ภาพ : อัศวิน เตชะเจริญวิกุล ประธาน จนท.บห.กลุ่มบีเจซี บิ๊กซี มอบเกียรติบัตรและทุนการศึกษาแก่บุตรพนักงานมีผลการเรียนโดดเด่น ประจำปี 2563 โดยมี ธีระ วีรธรรมสาธิต, วิภาดา ดวงรัตน์ และ วิเชียร รุ่งวัฒนะกิจ มาร่วมในพิธีด้วย ที่อาคารเบอร์ลี่ ยุคเกอร์ สนง.ใหญ่ วันก่อน.
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ.....ยอดจำหน่ายมากที่สุดของประเทศ.....ฉบับประจำวันพฤหัสบดีที่ 2 กรกฎาคม 2563
การเมืองที่ไม่มีมิตรแท้และศัตรูที่ถาวร.... ปรากฏการณ์ในพรรคพลังประชารัฐยังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ ....อนาคตสี่ยอดกุมาร และรองนายกฯ สมคิด จาตุศรีพิทักษ์...กับบทบาทการทำงานในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา...และการร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐ ยังเป็นปริศนา....ระหว่างไปต่อกับพอก่อน
...
เพราะเหตุและผลที่ไม่สอดคล้องกัน...ถ้าสี่ยอดกุมาร และรองนายกฯสมคิด...จะทำหน้าที่ใน ครม. โดยไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับพรรคพลังประชารัฐ....ก็เป็นเรื่องประหลาด...เพราะการที่ทีมสี่ยอดกุมารถูกล้างบาง ขั้วอำนาจในพลังประชารัฐ ชนิดขุดรากถอนโคน...ไม่ไล่ก็เหมือนไล่ ย่อมไม่มีเหตุผลที่จะอยู่ต่อ...ข่าวการลาออกจากพลังประชารัฐของสี่ยอดกุมาร จึงพอฟังได้
ดังนั้น ข่าวลือที่ว่ารองนายกฯสมคิด...รมว.คลัง อุตตม สาวนายน...รมว.พลังงาน สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ จะอยู่ต่อ...ลอยแพแค่ สุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.การอุดมศึกษาฯ...ด้วยเหตุผลที่ว่ามีผลงานต้องทำหน้าที่ฟื้นฟูเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง...จึงเป็นเรื่องที่ไม่เป็นเหตุเป็นผล...พรรคไปทาง รมต.ไปทาง...ปัญหาความขัดแย้งได้บานตะไท....สุดท้ายจะลามไปถึงผู้บริหารระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ หัวหน้ารัฐบาล และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ...จะมองหน้ากันไม่ติด
และหมากเกมนี้ ถ้าจะเล่นเกมยื้อกันไปเรื่อยๆ จนเสร็จสิ้นการจัดสรรงบประมาณปี 2564 และการบริหารงบประมาณเยียวยา ฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมจำนวน 1.9 ล้านล้าน จนสะเด็ดน้ำ...จะเป็นการลากยาวปัญหา ให้บานปลายมากขึ้น.....ขึ้นอยู่กับ พล.อ.ประยุทธ์ จะตัดสินใจรักยาวให้บั่นรักสั้นให้ต่อ หรือไม่เท่านั้น
โดยเฉพาะการออกมาประกาศผ่านสื่อสาธารณะของรองนายกฯ สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ มีนัยสำคัญทางการเมือง....ใครทำงานไม่ได้ก็ออกไป...ใครทำงานไม่ได้ก็อย่าเข้ามา....เป็นปริศนาซ้ำซ้อน....ล่าสุดที่รองนายกฯสมคิด สำทับถึงพายุลูกใหญ่ที่กำลังจะโหมใส่ประเทศไทย หลังโควิด-19....ขนาดนายกฯสิงคโปร์ ลี เซียนลุง ยังประกาศยุบสภาเลือกตั้งกันใหม่ ในวันที่ 10 ก.ค.ที่จะถึงนี้...เพื่อจัดทัพรับมือวิกฤติอย่างเต็มกำลัง....สะท้อนไปถึงข่าวลือ รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ คิดสูตรการเมืองใหม่...ยุบสภา...เริ่มต้นนับหนึ่งกันใหม่ เซ็ตซีโร่การเมืองไทย ในอีก 6 เดือนข้างหน้า....หรือสูตร 2 ตั้งรัฐบาล New Normal...กึ่งรัฐบาลแห่งชาติ...คล้ายกับรัฐบาลอัมโน ในมาเลเซีย....จริงหรือมั่ว ชัวร์หรือไม่
...
และที่กำลังเป็นข่าวถูกขุดคุ้ย...โฆษกรัฐบาล นฤมล ภิญโญสินวัฒน์...กับการย่างก้าวทางการเมือง...เป็นควันหลงจากประเด็นการจะเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ และกรณีของ ฌอน บูรณะหิรัญ ในเวอร์ชันรักลุงป้อม....เติบโตจากค่าย รองนายกฯ สมคิด...ได้ดิบได้ดีจากค่าย รองนายกฯ พล.อ.ประวิตร....สนิทสนมกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรฯ ที่อ้างมีเสียง ส.ส.สนับสนุนถึง 70 เสียง.....ฝีมือย่อมไม่ธรรมดา
...
ไหนๆก็ไหนๆ โฟกัสไปที่สถานการณ์ในพรรคประชาธิปัตย์ ที่มีจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ เป็นหัวหน้าพรรค....การเกลี่ยตำแหน่งใน ครม.ชุดใหม่ ยังไม่ลงตัว...ในเมื่อประชาธิปไตยแตกเป็นค่ายเป็นขั้วหลายก๊ก...การประชุมใหญ่ประจำปี 2563 ที่จะมีขึ้นในวันที่ 19 ก.ค.นี้....จะเกิดกระแสคลื่นใต้น้ำแรงขนาดไหน เป็นอีกเรื่อง.....แต่การทำหน้าที่ของพรรคร่วมรัฐบาล....ที่มีเสียงกระแอมมาจากหัวหน้ารัฐบาลหลายกระทอก...เป็นการบ้านที่ จุรินทร์ ต้องตีโจทย์ให้แตก.....แก้ปัญหาในพรรคให้สะเด็ดน้ำ เพื่อเสถียรภาพในการร่วมรัฐบาลและโควตา ครม. ....เป็นปัญหาใหญ่กว่าตั้งเยอะ
...
จับตาหลัง ครม. เห็นชอบให้มีการผ่อนคลายมาตรการเฟส 5...เปิดกิจการสถานบันเทิง ผับบาร์ อาบอบนวด ร้านเกม...ในขณะที่ ยอดผู้ป่วยไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก ทะลุ 10 ล้านคน ไปเรียบร้อย....ความเห็นจาก เทดรอส แอดฮานอม เกเบรเยซุส ผอ.ใหญ่องค์การอนามัยโลก...6 เดือน ที่เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ไม่มีใครจินตนาการว่าโลกของเราและวิถีชีวิตของเรา จะนำไปสู่ความยุ่งยากจากไวรัสพันธุ์ใหม่...เราทุกคนอยากให้จบ แต่ความจริงอันแสนสาหัส...สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ยังไม่ใกล้เคียงที่จะถึงจุดจบ ด้วยซ้ำ...จุดเลวร้ายที่สุดยังมาไม่ถึง...ว้าเหว่
จากการเปิดเผยของ ศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม...สำนักงานการบินพลเรือนได้ออกประกาศเงื่อนไขการอนุญาตให้อากาศยานทำการบินเข้าออกประเทศไทย....ลงนามโดย จุฬา สุขมานพ ผอ.กพท. เป็นที่เรียบร้อย.....ให้มีการขยายการอนุญาต 11 กลุ่มผู้โดยสารเข้าประเทศ...ทั้งผู้ที่ไม่ได้มีสัญชาติไทย....ที่จะเข้ามาตรวจรักษาพยาบาลในประเทศไทย หรือได้รับให้เดินทางเข้ามาด้วยข้อตกลงพิเศษ....โดยกำหนดหน้าที่อันพึงปฏิบัติของผู้ป่วย ตามประกาศแพทยสภาอย่างเคร่งครัด.....งานนี้มีลุ้นโควิดระลอกสอง
ส่วน การประกาศต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉินไปอีก 1 เดือน ไม่เหนือความคาดหมาย...เหตุผลที่ พล.อ.ประยุทธ์ อ้างการต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพราะเป็นการควบคุมการแพร่ระบาดของ ไวรัสโควิด-19 ที่ได้ผลที่สุด...และจากข้อมูลที่ นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค.แถลง...พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ใช้อำนาจในเชิงป้องกันโรคได้มากกว่า พ.ร.บ.โรคติดต่อ...ช่วยในการควบคุมการเดินทางเข้าออกราชอาณาจักรทุกช่องทาง...การจัดทำระบบติดตามตัว หรือกักตัวในสถานที่กักกันของรัฐ และการควบคุมโรคที่ครอบคลุมทุกกิจการ...เป็นการบูรณาการเอกภาพและประสิทธิภาพ ในการทำงาน...ฟังดูเข้าที....แต่มุมมองจากฝ่ายค้านเป็นการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของประชาชน ตามระบอบประชาธิปไตย...เป็นการล็อกดาวน์การเมืองไม่ให้มีการเคลื่อนไหว... สุดท้ายต้องมาตัดสินระหว่างสุขภาพและอิสรภาพ...อะไรสำคัญ
กว่ากัน
"อินทรีเหล็ก"