ก็รู้อยู่ว่าความสวยภายนอกไม่มีอะไรเป็นนิรันดร์ โดยเฉพาะความสวยบนใบหน้าที่นานวันก็เริ่มปรากฏริ้วรอยเหี่ยวย่นความชรามาให้เห็น แต่ถึงอย่างนั้น สาวๆ ส่วนใหญ่ก็ยังละเลยการใส่ใจดูแลผิว และปล่อยให้สภาพผิวดูมีอายุมากขึ้นก่อนวัย ด้วยนิสัยผิดๆ เหล่านี้ !

1. มองข้ามครีมกันแดดในฤดูหนาว

อย่าคิดว่าในฤดูหนาวที่มีสายลมโชยอ่อนๆ วันที่เมฆหมอกปกคลุมมากเหมาะกับการออกไปข้างนอกเป็นที่สุด จะไม่มีแสงแดดมาทำอันตรายกับผิวของคุณได้ เพราะความจริงแล้วแค่แสงสว่างจากดวงอาทิตย์ที่พออ่านหนังสือได้ ก็สามารถให้รังสียูวีที่เป็นโทษกับผิวของคุณได้แล้ว อีกทั้งถ้าวันไหนมีลมพัดแรง ผิวของคุณก็จะถูกทำร้ายจากรังสียูวีได้มากขึ้นกว่าปกติด้วย หลายคนมักมองข้ามกับแสงแดดในฤดูหนาวนี้ไป และปล่อยให้ผิวสัมผัสกับแสงแดดโดยไม่มีอะไรป้องกัน ซึ่งหารู้ไม่ว่า มันเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ผิวของคุณมีอายุมากขึ้น ค่อยๆ หมองคล้ำลง เกิดริ้วรอย-กระ จุดด่างดำต่างๆ และทำให้ความยืดหยุ่นของผิวลดน้อยลง (ไม่เหมือนช่วงแรกรุ่น)

อย่างไรก็ดี ครีมกันแดดเป็นตัวช่วยต้านความชราได้มากที่สุด และช่วยลดทอนแสงแดดที่เข้ามากระทบกับผิวได้อย่างมาก เราแนะนำให้คุณเลือกใช้ครีมกันแดดที่ปกป้องได้ทั้ง UVA และ UVB ซึ่งมีค่า SPF 15-30 เป็นประจำทุกครั้งก่อนออกท้าแดด สักประมาณครึ่งชั่วโมง ไม่ว่าวันนั้นแสงแดดจะอ่อน แดดจ้า หรือครึ้มฟ้าครึ้มฝนก็ตาม

...

2. ไม่สวมแว่นกันแดด

อีกหนึ่งข้อที่สาวๆ ส่วนใหญ่มักมองข้าม และคิดว่ามันไม่เป็นอะไรหากดวงตาคู่สวยจะโดนแสงแดด แต่แท้จริงแล้ว มันก็ต้องการการปกป้องพอๆ กับผิวกายคุณนั่นแหละ เพราะผิวรอบๆ ดวงตาของคุณเป็นส่วนที่บอบบาง และไวต่อการกระตุ้นมากที่สุด ถ้าดวงตาของคุณกระทบแสงมากๆ ดวงตาของคุณก็จะตอบสนองต่อแสงแดดนั้นโดยการหรี่ตา ซึ่งนั่นจะทำให้เกิดรอยเหี่ยวย่น ผิวแดงไหม้ และปรากฏรอยตีนกาบนใบหน้าตามมา (ดูหน้าล้ำอายุ) แน่นอนล่ะว่า มันคงไม่ใช่เรื่องดีสำหรับสาวๆ นัก ฉะนั้นแล้วเพื่อรักษาดวงตาให้ดูอ่อนกว่าวัย คุณควรสวมหมวก หรือหาแว่นตากันแดดที่เลนส์แว่นใหญ่หน่อยมาสวมหลบแสงแดดเวลาออกจากบ้าน มันจะเป็นเกราะป้องกันผิวรอบดวงตา โดยเฉพาะเปลือกตา และลูกนัยน์ตา จากการทำร้ายของแสงยูวีได้อย่างเหลือเชื่อ !

3. นวดถูแรงๆ บริเวณใต้ตา และดึงหนังตาของคุณบ่อยๆ

การนวดถู หรือคลึงบริเวณรอบดวงตาที่เหนื่อยล้าหลังการใช้สายตาอย่างหนักหน่วง มันทำให้คุณรู้สึกดีก็จริง แต่มันก็ทำร้ายผิวของคุณด้วยเช่นกัน ยิ่งคุณนวดคลึงมากเท่าไหร่ มันก็จะทำให้ผิวที่บอบบางรอบๆ ดวงตามีอาการช้ำ เกิดการยืดขยายออกจนเกิดเป็นผิวลายบนใบหน้า และเป็นสาเหตุให้ผิวหย่อนคล้อย เกิดริ้วรอยตีนกาเจ้าปัญหา ไม่เต่งตึงเหมือนคนมีอายุ จำไว้ว่า ผิวรอบดวงตาของคุณ โดยเฉพาะเปลือกตาคือส่วนที่บอบบาง ไวต่อสิ่งกระตุ้นมากที่สุด และมีความยืดหยุ่นน้อยที่สุดบนใบหน้า ด้วยเหตุนี้คุณควรต้องหมั่นดูแลผิวรอบๆ ดวงตาให้เฟิร์ม-คงความอ่อนเยาว์ และเติมความชุ่มชื้นด้วยผลิตภัณฑ์ที่เป็นเบสเนื้อเจลเบาๆ อยู่เสมอ (แทนการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีความเข้มข้นของสี หรือแบบเนื้อครีม ซึ่งอาจหนักเกินไปสำหรับผิวที่บอบบางส่วนนี้) เพื่อช่วยฟื้นฟูผิวรอบดวงตาคู่สวยของคุณ

4. ละเลยการดูแลช่วงคอ หน้าอก และมือของคุณ

สาวๆ หลายคนมักเข้าใจผิด คิดว่ารอยเหี่ยวย่นของอายุจะมาเยือนแค่ใบหน้าเท่านั้น หารู้ไม่ว่าช่วงลำคอ บริเวณหน้าอก และมือที่เริ่มเหี่ยว ก็เป็นตัวบ่งบอกอายุที่มากขึ้นได้เหมือนกัน ซึ่งอายุจริงของสาวๆ มักจะถูกแสดงให้เห็นในส่วนบอบบาง และละเอียดอ่อนมากที่สุดเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็น ผิวที่เริ่มแตกลายมากขึ้น รอยพับบริเวณลำคอ หรือความหย่อนคล้อยของผิว-รอยเหี่ยวย่นต่างๆ รวมทั้ง 3 ส่วนนี้ ยังขาดแคลน 'ต่อมไขมัน' หรือมีต่อมไขมันไม่เพียงพอ ซึ่งเป็นผลทำให้ผิวแห้งอยู่บ่อยๆ และต้องการความชุ่มชื้นมากเป็นพิเศษด้วย ฉะนั้นเมื่อไหร่ที่คุณละเลยดูแลการใช้ครีมกันแดด หรือโลชั่นบำรุงผิวต่างๆ คุณก็เตรียมใจรับสัญญาณสภาพผิว ที่แลดูแก่กว่าวัยอย่างเห็นได้ชัดได้เลย หากแต่คุณจะหันมาลองใช้เซรั่ม หรือครีมต้านความแก่ (ช่วยชะลอวัย) และฟื้นฟูสุขภาพผิวดีขึ้น ลง 3 จุด เซนซิทีฟเหล่านั้นก็ยังทันนะ

ป.ล. แต่อย่าลืมสารกันแดด SPF หลังใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวทุกครั้ง เพื่อเซฟผิวสวยอีกชั้นหนึ่งด้วยนะ !

...

5. ยุ่งเหยิงกับตารางการนอนหลับ

อาจเรียกได้ว่านอนหลับไม่เป็นเวลา จัดเวลาการนอนไม่ลงตัวสักที หรือบางคนมีเวลานอนน้อยไม่ถึง 6 ชั่วโมง นั่นจึงส่งผลต่อผิวของคุณไม่ได้รับการฟื้นฟู-ซ่อมแซมเต็มที่ระหว่างการนอนหลับ เป็นเหตุให้ผิวของคุณหย่อนคล้อยเร็ว และดูแก่ชราก่อนวัยอันควร การพักผ่อนอย่างเพียงพอ เป็นองค์ประกอบสำคัญของความสวย และความอ่อนเยาว์ในทุกเพศทุกวัย คุณ (ทำตัวเอง) นอนหลับอย่างไร อาจสำคัญเท่ากับคุณใช้เวลานอนพักผ่อนมากขนาดไหน? คุณควรต้องทำสองอย่างนี้ให้สมดุล-สอดคล้องกันไป เพราะมันจะเป็นกุญแจเปิดประตูสู่ความอ่อนเยาว์ และช่วยชะลอความแก่ได้นานขึ้น

ทั้งนี้ผู้เชี่ยวชาญเผยว่า ร่างกาย และผิวหนังจะสมาน-รักษาริ้วรอย (ตีนกา) และความหย่อนคล้อยต่างๆ อย่างล้ำลึกมากที่สุดในระหว่างการนอนหลับ ซึ่งหากคุณหลับๆ ตื่นๆ หลับทั้งที่ยังรู้สึกตัวตลอดเวลา หรือสะดุ้งตื่นกลางดึกเสมอๆ มันก็จะทำให้ร่างกายฟื้นฟูผิวได้ไม่เต็มที่ และอาจทำให้เสียระบบ/กระบวนการฟื้นฟูภายใน อีกทั้งยับยั้งการปลดปล่อยฮอร์โมนบางอย่าง และเป็นสาเหตุให้เกิดการอักเสบต่างๆ ได้ง่ายในร่างกาย ยิ่งถ้าคุณเป็นคนนอนดึกอยู่แล้ว ก็ยิ่งทำให้ประสิทธิภาพการฟื้นฟูสภาพผิวลดลงอย่างไม่ต้องสงสัย ...

...


ที่มา : womenshealthmag.com