สภาพอากาศทั่วโลกแปรปรวนอย่างน่าตกใจ ทั้งน้ำท่วม แผ่นดินไหว หิมะตก รวมถึงภัยแล้ง ล้วนแต่เป็นปัจจัยบ่งชี้ถึงภาวะโลกร้อน ด้วยความสำนึกที่มีต่อสังคมไทย...

สภาพอากาศทั่วโลกแปรปรวนอย่างน่าตกใจ ทั้งน้ำท่วม แผ่นดินไหว หิมะตก รวมถึงภัยแล้ง ล้วนแต่เป็นปัจจัยบ่งชี้ถึงภาวะโลกร้อน ด้วยความสำนึกที่มีต่อสังคมไทย ธนาคารเอชเอสบีซี จับมือกับสถานทูตอังกฤษประจำประเทศไทย, การไฟฟ้านครหลวง, บริติช เคานซิล และแอลจี อีเล็คทรอนิคส์ จัดโครงการประหยัดไฟระดับมหานคร "The Bangkok Big Switch" เปิดโอกาสให้ ประชาชนชาวไทยมีส่วนร่วมแก้ไขปัญหาโลกร้อนอย่างยั่งยืน โดยแข่งกันลดการใช้พลังงานครัวเรือน ในเขตพื้นที่จังหวัดกรุงเทพฯ นนทบุรี และสมุทรปราการ ต่อเนื่องเป็นเวลา 3 เดือนเต็ม

น่าชื่นใจไม่น้อยที่ตลอดระยะเวลาดังกล่าว มีครัวเรือนเกือบ 9,000 แห่ง  เข้าร่วมโครงการประหยัดไฟระดับมหานคร ส่งผลให้สามารถลดปริมาณการใช้ไฟฟ้าให้ประเทศได้มากกว่า 1.16 ล้านหน่วย หรือคิดเป็นปริมาณคาร์บอนถึง 7 แสนกิโลกรัม ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการรณรงค์ให้สังคมไทยเห็นถึงความสำคัญของการประหยัดพลังงานอย่างจริงจัง

ภายใต้ โครงการนี้ ยังได้มีการมอบรางวัลแก่ครอบครัวตัวอย่าง ที่สามารถประหยัดไฟได้สูงสุดเป็น 10 อันดับแรกด้วย พร้อมนำเทคนิคการประหยัดไฟมาร่วมแบ่งปันแก่สาธารณชน ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวของ "ดร.จิรพรรณ เลี่ยงโรคาพาธ" ผู้ช่วยคณ-บดีสถาบัน AIT ซึ่งคว้ารางวัลชนะเลิศ เผยเคล็ดลับว่า ครอบครัวเราวางแผนใช้ไฟฟ้าในบ้านใหม่หมด จากที่เวลานอนเคยเปิดไฟทิ้งไว้ 5 ดวง ก็ลดลงเหลือ 2 ดวง ปิดแอร์เร็วขึ้น เปิดแอร์ช้าลง และวันเสาร์อาทิตย์จะไม่เปิดแอร์เลย แต่พาลูกๆไปเดินห้างฯแทน ส่วนน้ำอุ่นก็เลิกอาบ และวางแผนรีดเสื้อผ้าพร้อมกันอาทิตย์ละครั้ง จนเดือนสุดท้ายตัดสินใจปิดแอร์ 1 เดือนเต็ม รวมทั้งดึงปลั๊กตู้เย็นทิ้ง หันมาดื่มน้ำอุณหภูมิปกติ ทำให้ค้นพบว่า จริงๆแล้ว หลายสิ่งหลายอย่างเกินความจำเป็นในชีวิต และเมื่อเริ่มต้นประหยัดไฟฟ้าจริงจัง นอกจากจะช่วยให้โลกเย็นขึ้น ยังทำให้มีเงินเหลือเก็บเพิ่มขึ้นด้วย

ด้านช่างซ่อมโทรศัพท์มือถือ "พลเทพ โน่นใหม่" ผู้คว้ารางวัลชนะเลิศอันดับสอง แนะนำเทคนิคการประหยัดไฟว่า ผมใช้วิธีหุงข้าวตอนเช้าเผื่อกลางวันและเย็นไปเลย จะได้ไม่ต้องเสียบปลั๊กบ่อยๆ และจะปิดไฟดวงที่ไม่ได้ใช้, เลิกใช้ รีโมต เปลี่ยนมาใช้วิธีเปิดปิดสวิตช์โทรทัศน์โดยตรง, พยายามล้างตู้เย็นทุกอาทิตย์, เวลาใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าเสร็จ จะถอดปลั๊กออกทันที และถ้าไปต่างจังหวัด ก็จะยกเบรกเกอร์ลง จากเมื่อก่อนผมจ่ายค่าไฟฟ้าเดือนละ 400-500 บาท พอเข้าร่วมโครงการนี้ บ้านผมใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 90 หน่วย ทำให้ไม่ต้องเสียค่าไฟแม้แต่บาทเดียว 

ไม่เพียงเท่านี้ ยังมีตัวแทนนักเรียนโรงเรียนวัดหนองใหญ่เข้าร่วมโครงการนี้ด้วย เพื่อปลูกฝังเยาวชนให้เกิดจิตสำนึกเรื่องการประหยัดพลังงาน นับเป็นแบบอย่างอันดี ที่ควรนำไปปฏิบัติตามในพื้นที่อื่นๆทั่วประเทศ.

...