เชื่อว่าหลายคนที่กำลังอ่านบทความนี้อยู่เป็นมนุษย์นอนดึก ซึ่งอาจมีสาเหตุมาจากหน้าที่การงานหรือเป็นนิสัยที่ชอบใช้เวลาในช่วงกลางคืน แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ด้วยภาระการงานทำให้ไม่สามารถหลีกเลี่ยงการ ‘ตื่นเช้า’ ไปได้ จึงมักจะได้ยินเสียงบ่นว่าต้องทำงานหนักและสะสางชีวิตส่วนตัว จนทำให้ต้องนอนดึกและตื่นเช้าด้วยอารมณ์เบื่อหน่าย เป็นวงจรแบบนี้ไปเรื่อยๆ วันนี้เราจะมาบอกวิธีการฝึกตื่นเช้าให้เป็นเช้าที่สดใส (แม้อาจจะฟังดูไม่ง่ายนัก) แต่ถ้าคุณทำได้ รับรองว่ามันจะส่งผลดีต่อชีวิตคุณ แถมยังมีเวลาเพิ่มให้กับตัวเองอีกด้วย
How to Get Up Early and Be Fresh
1. ทำซ้ำๆ เพราะการตื่นเช้าถือเป็นนิสัยที่สามารถฝึกฝนกันได้ การฝึกทำไปเรื่อยๆ จะทำให้เกิดเป็นความเคยชินและจะกลายเป็นนิสัยในที่สุด คุณอาจเคยได้ยิน ‘ทฤษฎีสร้างนิสัยใน 21 วัน’ (21-Day Habit Theory) ที่กล่าวว่า หากอยากเปลี่ยนนิสัยให้เป็นแบบไหนให้ทำสิ่งนั้นทุกวันเป็นเวลา 21 วัน แต่นิสัยบางอย่างก็ต้องอาศัยเวลามากกว่านั้น
2. ทำจากสิ่งเล็กๆ ก่อน เช่น ถ้าปกติตื่น 10 โมง อาจจะบังคับตัวเองให้ตื่น 9 โมงครึ่ง แล้วค่อยๆ ขยับไปเรื่อยๆ เพราะหากทำอะไรแบบหักดิบ เช่น เคยตื่น 10 โมง แล้วต้องมาตื่น 6 โมง อาจจะเป็นเรื่องที่ยากไปจนหมดกำลังใจ หรือถ้าทำได้รับรองว่าไม่เกิน 1 เดือน ก็จะกลับไปเป็นเหมือนเดิม ดังนั้นให้เริ่มจากอะไรที่สามารถทำได้ใกล้เคียงกับสิ่งที่เคยทำอยู่แล้วจะสามารถทำได้ง่ายกว่า
...
3. ทำทีละอย่าง ข้อนี้สำคัญมาก มันเป็นรูปแบบเดียวกับ Wish Lists หรือ New Year’s Resolution ที่ตั้งปณิธานยาวเหยียดไว้สวยหรู แต่ทำให้เกิดขึ้นจริงแทบไม่ได้เลย เพราะต้องทำอะไรหลายๆ อย่างไปพร้อมๆ กัน จนเป็นภาระและไม่สามารถโฟกัสกับสิ่งที่ตั้งใจไว้ได้ ดังนั้นการฝึกนิสัยตื่นเช้าไม่ควรจะทำพร้อมกับการสร้างนิสัยอื่นๆ แต่ให้ทำจนกว่าจะสามารถตื่นเช้าได้แล้วค่อยเริ่มอย่างอื่นต่อ
4. ทำให้น่าสนใจ คุณสามารถหาแรงจูงใจให้ตัวเองหลังตื่นนอนได้ เช่น อาจจะตั้งเป้าว่าตื่นขึ้นมาเพื่อทำอะไร เป็นเรื่องจริงที่หลายคนสามารถตื่นเช้าได้เพราะติดการกินอาหารเช้า แต่คุณอาจจะตั้งเป้าหมายอย่างอื่น เช่น ตื่นมาดื่มกาแฟ หรือตื่นมาเพื่อที่จะมีเวลาอาบน้ำได้นานขึ้น แต่ที่สำคัญอย่าทำให้ยุ่งยากจนเกินไป คงเป็นไปไม่ได้เลยที่คุณจะฝืนตัวเองได้ทุกวัน เพราะแค่ต้องบังคับตัวเองให้ตื่นนอนแต่เช้าก็เป็นเรื่องยาก แล้วยังต้องมาพบกับความยุ่งยากหลังตื่นนอนอีก นอกจากนี้อาจจะทำให้คุณเสียเวลาและไปทำงานสายจนคุณอาจจะหงุดหงิดยิ่งกว่าเดิม
หากคุณเบื่อกับการฝึกตัวเองให้ตื่นเช้า ให้ลองคิดว่ามันคืองานอดิเรกที่ท้าทายและคุณจะต้องเอาชนะมันให้ได้ เพราะการบ่มเพาะนิสัยจะต้องใส่ใจ ติดตามผล และมีระเบียบวินัยกับตัวเอง มันอาจจะยาก แต่เมื่อทำได้คุณก็จะภาคภูมิใจกับมัน และหากคุณตื่นเช้าได้ การออกกำลังกายที่เคยผัดวันประกันพรุ่งจนไม่ได้ออกสักทีก็คงจะไม่ใช่เรื่องยากที่จะทำให้เป็นนิสัย (รวมถึงนิสัยอื่นๆ ด้วย)
How to Make a Productive Morning
เมื่อจะต้องแหกขี้ตาตื่นแต่เช้าแล้วก็ควรจะได้อะไรมากกว่าการเริ่มต้นวันใหม่ที่เร็วกว่าเดิม เพราะยามเช้าเป็นช่วงที่ทุกอย่างยังเงียบสงบและปราศจากการรบกวน จึงเป็นเวลามีค่าที่จะได้อยู่กับตัวเองมากที่สุด การตื่นเช้าจึงถือเป็นข้อได้เปรียบ ที่เหมือนได้ใช้เวลาส่วนตัวก่อนเริ่มวันใหม่
เทคนิคเพิ่มเติม เป็นการสร้างประโยชน์จากนิสัยเดิมๆ โดยการใส่กิจกรรมใหม่ๆ เข้าไป เช่น หากคุณมีนิสัยตื่นเช้าแล้วต้องดื่มกาแฟ ในระหว่างที่คุณดื่มกาแฟอาจจะหาอะไรที่ชอบมาอ่าน หรืออาจจะเป็นช่วงเวลาเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับงาน เช่น อ่านข่าวธุรกิจหรือบทความวิทยาศาสตร์ หรือเป็นช่วงเวลาที่ใช้วางแผนสิ่งที่ต้องทำในวันนั้น สุดท้ายคุณจะสามารถทำกิจกรรมใหม่ๆ นี้ได้อย่างง่ายดายราวกับเป็นส่วนหนึ่งของกิจวัตรปกติจนติดเป็นนิสัย และเป็นการใช้เวลาช่วงเช้าได้อย่างคุ้มค่ามากที่สุด
เราเรียกสิ่งที่ทำทั้งหมดว่ากิจวัตรยามเช้า สามารถอ่านบทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมได้ใน ‘กิจวัตรยามเช้าของ 10 ชายผู้ทรงอิทธิพลระดับโลก’ http://www.gqthailand.com/life/view/?url=10-people-early-wake-up
ที่มา - GQ Thailand
www.gqthailand.com