดสต่อเดือน เป็นข้อตกลงร่วมกันของ สาธารณสุข และ แอสตราเซเนกา...ขณะที่ แอสตราเซเนกา ยังเสนอด้วยว่าถ้าผลิตได้มากขึ้น จะสามารถส่งวัคซีนให้ได้ปริมาณ 5-6 ล้านโดสต่อเดือน...ระบุไว้ในสัญญา ไทยสั่งซื้อวัคซีน 2 ครั้ง คือเมื่อ เดือน ม.ค.2564 จำนวน 26 ล้านโดส และ พ.ค.2564 จำนวน 35 ล้านโดส (ประเทศไทยพบการติดเชื้อโควิดอย่างเป็นทางการตั้งแต่ต้นปี 2563)...ขณะที่ ประเทศอื่นๆมีการดำเนินการขอซื้อวัคซีนก่อนไทย...นอกจากนี้ ยังแนะนำให้ไทยเข้าร่วมโครงการ โคแวกซ์ ที่จะเข้าถึงวัคซีนได้อีกทางหนึ่ง (เพิ่งจะมาเข้าร่วมโครงการในไม่กี่เดือนที่ผ่านมา)...แม้ต่อมา เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. ที่ผ่านมานี้เอง อนุทิน จะขอนำเข้าวัคซีนเดือนละ 10 ล้านโดส...ก็ไม่มีประโยชน์ใดๆ...จำนนด้วยหลักฐาน
...
ข่าวที่ อนุทิน ไม่พอใจ สาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข ที่เอาเรื่อง โควตาวัคซีนแอสตราเซเนกา มาเปิดโปง หรือกรณีที่ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาฯ สมช. เชิญสื่อทีวีไปหารือกำหนดทิศทางข่าว...ก็ไม่สามารถปิดกั้นความจริงได้แต่อย่างใด... พิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวฯ พร้อม ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท. และ ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ แถลงโครงการ Amazing Thailand Grand Sale 2021 ระหว่าง 15 ก.ค.-15 ก.ย. โดยความร่วมมือของผู้ประกอบการใน อุตสาหกรรมท่องเที่ยวกว่า 50 ราย ครอบคลุมสินค้าและบริการในพื้นที่ท่องเที่ยวทั้งออนไลน์และออฟไลน์...สนับสนุนมาตรการบรรเทาผลกระทบกับประชาชน เช่น เราชนะ โครงการ ม 33 เรารักกัน เพิ่มกำลังซื้อให้กับ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐระยะที่ 3 ช่วยเหลือ กลุ่มเอสเอ็มอี ที่คาดว่าจะมีเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจกว่า 5.58 แสนล้าน สอบถามที่ 0-2250-5500
"อินทรีเหล็ก"