"เราชอบคุยกับมนุษย์คิดบวก" "พลังบวกอยู่รอบตัวเรา อยู่ที่เราจะมองมันแบบไหน" นี่คือสิ่งที่อยู่ในใจเราหลังจากได้พูดคุยกับ ศิลปินสาวสวยสายสตรีทอาร์ต วัย 30 เธอมีชื่อว่า "เนะ-อโณทัย นิรุตติเมธี" หรือชื่อที่ใช้ในงานศิลปะคือ ANO (อะโนะ) ศิลปินนักกราฟิกดีไซน์ นักวาดภาพประกอบ และวาดกำแพงมากมาย...

Thairath Talk Fresh มีโอกาสได้ไปเดินชมนิทรรศการเดี่ยวครั้งแรกของเธอที่ซึ่งมีชื่อว่า ANO’S WONDER HORROR LAND

หลายคนอาจจะไม่คุ้นหน้าคุ้นตาเธอคนนี้สักเท่าไหร่ แต่ถ้าพูดว่าเธอคือแฟนสาวของหนุ่มนักดนตรีไฮโซ ณต-ปณต มือกีตาร์ getsunova ต้องมีร้องอ๋อกันบ้าง นอกจากนั้นยังไม่พอเธอยังเติบโตมากับความเป็น 'ลูกสาวเจ้าของค่ายมวยดัง' เรียกได้ว่าชีวิตเธอน่าสนใจไม่น้อย เราจึงพูดคุยกันทุกเรื่อง งานศิลปะ ชีวิต ความรัก ครอบครัว ความฝัน การใช้สายตาข้างเดียวสร้างสรรค์งานศิลปะออกมาเธอทำได้อย่างไร

...

Thairath Talk : ทำไมต้อง ANO (อะโนะ) ?

คือ ANO มาจาก 'อโณทัย' ชื่อจริงชื่อ อโณทัย นิรุตติเมธี ก็เลยเอามา ส่วน อโณทัย หมายถึง พระอาทิตย์ขึ้นยามรุ่งเช้า

Thairath Talk : ผลงานลายเส้น ANO เป็นสไตล์ไหน? 

เนะว่ามันเหมือนคล้ายๆ Doodle ไม่รู้จะเรียกว่าสไตล์ไหนดีมันไม่มีคำเฉพาะหรอกนะคะ คือจริงๆ ต้องบอกก่อนว่าพื้นฐานเนะเป็นกราฟิกดีไซเนอร์ เรียนกราฟิกดีไซน์ที่ออสเตรเลีย เมลเบิร์น แต่ว่าด้วยความที่เราแปลงออกมา มาวาดรูปผสมกับสกิลที่เรียนมาบ้าง

คือเราไม่ได้จบจิตรกรรม เราคงไม่ได้วาดรูปจ๋าแบบอาจารย์ แต่ว่าด้วยความที่ชอบและความรักในงานนี้ก็เลยก็ทำมาเรื่อยๆ อ่ะค่ะ สไตล์ไหนมันก็คือการเป็นเหมือนการ์ตูน เหมือน Character แล้วเนะว่าคนจำเนะได้จากลายเส้น สีสัน ความน่ารักแต่มีความแปลก มองงานดีๆ มันจะน่ารักแต่มัน Crimpy มันมีอะไร

Thairath Talk : อยากวาดรูป อยากมีลายเส้นเป็นของตัวเองต้องเริ่มจากอะไร

คนมาถามเนะบ่อยมากว่าแบบอยากวาดยังไงให้เหมือนพี่เนะทำยังไง ปล่อยใจสบายสบายค่ะ คือเนะมองลายเส้นหรืองาน Art เป็นสิ่งสวยงามมาก คือเนะเห็นคนวาดเบี้ยวหรือเด็กอนุบาลวาดนี่แบบคือเท่มาก นั่นแหละคือสไตล์ของคุณ

Thairath Talk : ก่อนจะเป็น ANO ลายเส้นเป็นแบบนี้เลยไหม

ส่วนใหญ่เนะจะใช้ปากกา จริงๆ มันเริ่มจากแค่ขาว ดำ แดง จะวาดเพราะว่าเป็นคนคิดไว แล้วตั้ง Concept คร่าวๆ แต่เวลาเราวาดจริงเนี่ยแบบไปเรื่อยเลยนะคะ ก็จะมีลาย Painting ว่าเนะคิดยังไง เนะอาจจะมี Concept หลัก แต่ตรงอื่นวาดแบบมัน float มันถึงเรียกว่า Doodle

Doodle คือการวาดโดยเหมือนจินตนาการ เหมือนเราคุยโทรศัพท์แล้วแบบวาดไปเรื่อยๆ เราไม่รู้หรอกวาดอะไร แต่พออันนี้เราตั้งใจกับมันนิดนึงเพื่อที่จะแก้ไขต่อไปว่าอันนี้ต้องเติมอะไรดีอันนี้เติมอะไรดี มันสนุกมากค่ะมันเหมือนเล่นเกม เอาว่าจะเติมอะไรในช่องที่เหลืออยู่ตลอดเรื่อยๆ เลย

งานนี้ก็จะเป็นครั้งแรกที่จะ Bold ตัว ANO ก็จะเห็นรอบๆ งานเป็นอีตัวตาเดียว ตัวมีปีกตาเดียว คือจริงๆ นั้นอ่ะเนะมันต้องคิดมาสักพักแหละ อะไรคือจะเป็นตัว ANO ของเรา เนะถึงนึกถึงตัวตาเดียวน่ารักๆ มันเหมือนเกิดมาจากเมฆ มีปีก มันเหมือนจะเป็น Angle รึเปล่า มันน่ารัก แล้วที่เนะชอบตาเดียวเพราะจริงๆ แล้วเนะสายตาไม่ดี คือเนะแทบจะใช้สายตาข้างเดียวในชีวิตประจำวัน เป็น lazy eyes สั้น 1,700 เอียง 400 (หัวเราะ)

Thairath Talk : จากการมองเห็นชัดแค่ข้างเดียว มีผลกับงานศิลปะไหม

ก็มีการเพ่งเยอะขึ้น มีเบี้ยวบ้างอะไรบ้าง แต่เนะว่ามันคือเสน่ห์ คือเนะบอกแล้วว่ามันไม่มีอะไรผิดเลย ตราบใดที่คุณมีความสุขในสิ่งที่คุณทำ แล้วทำออกมาให้ดีมันก็ไม่ผิด เราไม่ได้ไปทำความเดือดร้อนให้ใคร

...

Thairath Talk : ย้อนกลับไปคุณเข้ามาอยู่ในวงการศิลปะตอนไหน

คือจริงๆ เนะก็ทำหลายอย่าง เนะเป็นพิธีกรด้วย รับกราฟิก วาดผนังนู่นนี่ ถามว่าเริ่มได้ยังไงด้วยความที่เราเรียนเมืองนอก เราไม่มี Connection มากที่นี่

เนะก็จะดูเลยว่าใครกำลังมาเนะก็ IG ไปถามเลยก็คุยเป็นเราค่อยๆ เหมือนแบบเป็นเพื่อนกัน แล้วแน่นอนถ้าเกิดเพื่อนเรามีหลายๆ กลุ่ม แต่เรา need เพื่อนกลุ่มแบบนี้ เราจะได้ไปดูเขาแบบ street art บ้าง ลงพื้นที่บ้าง คือเนะเลยรักศิลปะมาก เพราะมันทำให้คนที่ชอบอะไรเหมือนกันมาเจอกันเป็นเพื่อนกันได้

Thairath Talk : วาดรูปตั้งแต่เรียนเลยไหม

เรียกได้ว่าตั้งแต่อยู่ที่ออสเตรเลียก็เริ่มทำตั้งแต่ที่นั่นนะคะ รับงานกราฟิกทำโลโก้ จนกลับบ้านมาชอบวาดรูปเล่นในอินสตาแกรม ลูกค้าเลยนึกว่าวาดรูปได้ บอกว่างั้นยูวาด wall paint ได้ไหม ร้านอาหารกำแพงยาวมาก เราก็ตอบว่าได้ ทั้งๆ ที่ไม่ได้หรอกค่ะ ไม่รู้

Thairath Talk : นั่นคือผลงานชิ้นแรกในชีวิต

ใช่ค่ะ อยู่ที่เมลเบิร์น ร้าน Horny oyster

Thairath Talk : ความรู้สึกตอนนั้นเป็นยังไงบ้าง ครั้งแรก

สนุกมากตอนนั้นวาดในกระดาษ แล้วจำได้ว่ามีเพื่อนที่เรียนคลาสเดียวกันช่วยในการ Print ที่เราสเกตช์ในกระดาษลงในกระดาษใส ยุคนั้นยังเป็นแผ่นใส เราก็โปรเจกต์เหมือนโปรเจกเตอร์กระจกลง สมัยก่อนโปรเจกเตอร์สี่เหลี่ยมแล้วก็ฉายขึ้น แล้วด้วยความที่เป็นคนใจร้อนด้วยละมั้ง แต่ก็กล้าด้วยก็เลยพอฉายขึ้น แน่นอนภาพมันไม่ได้เต็ม wall ค่ะ มันก็จะได้ตัว Main ตัวอะไรอย่างนี้ เราก็ต้องเติมบางตัวเอง แล้วมันทำให้เนะกล้าตั้งแต่ตอนนั้น เพราะทำงานแรกได้เราก็กล้าแล้ว

Thairath Talk : จากวันนั้นถึงวันนี้วาดมาแล้วกี่ผนัง กี่กำแพง

...

20-30 ผนัง ในเชียงใหม่ก็ 5-6 ที่แล้วนะคะ

Thairath Talk : ผลงานชิ้นโปรด

ชอบทุกผลงานนะคะ เนะจะเหมือนคนยอตัวเองเวลาวาด เพราะว่าเนะก็จะแบบ สวยอ่ะ น่ารักอ่ะ แล้วเนะว่ามันไม่ต้องอายที่จะพูดแบบนั้นเพราะว่าถ้าคุณทำเองแล้วคุณไม่ได้บอกว่าชอบแสดงว่ามันก็ยังไม่ดี แต่ว่าเวลาเราใส่ชุดแล้วสวยว่ะ นั่นแหละชอบแล้ว

เพราะฉะนั้นส่วนใหญ่เนะจะต้องจบงานด้วยการที่มองกำแพงแล้วแบบ หูยน่ารักจังเลยตลอด ถามว่าอันไหนก็ชอบเหมือนๆ กันหมด แต่อันที่ท้าทายที่สุดก็คืออันล่าสุดเป็นโฮสเทล อยู่ตรงสุขุมวิท 97 สูง 12 เมตรนะคะ สามชั้น แล้วเข้าตั้งนั่งร้านให้เนะแบบทำไปเนะจะร้องไห้ ก็เลยรู้สึกประทับใจกันนั้นแหละ

Thairath Talk : นอกจากวาดกำแพง เคยร่วมงานกับใครบ้าง

ส่วนใหญ่เพื่อนศิลปินด้วยกันชอบแซวว่าเธอเลือกได้แต่ลูกค้าไฮโซ ทำไมแกได้แบบแบรนด์ใหญ่จัง แบบ AIX เขาเรียกว่าไงในระดับ commercial เพื่อนๆ ก็แซวว่าเนะมีแต่ลูกค้าคนรวย (หัวเราะ) เนะก็ขำแบบมันไม่เชิงว่าลูกค้าคนรวย ส่วนใหญ่ลูกค้าเนะจะเป็นแบบโรงแรม แล้วก็แบบดารา

...

เนะทำแบรนด์ให้พี่เบนซ์ พรชิตา ทำแพ็กเกจจิ้งให้พี่เจี๊ยบ โสภิตนภา มีทำกระเป๋าสติกเกอร์ให้บางที่ ด้วยความที่เรามีเพื่อนในวงการเยอะ ก็มีแบบทำให้พี่หมูตั้ง เลยกลายเป็นว่า ลูกค้าเรากลายเป็นปากต่อปากในเรื่องนี้ ส่วนแบรนด์แรกๆ เลยที่ทำด้วยก็คือ Kiehl’s รุ่น Blind But Not Blind ของปีที่แล้ว

Thairath Talk : แต่ละงานได้มีแรงบันดาลใจมาจากอะไร

ทุกๆ คอนเซปต์มันจะต้องมีเรื่องราวของมัน ทุกๆ งานมันก็มีเรื่องของมัน ทุกลายเหมือนกัน เขาก็จะมีคอนเซปต์หลักมาให้แล้วเราคิดต่อ เนะจะคิดต่อไปกระทั่ง personality ของตัวๆนั้น

อย่างงานนี้มันคือ ANO’S WONDER HORROR LAND เกี่ยวกับเนะโดยเฉพาะ เนะก็เลยเห็นไอ้ตัวผู้หญิงสีแดงมาบ่อยๆ มันคือ simple ของมนุษย์ เหมือนเป็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งความเป็นเด็กของเนะลงไป แล้วก็คือเป็นตัวอย่างของมนุษย์อาจจะเจอกับเรื่องราวต่างๆ ในงาน คือทุกอย่างมีกิมมิกหมด

Thairath Talk : เคยตันไหม คิดไม่ออกไม่รู้จะวาดอะไร

ก็มีบ้างค่ะ แต่ทุกครั้งถ้าเกิดมีแสดงว่าเราเครียด แสดงเราไม่มีความสุข ก็ต้องกลับมากับตัวว่า เฮ้ย! อย่าลืมดิเราทำเพราะเราจะมีความสุข ไม่ใช่ทำเพื่อกดดัน เพราะฉะนั้นก็ต้องหายใจลึกๆ แล้วเริ่มใหม่ เดี๋ยวมันก็ดี คิดไปเลยวาดไปเลย ยังวาดอะไรไม่ออกวาดไปเลย ตอนแรกก็ยังคิดไม่ออกเหมือนกันนะงานอันนี้ กดดันมากแต่ตอนหลังแบบปล่อยตัวปล่อยใจอยากวาดอะไรก็วาดสิ แล้วมันก็มา

Thairath Talk : เคยมีร้องไห้กับงานไหนไหม

ร้องงานนิทรรศการ ANO’S WONDER HORROR LAND นี้เนี่ยแหละค่ะงานแรก (หัวเราะ)

Thairath Talk : แสดงว่าต้องมีความเครียดด้วย

มีสิคะ เพราะเป็นคน possitive มาก ลั้ลลา ซนสุดฤทธิ์ แต่อยู่ดีๆ มันก็จะมีจุดที่แบบมันจะดีไหม ดีพอหรือยัง คือเนะให้เกียรติกับอาชีพนี้มาก คำว่าศิลปินหรือ Artis มันยิ่งใหญ่มาก คุณเป็นใครจะมา solo เนะคิดอย่างงั้น แล้วเนะเป็นใครเป็นแค่อีเด็กคนนึงมีเพื่อนเยอะๆ มันไม่ใช่มันเลยกดดัน ตอนแรกเราสนุกกับมัน ตอนหลังเราก็เริ่มแบบมันดีพอหรือยัง มันเนี้ยบพอหรือยัง อย่างที่เนะบอกเนะไม่ใช่สายศิลปะ ศิลปากร เด็กจิตรกรรม เพราะฉะนั้นมันวาดแค่นี้นี่ลงแคนวาสโชว์ได้หรือยัง

Thairath Talk : แล้วทำยังไงให้หายเครียด

นั่งสมาธิก่อน (หัวเราะ) ปล่อยให้มันร้องไห้ก็ร้อง ร้องไปก่อนเลย ก็นั่งสติว่าแบบ เฮ้ยฉันไม่ใช่คนแบบนี้นี่ flip out ทำไมมันไม่ได้ช่วยอ่ะ บางทีก็คุยกับเพื่อนที่ให้กำลังใจ คุณพ่อ คุณแม่บ้าง เพื่อนบ้างก็บอกว่าอย่าลืมนะเธอทำอันนี้มันคือความสุขของเธอ เพราะฉะนั้นเราห้ามให้ใครไม่มา just เราไม่ได้ นึกออกไหมบางคนอาจจะพูดว่าสวยแต่ในใจเขาคิดอย่างอื่น มันห้ามอะไรไม่ได้เพราะฉะนั้นมันแทบเหมือนงานนี้เลยที่จะบอกเขาอยู่อ่ะ เพราะฉะนั้นเราพยายามจะบอกให้ทุกคนรับอยู่กับมันๆ เพราะถ้าเนะมาเป็นเองมันก็ไม่ได้

Thairath Talk : โตมาในครอบครัวแบบไหนถึงหล่อหลอมให้เป็นเราทุกวันนี้

เนะเป็นลูกคนเดียวแล้วที่บ้านเป็นค่ายมวย ก็โตมากับแบบ...เนะถึงเป็นคนตลกๆ เพราะว่าอยู่กับนักมวยค่ายมวย Eminent Air ค่ะ มีแชมป์เยอะเลยอยู่มานานมาก ก็เนี่ยบางทีนักมวยก็จะงงๆ บางทีก็วาดผนังค่ายมวยบ้าง ก็จะเรียกนักมวยมาช่วยกันวาดบ้าง

Thairath Talk :  ลูกสาวค่ายมวย เคยคิดจะมาบริหารค่ายมวยไหม

มันไม่ต้องดูอะไรเองมากนัก มวยนี่อยู่กับเรามาตั้งแต่เด็กๆ  เทรนเนอร์ก็โตมาด้วยกันเพราะฉะนั้นมันมีระบบของเขาอยู่แล้ว เราไม่ต้องทำอะไร

Thairath Talk : ถ้าวันนึงคุณพ่อต้องวางมือจากค่ายมวย

มันก็รันเองเลย คุณพ่อก็แทบไม่ได้ดูแล้วค่ะ มันเรียบร้อยในตัวของมัน 

Thairath Talk : ตอนเด็กนิสัยเป็นยังไง

อย่างงี้เลยแต่อายกว่านี้ ตอนนี้ไม่ค่อยอาย ตอนนี้หน้าไม่อาย (หัวเราะ)

Thairath Talk : ดูไม่ค่อยกลัวอะไรเท่าไหร่

ใช่ แต่จริงๆ แอบกลัวแต่ไม่บอก (หัวเราะ)

Thairath Talk : ความฝันล่ะ ตอนเด็กๆ อยากเป็นอะไร

ไม่เคยรู้เลย พ่อพูดตลอดว่าไม่อยากจะเชื่อเลยจะเอาดีทางวาดรูป เนะก็ไม่อยากจะเชื่อ แต่ตอนเด็กๆ เนะชอบ Disney มากนะ เป็นคนที่ไม่ชอบ Animation แบบคอมพิวเตอร์ ชอบ Animation แบบวาดมือ จะเป็นแฟนพันธุ์แท้ Disney จะเอาหนังสือ Disney ชอบวาด Copy เขา แต่ไม่ได้แบบเอาไปวางแล้ว Copy นะแต่คือมองแล้ววาดให้เหมือนทำอย่างงั้นตลอด

Thairath Talk : แสดงว่าชอบวาดรูปตั้งแต่เด็ก

ใช่ สิ่งเดียวที่คุณพ่อเคยซื้อให้ตอนเด็กคือดินสอสี เขาไม่เคยซื้อของให้หนูเลยที่เป็นเสื้อผ้า เขาจะสอนตลอดซื้อแต่ของที่จำเป็น เพราะฉะนั้นกลับมาก็จะได้ดินสอสี เนี่ยดีใจมาก

Thairath Talk : เห็นว่าเคยเล่นละครด้วย

คุณแม่อยากให้เป็นนางงาม อยากให้เป็นดารา ก็จะพาเนะไปประกวด Miss Teen บ้างอะไรบ้าง ได้รางวัลด้วย Miss Popular vote กับ Miss Personality มีเล่นละครด้วย เล่นหนังบ้าง

Thairath Talk : คุณพ่อคุณแม่เคยวางไว้ไหมว่าอยากให้เราเป็นอะไร

ไม่เคยวางเลยค่ะ พูดอย่างเดียวว่าไม่ต้องเครียดกับชีวิตมาก คนเราเดี๋ยวก็ตายแล้ว จริงๆ ค่ะ เหมือนในงานมันเคยมีฟีลนี้อยู่ในตัวค่อนข้างมาก ว่าไม่ต้องเครียดเพราะแป๊บนึงเดี๋ยวเราก็ไม่เจอกันแล้ว ไม่มีอะไรที่เราเอาไปได้ ขอให้เป็นคนดีก็พอ ลองเรียนถ้าเรียนไม่ได้ก็ออก อยากขายก๋วยเตี๋ยวขาย แต่ทำอะไรทำอย่างเดียว เขาบอกคำนี้เสมอ ขายก๋วยเตี๋ยวก็ขายให้ดัง ทอดปาท่องโก๋ก็ให้เป็น วาดรูปก็วาด ตอนนั้นจำได้ว่าเรียนกราฟิกปริญญาตรี พอโทจะเปลี่ยนสายเป็นแบบ Marketing เขาบอกไม่ต้องหรอกอันเดิมๆ ไปเลย ช่างมันเดี๋ยวเครียด

Thairath Talk : แสดงว่าสนิทกับพ่อแม่มาก 

สนิททั้งคู่ด้วยความที่เป็นลูกคนเดียว คุณแม่เนะจะตามไปทุกที่ ที่เนะ paint คือบอกเลยว่าอาชีพนี้ดีตรงที่เนะรู้สึกเหมือนเนะได้ทัวร์ รู้สึกเหมือนเป็นศิลปินเหมือนกัน

Thairath Talk : ไปเพนต์กำแพงทั่วประเทศหรือยัง

ไปหลายจังหวัดนะคะ ขึ้นเหนือลงใต้ ก็รู้สึกเหมือนศิลปินทัวร์คอนเสิร์ตแต่ต่างกันคือเราวาดรูป 

Thairath Talk : ทุกวันนี้คิดว่าตัวเองประสบความสำเร็จหรือยัง

ตอบไม่ได้เลยคำนี้แต่คุณแม่จะบอกตลอดว่าแค่นี้ก็คือประสบความสำเร็จสำหรับแม่แล้วนะ ไม่ต้องกดดัน คือค่อนข้างดีที่มีครอบครัวมีคุณพ่อคุณแม่ Support มาก ล่าสุดเขาก็เพิ่งส่ง message มาว่านอนหลับรึเปล่า ไม่ต้องเครียดนะ เพราะว่าสำหรับพ่อแบบไม่ต้องทำอันนี้ก็ได้ หนูก็เก่งมากๆ พูดแล้วซึ้ง

Thairath Talk : อยากย้อนไปแก้ไขอะไรไหม

ไม่เคยอยากย้อนแก้ไขอะไรเลยในอดีตค่ะ ทุกอย่างที่เคยทำมาหรืออะไรมันทำให้เนะเป็นเนะในวันนี้ เนะกล้าที่จะพูดว่ามันจะมีเรื่องไม่ดีอะไรในชีวิตเราบ้าง มันคือการที่เราโตในระดับหนึ่ง เพราะว่าถ้าเราย้อนกลับไปเนะอาจจะคิด Theme นี้ไม่ออกก็ได้ ไม่ได้ตรัสรู้ถึงสัจจะชีวิตอะไรบางอย่างก็ได้ คือด้วยลายเส้นที่น่ารักเนะอยากให้คนมอง เนะอาจจะ skill paint ได้ไม่แม่นร้อยเปอร์เซ็นต์นะ แต่จะพยายาม ไอเดียภายใต้นั้นจริงๆ มันเป็นสิ่งที่สวยงามมากค่ะ สื่อในงานนี้แบบชีวิตเรามันอยู่ภายใต้ธรรมชาติแน่นอนอะไรประมาณนี้ อยากให้รับมือกับมันให้ได้

Thairath Talk : คิดว่าสักวันเราจะเป็นศิลปินระดับโลกได้ไหม

ก็อยากให้เป็นอย่างนั้น ก็พอถ้าเกิดอันนี้เสร็จแล้วเนะคิดว่านี่อาจจะลอง Solo เพิ่มในประเทศต่างๆ ใกล้ๆ ลองดูนะ ก็มันก็ต้องบอกว่าเราต้องเอาความโชคดีที่มีครอบครัวซัพพอร์ตมาช่วย แต่เราจะเอาเงินนั้นมาลงทุนแบบไหนไง เนะอาจจะลงทุนแบบเราอาจจะออกเงินไปทำ exhibition เองที่ประเทศอื่น

Thairath Talk : ขอถามเรื่องความรักบ้าง เป็นยังไงบ้างกับณต เก็ตสึโนวา

เนะเจอณต เป็นเพื่อนของเพื่อนค่ะ คบกัน 3 ปีแล้ว บอกได้เลยว่าเขาเป็นอีกหนึ่งแรงผลักดัน เหมือนเราเป็นตัวเองขึ้นตั้งแต่เจอเขา แล้วเขาผลักดันให้เนะทำงานศิลปะเนี่ยแหละ เพราะเขาด้วย เขาเป็นคนบอกให้ออกจากงานประจำ แล้วก็เลือกอะไรสักอย่างในชีวิต เขาเป็นคนคิดเก่ง เขาจะวางแผน และเขาจะคิดก่อนพูด แต่เนะจะพูดก่อนคิดเพราะฉะนั้นเข้ากันมาก เพราะเขาจะเป็นแบบเขาฟังๆ เขารอให้เนะตอบๆ แต่เราว่าเขาเป็นเหมือนจอมวางแผนภายใต้ชีวิตก็ว่าได้

Thairath Talk : เปรียบเทียบความรักเป็นอะไรในศิลปะ

เป็นปากกาเพราะเราคอนโทรมันได้ว่าให้ไปในทิศทางไหน มันไม่ใช่อะไรหรอกค่ะ มันอยู่ที่เราว่าเราจะให้มันไปในทิศทางไหน

Thairath Talk :  สุดท้ายให้ฝากนิทรรศการครั้งแรกของตัวเอง 

นิทรรศการครั้งนี้ชื่อว่า ANO’S WONDER HORROR LAND งานนี้เป็นความตั้งใจของเนะมาก เนะชอบในความ Wonderland แต่มีความ HORROR เพราะเนะเชื่อว่าเนะเป็นคน possitive มากค่อนข้างมองโลกในแง่ดี แต่เนะเชื่อว่าในชีวิตเราอ่ะมันมีทั้งดีและไม่ดี มันผสมปนกันแล้วมันไม่มีวันไหนที่มันจะไม่ดีเลยหรอก

คือเนะอยากจะเสนอมุมมองใหม่ให้เรามองชีวิตในอีกแบบมันคือวันนี้มันแย่แหละแต่เรามองไงให้มันดี อยากให้มามองลึกๆ หาลายเส้นน่ารักๆ นี้นะคะ แล้วคุณจะเข้าใจว่าเนะจะสื่ออะไร นิทรรศกาลนี้เปิดให้เข้าชมตั้งแต่วันนี้ถึง 30 กันยายน 2561 ที่เดอะแกลเลอรี ชั้น 36 โรงแรมพูลแมน กรุงเทพ จี (สีลม)