พุดตาน พงษ์พัฒนา เปิดโครงการ "แบรนด์ส่งความสุขรับปีใหม่".
จากพระราชดำรัสของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่พระราชทานแก่คณะกรรมการมูลนิธิอนุเคราะห์คนพิการในพระราชูปถัมภ์ของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน เมื่อวันศุกร์ที่ 22 มีนาคม 2517 ความว่า “งานช่วยเหลือคนพิการนี้ ก็มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะว่าผู้พิการ ไม่ได้อยากจะเป็นผู้พิการและอยากช่วยเหลือตนเอง ถ้าเราไม่ช่วยเขาให้สามารถที่ปฏิบัติงานอะไรเพื่อชีวิตและเศรษฐกิจของครอบครัว จะทำให้เกิดสิ่งที่หนักในครอบครัว หนักแก่ส่วนรวม ฉะนั้นนโยบายที่จะทำก็คือช่วยเขาให้ช่วยเหลือตนเองได้ เพื่อจะทำให้เขาสามารถเป็นประโยชน์ต่อสังคม”
แบรนด์ซุปไก่สกัดจึงได้ร่วมกับมูลนิธิขาเทียม ในสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี จัดโครงการ “แบรนด์สร้างความดี...เพื่อมูลนิธิขาเทียม ในสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี” พร้อมกับเชิญชวนทุกคนร่วมทำความดีส่งต่อกำลังใจ และเป็นส่วนหนึ่งของก้าวที่สำคัญของผู้พิการขาขาดที่ยากไร้ ทั่วประเทศ และในโอกาส เทศกาลปีใหม่ 2560 ได้จัดงาน “แบรนด์ส่งความสุขรับปีใหม่” เพื่อส่งต่อความสุขให้กับคนไทย เนรมิตกระเช้ายักษ์กลาง เมือง ประดับด้วยไฟสวยงาม พร้อมสร้างบรรยากาศ รอบข้างให้เป็นเทศกาลคริสต์มาสอันยิ่งใหญ่ ตระการตาด้วยต้นคริสต์มาส กล่องของขวัญมากมาย และหิมะสุดอลังการ รวมทั้งส่งความสุขและกำลังใจให้กับคนไทยทุกคนผ่านบทเพลง “ไปด้วยกัน” โดย “โต๋-ศักดิ์สิทธิ์ เวชสุภาพร” ในฐานะแบรนด์แอมบาสเดอร์และร้องเพลง พรปีใหม่ เพื่ออวยพรแก่คนไทยทุกคน โดยมีน้องที่ได้รับขาเทียมจากมูลนิธิขาเทียมฯ และเด็กๆ นักเรียนอนุบาล ร่วมร้องคอรัส รวมทั้งส่งคำอวยพรดีๆ ณ ลานกิจกรรม สถานีรถไฟฟ้าช่องนนทรี กรุงเทพฯ เมื่อเร็วๆนี้
...
รศ.นพ.วัชระ รุจิเวชพงศธร เลขาธิการมูลนิธิขาเทียม ในสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี กล่าวว่า สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีทรงทราบถึงความยากลำบากและความเดือดร้อนของผู้พิการขาขาดที่ยากไร้ทั่วประเทศ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้จัดตั้งมูลนิธิขาเทียมฯขึ้น ในวันที่ 17 สิงหาคม 2535 เพื่อทำขาเทียมให้แก่คนพิการขาขาดที่ยากไร้และด้อยโอกาส โดยไม่คิดมูลค่าและไม่เลือกเชื้อชาติศาสนา แต่ความต้องการขาเทียมก็ยังมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆไม่มีวันหมด เนื่องจากขาเทียมแต่ละขาที่ทำขึ้นนั้น เป็นขาพิเศษที่ต้องวัดขึ้นมาเฉพาะแต่ละคน อีกทั้งผู้พิการจะต้องได้รับการเปลี่ยนขาเทียมใหม่ทุกๆ 2 ปี ทำให้จำนวนขาเทียมที่มี ณ ปัจจุบัน ยังไม่เพียงพอต่อความ ต้องการ
ด.ญ.ไอริณ ปัท-มะทิน สาวน้อยอายุ 9 ขวบ ผู้สูญเสียขาจากโรคมะเร็งเนื้อเยื่อ เล่าว่า ได้รับขาเทียมพระราชทานตอนอายุแค่ 11 เดือน จึงเริ่มหัดเดินก้าวแรกในชีวิตพร้อมๆกับขาเทียม เมื่อโตขึ้นหนูเคยสงสัยหลายครั้งว่าทำไมขาหนูไม่เหมือนกับขาของเพื่อนๆ แต่ตอนนี้หนูเข้าใจแล้วค่ะ และหนูดีใจมากที่ได้รับขาเทียม เพราะหนูได้มีชีวิตใหม่ และมีโอกาสได้วิ่งเล่นกับเพื่อนๆที่โรงเรียน ได้ทำกิจกรรมอีกหลายๆ อย่างเหมือนคนทั่วไป เช่น ปั่นจักรยาน ตีแบด และที่รู้สึกตื่นเต้นมากๆคือ การได้เต้น เพราะหนูชอบเต้นมากค่ะ หนูขอขอบคุณมูลนิธิขาเทียมฯที่ให้โอกาสและดูแลหนูอย่างดีมาโดยตลอด ทำให้หนูมั่นใจและสามารถใช้ชีวิตได้ปกติ และมีความสุขเหมือนอย่างเพื่อนๆ.