เฮง เฮง เฮง ใครอยากดวงเฮงตลอดปีฟังทางนี้! ตรุษจีนกำลังใกล้เข้ามาแล้ว โดยเฉพาะวันนี้เป็น 'วันไหว้' ลูกหลานเชื้อสายมังกรทั้งหลายต่างก็ออกจับจ่ายหาซื้อของไหว้กันอย่างคึกคัก โดยเฉพาะอาหารคาวหวานและผลไม้ เรียกว่าต้องจัดเต็มมาให้ครบอย่าได้ขาด จึงจะเหมาะสมกับการต้อนรับศักราชใหม่ตามปฏิทินจีนในวันที่ 19 กุมภาพันธ์นี้

ไหนๆ จะไหว้กันแล้วก็ไม่ควรให้ผิดเพี้ยนไปจากหลักปฏิบัติดั้งเดิมที่สืบทอดกันมายาวนาน บางคนอาจยังสงสัยและเกิดคำถามว่าของไหว้อย่าง 'ผลไม้' ควรเลือกอย่างไรให้ถูกต้อง วันนี้ ไทยรัฐออนไลน์ ต่อสายตรงหาซินแสคนดังอันดับต้นๆ ของเมืองไทยอย่าง ซินแสภาณุวัฒน์ พันธุ์วิชาติกุล ประธานสถาบันศาสตร์แห่งชีวิตแห่งประเทศไทย ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ย โหงวเฮ้ง และดูดวงตามหลักโหราศาสตร์จีน เพื่อไขข้อข้องใจว่าผลไม้มงคลที่เหมาะสำหรับไหว้ตรุษจีนโดยเฉพาะนั้นมีอะไรบ้าง และก็ได้คำตอบว่ามี 5 อย่าง ดังต่อไปนี้

1. ส้ม ผลไม้แห่งสิริมงคล
ต้องเลือกส้มที่มีเปลือกมีสีส้มหรือสีเหลืองทอง เหตุที่ต้องเป็นส้มสีทองก็เพราะ สีทอง เป็นสีแห่งความเป็นสิริมงคล ไม่จำเป็นว่าต้องเป็นส้มสายพันธุ์พิเศษอะไร ขอให้มีเปลือกสีส้มหรือสีเหลืองทองก็เป็นอันใช้ได้

2. กล้วย ผลไม้แห่งความมั่งมี
แนะนำว่าเป็นกล้วยหอมทองจะดีที่สุด ด้วยลักษณะของกล้วยที่ออกเป็นเครือ จึงมีความหมายในทางมงคลว่า ทำให้ครอบครัวเจริญงอกงามมีลูกหลานมากมายไว้สืบสกุล อีกทั้งกล้วยเป็นพืชที่แตกหน่อแพร่ขยายพันธุ์ได้ง่าย ทนทาน ตายยาก ก็สื่อความหมายถึงการแพร่ขยายของวงศ์ตระกูลได้ดีนั่นเอง และสีเหลืองทองของกล้วยยังหมายถึงความมั่งมี ร่ำรวยเงินทองอีกด้วย

...

3. สับปะรด ผลไม้แห่งความโชคดี
สำหรับสับปะรดภาษาจีนแต้จิ๋วเรียกว่า "อั่งไล้" แปลว่า เรียกสีแดงมา โดยคำว่า อั่ง แปลว่าสีแดง ส่วนคำว่า ไล้ แปลว่า เรียกมาหาเรา เมื่อรวมกันจึงแปลความได้ว่า เรียกสีแดงหรือเรียกความโชคดีให้มาหาเรา จึงควรมีสับปะรดเป็นหนึ่งในของไหว้ อย่าได้ขาด

4. องุ่น ผลไม้แห่งความงอกงาม
องุ่นก็เช่นกัน เป็นผลไม้ที่มีความหมายดีในแง่ของภาษาจีนแต้จิ๋ว โดยคนจีนแต้จิ๋วจะเรียกว่า "ผู่ท้อ" แปลว่า "งอกงาม" โดยสรุปคือการนำองุ่นมาเป็นของไหว้จะทำให้ผู้ไหว้และครบครัวมีความเจริญรุ่งเรือง เติบโต นั่นเอง แต่เน้นว่าต้องเป็นองุ่นสีแดง เพื่อเอาเคล็ดเรื่องสีที่เป็นมงคล เป็นสีแห่งความเฮงหรือความโชคดีนั่นเอง

5. แก้วมังกร ผลไม้แห่งความอุดมสมบูรณ์
ด้วยชื่อเสียงเรียงนามก็น่าเกรงขามแล้ว สำหรับแก้วมังกร ตามคติความเชื่อของชาวจีนจะนับถือมังกรเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว โดยเชื่อกันว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งความอุดมสมบูรณ์ อีกทั้งแก้วมังกรมีเปลือกเป็นสีแดง เป็นสีมงคลนำพาความเฮง เฮง เฮง มาให้ครอบครัว ซินแสแนะนำว่าควรเลือกแก้วมังกรที่มีเปลือกสีแดงและเนื้อด้านในเป็นสีแดงเข้มด้วยก็ยิ่งดี ยิ่งเสริมมงคลให้มีมากเท่าทวีคูณ

...

นอกจาก 5 อย่างหลักๆ นี้แล้ว ใครจะเอาผลไม้ที่มีสีแดงหรือสีเหลืองทองอื่นๆ มาไหว้เสริมด้วย ก็ไม่ผิดกติกา ที่นิยมกันส่วนใหญ่เห็นจะเป็น แอปเปิลแดง สตรอว์เบอร์รี่ และสาลี่ทอง เป็นต้น ส่วนปริมาณจะไหว้มากไหว้น้อยก็ตามศรัทธา จะจัดเป็นอย่างละ 5 ผลก็ได้ หรือจัดมาอย่างละลูกก็ได้ ซินแสภาณุวัฒน์ย้ำว่า การไหว้ต้องไหว้ตามกำลังทรัพย์จะดีที่สุด แต่ถ้ามีมากก็จัดมาให้ครบถ้วน มีน้อยก็จัดรวมใส่ถาดเดียวกันก็ได้ไม่ผิดหลักการส่วนการไหว้ตรุษจีนที่ถูกต้องตามหลักดั้งเดิมนั้นจะไหว้กัน 4 เวลา คือ

1. ตอนเช้า ไหว้พระไหว้เจ้า ช่วงเวลาประมาณ 07.00-09.00 น. หลังจากไหว้เสร็จ จะนำของไหว้มารับประทานเพื่อเป็นสิริมงคล
2. ตอนสาย ไหว้บรรพบุรุษ พ่อแม่ปู่ย่าตายาย ช่วงเวลาประมาณ 09.00-12.00 น. รับประทานของไหว้ได้เช่นกัน
3. ตอนบ่าย ไหว้สัมภเวสี ผีไม่มีญาติ ช่วงเวลาประมาณ 13.00-15.00 น. ของไหว้จะจัดเยอะมากขึ้น โดยเพิ่มข้าวสารอาหารแห้งเข้าไปด้วย พอไหว้เสร็จ ส่วนใหญ่จะเอาไปแจกจ่ายให้ผู้คนทั่วไป เป็นการทำบุญให้ทานกับคนจำนวนมากๆ
4. ตอนดึก ไหว้เทพไฉ่ซิงเอี้ย เทพเจ้าแห่งโชคลาภเงินทอง ช่วงเวลาประมาณ 23.00 น. ของไหว้มีมากมายหลายอย่าง แต่หนึ่งในนั้นต้องมีผลไม้ 5 อย่างด้วย

ปิดท้ายกันด้วย 'ผลไม้ต้องห้าม' ที่ไม่ควรนำมาเป็นของไหว้ ได้แก่ ผลไม้สีดำและขาว เช่น องุ่นดำ เชอร์รี่สีคล้ำดำ

...

เนื่องจากผลไม้ที่มีสีดำและสีขาวนั้นมีความหมายถึงการไว้ทุกข์ ซึ่งไม่เป็นมงคลในวันปีใหม่จีน อีกทั้งยังมีผลไม้เปลือกสีเขียวต่างๆ เช่น ส้มเปลือกเขียว กล้วยดิบ องุ่นเขียว ลูกแพร์เขียว ฝรั่ง ที่แม้ไม่ใช่ผลไม้ต้องห้าม แต่ก็ไม่ได้มีความหมายในทางที่เป็นสิริมงคล จึงไม่ค่อยเป็นที่นิยมนำมาเป็นของไหว้

...

รู้อย่างนี้แล้ว วันไหว้ปีนี้ก็อย่าลืมเลือกของไหว้ให้ถูกต้องตามหลักด้วยนะ นอกจากจะช่วยเสริมมงคลตามความเชื่อแล้ว การไหว้ให้ถูกหลักก็เป็นหนึ่งในข้อปฏิบัติที่ควรทำเพื่อสืบต่อให้พิธีนี้ยังคงศักดิ์สิทธิ์ต่อไปชั่วลูกหลาน

ขอบคุณภาพบางส่วนจาก dreamatico.com