นักธุรกิจหญิงไฟแรง แถมไอเดียสุดเริ่ดสิรโสมย์ บริสุทธิ์สุวรรณ์ นำสโลแกน “เมาไม่ขับ” มาสร้างเป็นธุรกิจใหม่ในเมืองไทย ในการให้บริการสร้างคนรถมืออาชีพไปขับรถคุณ ซึ่งกว่าจะมาถึงวันนี้ได้ ต้องใช้น้ำอดและน้ำทน สู้งานด้วยความคิดที่ต้องรับผิดชอบชีวิตของทีมงานอีกนับสิบ

สิรโสมย์ หรือ “สิ” นักธุรกิจสาววัย 27 ปี เล่าถึงเส้นทางการทำงานของเธอว่า ด้วยความที่อยากทำธุรกิจของตนเอง เพราะเป็นคนชอบค้าขายมาตั้งแต่เด็ก ที่บ้านพ่อกับแม่ (สมศักดิ์-สำเภา บริสุทธิ์สุวรรณ์) มีกิจการร้านทอง ที่ จ.ปราจีนบุรี ก็ซึมซับเรื่องการค้าขายมาตั้งแต่เด็ก ตอนเรียน ม.6 ที่ ร.ร.วัฒนาวิทยาลัย ก็ได้ชวนเพื่อนมาขายรองเท้า โดยเราออกแบบแล้วไปสั่งโรงงานตัดเย็บ ชื่อแบรนด์ “Make A Wish” โดยไปวางขายตามร้านที่สยามสแควร์ และสวนจตุจักร ซึ่งขายได้ดี จากนั้น ก็สอบเข้าเรียนที่คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในโปรแกรมอินเตอร์ฯ พอจบได้ทำงานด้านการเงินอยู่ 4 เดือน ก็ลาออกมาเรียนต่อปริญญาโท เศรษฐศาสตร์ธุรกิจและการจัดการ โปรแกรมอินเตอร์ฯ ที่จุฬาฯ ในช่วงที่เรียนปริญญาตรี ได้ลงทุนค้าทองคำ ซื้อขายด้วยเงินทุนหลักแสน ได้กำไรมาเป็นหลักล้าน เลยได้นำมาเป็นทุนสร้างธุรกิจของตนเอง ซึ่งได้นำแผนธุรกิจที่เป็นกระดาษ ทำงานส่งอาจารย์ ขณะเรียนปริญญาโท มาสร้างเป็นธุรกิจที่จับต้องได้ในชื่อบริษัท ยูดริ้งค์ ไอไดรฟ์ ให้บริการส่งคนขับรถไปขับรถคุณกลับบ้าน หากขับรถไม่ไหว หรือเมาแล้วไม่อยากขับ โดยให้บริการผ่าน call center โทร.09-1080-9108, ทางไลน์ ไอดี @udrinkidrive, www.udrinkidrive.co.th, facebook : www.facebook.com/udrinkidrive.th และ แอพพลิเคชั่น U DRINK I DRIVE บนแอนดรอยด์ และ ios

...

สิเล่าที่มาของธุรกิจใหม่ในเมืองไทย... “ตอนที่เขียนแผนงานส่งอาจารย์ อยากทำอะไรที่รู้สึกโดนใจ อะไรที่แปลกใหม่ แล้วน่าสนใจ และสามารถนำไปใช้ได้จริง เลยหาข้อมูลพบว่า สถิติการเกิดอุบัติมากกว่า 40% ในบ้านเรามาจากการเมาแล้วขับ เลยมาคิดว่าจะแก้ปัญหาอะไรได้อีก นอกจากการรณรงค์ เลยได้ไอเดียให้บริการขับรถไปส่งบ้านแทน และพอหาข้อมูลเพิ่มพบว่าธุรกิจนี้มีให้บริการแล้วทั้งที่เกาหลี อเมริกา และพอไปคุยกับเพื่อนๆ หลายคนเห็นด้วยและมาร่วมทุน ทำให้เรายิ่งแน่ใจว่าธุรกิจนี้น่าจะเกิด เราไม่ได้มโนไปเอง “สิ” จึงเริ่มเปิดบริษัทเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ธุรกิจของเราเป็นธุรกิจใหม่ และเกี่ยวกับความปลอดภัย ดังนั้นทำอย่างไรที่จะทำให้น่าเชื่อถือและลูกค้าไว้วางใจ เราจึงต้องลงทุนด้านเทคโนโลยีติดตั้งจีพีเอส, กล้องติดตัวคนขับ ลูกค้าจะได้อุ่นใจ รวมไปถึงเทรนพนักงานขับรถให้บริการแบบพรีเมียม มีชุดสูทเป็นยูนิฟอร์ม เรียกว่าอยากให้ลูกค้าประทับใจตั้งแต่เห็น ให้ร้อง “ว้าว” ไปเลย ในช่วงกิจการปีแรกสาหัสมาก ลูกค้าเดือนหนึ่งมี 19 คน 19 ทริป “สิ” เองก็ทำงาน ทุกอย่าง เพราะอยากรู้ปัญหาด้วย เป็นทั้งคนรับโทรศัพท์ Call Center ไปออกบูธจนคนคิดว่า เป็นพริตตี้ เพื่อนที่ร่วมหุ้นจากเกือบ 10 คน สุดท้ายเหลือ 3 คน คือ ตัวสิ, อัครเดช ประกิตสุวรรณ, อภินรา ศรีกาญจนา เท่านั้น ทีแรกจะถอดใจแล้ว เพราะเงินล้านหมดไปใน 2-3 เดือน ต้องลงทุนใหม่ แต่พอมองเห็นว่าเราต้องรับผิดชอบต่อพนักงานที่เขามีความเชื่อมั่นในธุรกิจของเรา พวกเราก็สู้ต่อ จนวันนี้เรามีลูกค้าเดือนละ 5,000-6,000 ทริป”

กว่าจะมาถึงวันนี้ สาวนักสู้คนนี้ บอกว่า อดทนอย่างมาก เคยคิดเหมือนกันว่าเราสามารถทำอะไรที่สบายกว่านี้ ที่บ้านก็ไม่ได้ลำบากมาก ทำไมต้องทน อดหลับอดนอน ปีแรกนี่นอนวันละ 4 ชม.เอง แต่ประสบการณ์เยอะมาก สอนให้เราทำงานมีความละเอียดรอบคอบ และต้องพัฒนาตนเองอย่างไม่หยุดนิ่ง.