พูดจาหยาบ ตะโกนด่า ชนิดที่ถ้าเซ็นเซอร์ต้องดูดเสียงแทบจะทั้งรายการ กินเครื่องเซ่น พังศาล แก้ผ้าท้าทายผี ทาสีทับกับสัญลักษณ์ความหลอนของบ้านร้าง กระทั่ง ห่าม ล้อเล่นแรงส์ๆ กับสิ่งที่มองไม่เห็น หรือที่ใครๆ เรียกกันว่าความเชื่อเรื่องผี เรื่องวิญญาณ เส้นบางๆ ที่น้อยคนจะกล้าแตะ ชมคลิป (iScream ep6/1 บุกบ้านร้าง) (iScream ep6/2 บุกบ้านร้าง)
ใช่ ถ้าคุณเคยดูรายการ พวกเขาไม่เพียงแตะ หากย้อนไปดูแต่ละเหตุการณ์ การกระทำที่ว่าในรายการคล้ายขึงพืดรัวหมัด ซัดความเชื่อเรื่องนี้น็อกลงพื้นแบบไม่เหลือชิ้นดี
"ไม่ได้ลบหลู่ พวกเราแค่ไม่เชื่อก็เข้าไปพิสูจน์ และอยากทำรายการผีที่ไม่มีคนทำ" พวกเขาตอบคำถามที่ถูกถามซ้ำๆ ว่าคิดว่ารายการ 'ลบหลู่' ไหม!!
เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศ ในคืนวันปล่อยผี ในยุคที่ใครๆ ก็เคยผ่านวัยทัวร์บ้านผี ไทยรัฐออนไลน์มีโอกาสได้พูดคุยกับทีมงาน iScream รายการที่ออนแอร์ในยูทูบที่แรงและถูกพูดถึงสุดในขณะนี้ คุยกันเพื่อฟังทัศนะมุมมองที่พวกเขา อยากจะสื่อสารกับสังคมกลัวผี (ส่วนคำถามว่าทำมาดิสเครดิตรายการผีชื่อดังหรือเปล่าด้านล่างมีคำตอบ) กับคำอธิบายที่ราวกับทำลายความเชื่อเรื่องผีว่า
"ถ้าผีมีจริงเราทำขนาดนี้ เขาคงจะออกมาให้เราเห็นแล้ว" ไม่ได้บอกให้เชื่อทั้งหมด แต่ไม่ควรปฏิเสธที่จะฟังสิ่งที่พวกเขาคิด!!!
Q : iScream เริ่มต้นรายการห่ามๆ นี้ได้อย่างไร ?
...
ต่อ : มันเร่ิมต้นจากพิธีกรคนหนึ่ง น้ำหวาน ซาซ่า (พิมรา เจริญภักดี) อยากทำรายการในอินเทอร์เน็ต เราก็ถามว่าสนใจเรื่องอะไร เขาบอก 'แฟชั่น' กับ 'เรื่องผี' แฟชั่นตัดไปเลยเพราะเราเป็นผู้ชาย ไม่ถนัด เลยเลือกทำเรื่องผี
โจ๊ก : ซึ่งรายการผีเราก็ถนัด?
ต่อ : ไม่ได้ถนัดเลย (หัวเราะ) บอกตามตรงเราไม่ได้อยู่ในแวดวงผี แต่เป็นครีเอทีฟมีหน้าที่คิด ต้องตีโจทย์ว่ามันจะออกมาหน้าตาเป็นอย่างไร ออกมาแล้วไม่ให้ซ้ำคนอื่น ที่นี้ เราก็มาดูรากเหง้ารายการผีเป็นอย่างไร มีไฟมืดๆ น่ากลัวๆ เห็น เจอๆ เฮ้ยๆ นี่ๆ...เราก็ลองคิดย้อน แม้กระทั่งอารมณ์ที่มันจะน่ากลัว เราก็ทำเป็นตลกซะ รายการผีมืดๆ เราก็ทำให้สว่างซะ เอาไฟสาดเลย ให้เคลียร์ ต้องเห็นจริงๆ ไม่ใช่เห็นแบบมั่วๆ ถ้าจะมาให้เห็นทั้งที ต้องมาให้เต็ม เอาให้ชัดๆ จะได้ไม่เกิดข้อกังขา เทปแรก เทปทดสอบออกครั้งแรกในเดือนกุมภาพันธ์
Q : พิธีกรห่ามๆ ทั้ง 3 คนมาได้อย่างไร
ต่อ : มีคนที่รู้จักแนะนำมา
โจ๊ก : ตอนเขาโทรมาหาผมตกใจมาก เขาบอกว่าสนใจเป็นพิธีกรไหม เราก็ถามว่ารายการอะไร รายการผี เราก็งงเพราะเราตลกโปกฮา รายการผีตลกมันเป็นอย่างไร เขาก็ให้ส่งโปรไฟล์มาให้ดูหน่อย เงียบไป 1 อาทิตย์ แล้วก็ติดต่อกลับมาถ่ายเลย รายการผีตลกมันเป็นแบบไหนวะ เขาบอกไม่รู้ ก็เข้าไปอัดเทปแรกเลย
Q : ถูกใจอะไรเขา ?
ต่อ : เห็นหน้าเห็นบุคลิกก็เลยถูกใจ เทปแรกเราถ่ายแถวซอยนี้เป็นบ้านร้างจริงๆเป็นการทำเทสต์แต่เราไม่ได้บอกพิธีกร เราสร้างประวัติขึ้นมา เทปทดสอบทดลองว่าเป็นไปได้ไหม เอาตลก 3 คน โจ๊ก ต้าร์ น้ำหวาน มาอยู่ด้วยกันเป็นไปได้ไหม อย่างต้าร์เราเลือกจากมีคนแนะนำมาเคยเล่นคาเฟ่ ก็เลยเรียกมาคุย เขาเป็นครีเอทีฟเลยลองเอามาทำดู
Q : เทปแรกเป็นไง ?
ต่อ : บ้านร้างที่เราเซตประวัติความน่ากลัวมาหลอก อยู่ซอยวิภาวดี เราเล่าให้ทั้ง 3 คนฟังว่า เจ้าของบ้านติดพนันบอลแล้วไปฆ่าตัวตายในห้องน้ำ ต้าร์ โจ๊กยังเล่นตลกกันไปเรื่อย ตอนแรกเหมือนยังไม่รู้ว่าทำอย่างไรให้มันสนุก แต่ไอ้คนที่กลัวคือน้ำหวาน เทปแรกผลตอบรับออกมาก็สนุกดี แต่สิ่งที่เราได้รู้ก็คือคาแรกเตอร์ของแต่ละคน นี่ยังไม่เคยบอกใครว่าเทปแรกเซตขึ้นมา นี่ไทยรัฐออนไลน์ที่แรก
Q : เทปต่อไปคือที่ไหน สุสานรถ?
โจ๊ก : ใช่, สุสานรถ พอไปถึงเขาก็บรีฟว่าตอนนี้เราอยู่ในงานมอเตอร์โชว์ จากที่เราเคยเล่นทีเซอร์ไปแล้วเราก็จะดูคอมเมนต์ ฟีดแบ็ก ก็ลองดูเล่นไปเรื่อย หยิบนู่นนี่ เขาบอกว่ารถคันนี้มีเพชรหล่น หาไม่เจอ เจอก็เอาไปได้เลยนะ ก็ไปรื้อดู เพราะที่นี่คือสุสานรถ จะเป็นที่รวบรวมรถที่เกิดอุบัติเหตุ รถแต่ละคันก็มีประวัติ คนแถวนั้นเจอบ้าง เขาก็เล่ากันมามีหลายสตอรี่ รถที่เราเข้าไปเป็นรถบัส เขาเล่ากันว่าเด็กตายครึ่งคัน ก่อนหน้าก็มีรายการหนึ่งเคยไป หลังจากนั้นก็เริ่มแกล้งกัน เข้าไปนั่งก็มีปิดประตูบ้าง นึกมุกอะไรได้ก็ลองเล่นดู ลองขายพี่เขาดู อย่างผมเสนอเลยแบบเป็น Trailer หนัง (ทำเสียงพากย์หนังให้ดู) เขาก็เอา พอทำออกมาคนดูเขาก็ชอบกัน เพราะความมั่วของเรา
...
Q : เดาว่าเทปจริงพวกคุณเจอผี ?
โจ๊ก : เจอหมูป่า (หัวเราะ) ใครไม่รู้ไปบนไว้ ถ้าถูกหวยจะถวายตัวผู้ ตัวเมีย คู่หนึ่ง ตัวเท่าโต๊ะเนี่ย ตอนนี้ที่สุสานรถ กลายเป็นบ้านมันไปแล้ว รวมตัวพ่อแม่มันแล้วมีอยู่ 7-8 ตัว ถ่ายๆ อยู่ผมก็กลัวมันจะกินเราไหมหมูป่า มีเขี้ยว ตัวใหญ่มาก
Q : หรือว่าจริงๆ สิ่งที่เห็นคือผีหมูป่า
โจ๊ก : ผีอะไรตัวใหญ่มาก งืดๆ (ทำเสียงร้องเลียนแบบหมู) หมูอะไรน่ากลัวกว่าหมาอีก พอขึ้นไปบนรถ ครีเอทีฟบอกว่า โจ๊กอยากให้ใช้ภาษาอังกฤษมั่วๆ แบบเมื่อกี้ ผมก็ทำและเลียนแบบหนังเรื่องสปีด เร็วกว่านรก ผมเป็นคีนู รีฟเลย ในนั้นจะมีช็อตที่คีนูโหนรถเมล์ เพื่อจะถ่ายคนไปรถพ่วง
ต่อ: ง่ายๆ ก็คือ รถที่เราไปเล่นมันมีประวัติความน่ากลัว แต่เราไปเล่นตลกบนนั้น หามุกไปเรื่อย
โจ๊ก : บางทีก็ผุดขึ้นมา พูดอังกฤษมั่วไปเรื่อย แล้วเขาก็เปิดเพลงโป๊งชึ่ง นึกถึงเพลงแดนซ์บนรถบัสทันที เพลงมาเรายืนเต้นกันบนรถบัส สรุปวันนั้นไม่เจอเรื่องผีเลย
...
Q : ทำซะแบบนี้เจอก็แปลก
โจ๊ก : อย่างที่ผมบอกเราไปเล่นตลก แล้วก็ให้ความสนุกกับตรงนั้นไป ไม่ได้สนใจประวัติความเป็นมาว่าน่ากลัวอย่างไร
Q : ออนแอร์ ผลตอบรับเป็นอย่างไร ?
ก็ดี แต่เป็นเทปแรก ฐานคนก็ไม่เยอะเท่าไหร่ หลังจากนั้นครั้งที่ 2 ก็ไปบ้านร้าง 3 หลัง แถวนิมิตใหม่ ทางเข้าก็หญ้าเยอะมาก
Q : หลังนี้ประวัติความน่ากลัวเป็นอย่างไร ?
โจ๊ก : เล่ากันว่าเป็นที่มรดกสั่งห้ามซื้อขาย พอเจ้าของที่เสียลูกหลานก็ทำบ้านจัดสรร บ้านตัวอย่าง 4 หลังแต่ทำไม่เสร็จ ด้วยความที่มันร้าง จึงมีแต่เรื่องไม่ดีทั้งข่มขืนทั้งฆ่า คนผ่านไปมาก็ได้ยินเสียงร้อง ซึ่งประวัติน่ากลัวมาก เทปนี้น้ำหวานก็เอาเพื่อนมาร่วมด้วย (จินนี่ ดาราช่อง 3)
ไปครั้งนี้ผมก็เร่ิมทำการบ้านไปเต็มที่ เวลาจะมาทำรายการผมก็จะดูเทปเก่าวนไปมา มีข้อบกพร่องตรงไหน ขาดหายอะไรไป ผมก็เร่ิมกล้าเล่นกับต้าร์ ครั้งนี้ผมไปกินเครื่องเซ่น เป็นข้าวเกรียบรวยเพื่อน จะได้มีเพื่อนเยอะๆ ก็นั่งกิน ก็ทำพิธีจุดธูปเหมือนกับถวายของเซ่นไหว้ เคาะๆ ตะเกียบ ชวนผีกิน วิญญาณที่สิงสถิต ณ ที่แห่งนี้ สัมภเวสี เจ้าที่ มาตรงนี้กินข้าวเกรียบรวยเพื่อนกัน ตอนนี้เป็นตอนที่ล้อเลียนรายการผีรายการหนึ่ง ผมก็เสนอว่าถ้าล้อเลียนมันต้องมีเสียงพากย์ ผมก็พากย์เลียนแบบรายการผีเลย “ไม่แน่ว่าคงมีพลังงานอะไรบางอย่างซ่อนอยู่ ก็เป็นได้” พี่ต่อก็โอเค ที่นี่พอผมอยากพูดอะไร ผมจะเดินเข้ากล้องเลย 'คุณผู้ชมครับ เมื่อสักครู่นี้' มันจะแปลกตรงที่ว่ารายการผีเราไม่เคยเห็นหน้าคนพากย์เลย แต่นี่พิธีกรอยากจะพากย์ก็พากย์ เห็นหน้าด้วย เดินเข้ากล้องด้วย อย่างอื่นเขาจะสโลว์ภาพ นี่พูดและเข้ากล้องกันดื้อๆ
ตอนท้ายๆ มีการสรุปว่า ที่ตรงนี้ ไม่ได้ต้องการรถให้มันเพิ่มขึ้น อยากให้รถมันลดทุกวันๆ ยิ่งลดไปก็ดีเพราะว่าที่จอดไม่มีแล้วครับ เป็นการพูดจริงจังนะ
...
ต่อ : ผมเห็นแล้วก็ชอบ เพราะเป็นการสรุปเพื่อเตือนสติคน ไม่ใช่ตลกโปกฮาอย่างเดียว อย่างเรื่องผี ไม่ใช่แค่มีแต่ผีอย่างเดียวมันจะมีสิ่งไม่ดีเกิดขึ้นมาด้วย ความชั่วร้ายของมนุษย์ไม่ว่าจะเป็นการปล้นฆ่าคนโน่นนี่ แล้วมันมาพร้อมกับเรื่องผี ซึ่งถ้ามองดีๆ มันมีคติสอนใจถ้าคุณไม่อยากตายแล้วก็ไป วังวนเรื่องชั่วร้ายแบบนี้ คุณมีชีวิตก็ทำให้มันดี เราก็ได้ไอเดียจากคุณโจ๊ก หลังจากนั้นก็มีการปิดท้ายในทุกๆ เทป
โจ๊ก : อย่างเทปที่ 2 ข่มขืนแล้วฆ่า ก็พูดหล่อเลยว่า สุภาพสตรีให้กำเนิดวีรบุรุษ เราเป็นวีรบุรุษเราไม่ควรไปทำร้ายสุภาพสตรี เราก็พูดหล่อๆ ขัดกับหน้าตาเลย เทปที่ 2 ผลการตอบรับดี ยอดวิวเพิ่มขึ้น เริ่มมีคนตาม ชาวเน็ตก็เริ่มแชร์ เฮ้ย ไปดูรายการผีบ้าๆ บอๆ 2 เทปแรกคนยังไม่กล้าดู ยังกลัวที่เป็นชื่อผีอยู่ พอเทปหลังจากนี้คนก็เริ่มกล้าดูกันมากขึ้น
Q : เทปที่ 3 ไปไหน ?
โจ๊ก : ไปโรงพยาบาลร้าง ย่านบางเลน เป็น รพ.เด็ก ประวัติเล่ากันว่าที่นี่เคยเป็นสถานที่ทำแท้ง เทปนี้เราเริ่มสร้างสตอรี่ขึ้นมา มีแขกรับเชิญคือพี่เอ ศุภชลาศัย เข้ามาผูกเรื่องถ้าอยากได้น้ำหวาน ต้องกล้า เอ ศุภชลาศัยก็จะโดนแกล้งมีให้ไปขุดหาศพเด็ก ขุดจริงๆ ที่เขาว่ากันว่าเป็นป่าช้า ขณะขุดผมก็ดึงกางเกง พี่เขาก็ดึงขึ้นพร้อมพูดว่า “มึงเอามา มึงให้เกียรติกันบ้าง” แล้วก็มีน้ำมันไฟแช็กมาเผากางเกงไหม้เป็นไฟเลย รายการเราเผาตลอดเวลา แล้วตรงนั้นมีโลชั่นเด็กวางไว้ เก่ามาก พลาสติกเร่ิมกรอบแล้ว เราก็บีบใส่หน้าโจ๊ก สรุปคือออกมาจริงๆ แล้วเหม็นมาก พี่เอก็เอามาทาหน้าผม คิดดูว่าถ่ายอีก 3 ชั่วโมง ไม่มีน้ำล้าง เป็นเทปที่เริ่มลงตัว
Q : เจอผี หรือ ความน่ากลัว ไหม ?
ต่อ: ผีไม่เจอครับ ผมไปอยู่คนเดียวในห้องพิเศษชั้น 3 แล้วเขาให้ถอดเสื้อผ้าโยนออกมาจนไม่เหลืออะไร โป๊ทั้งตัว จริงๆ การที่เราจะทำอะไรทุกอย่างที่ทำจะมีสตอรี่มีบทที่เขียนไว้ ตอนนี้เหมือนผูกเอาไว้ว่าชั้นนี้มีผู้หญิงที่ถูกข่มขืนมาก็แก้ผ้าดูซิว่าผีจะโกรธหรือเปล่า แต่ก็ไม่เคยเจอผี
Q : เทปต่อมาไปไหน
ต่อ : เป็นโรงแรมร้างกลางกรุง วงเวียน 22 ในนั้นก็มีเรื่องราวที่เล่าต่อกันมากว่าน่ากลัวมากมาย มันคือโรงแรมร้าง แล้วมีจดหมายเขียนเรื่องราวว่าให้ยืมเงินคนนั้นคนนี้ มันคือซ่องสมัยก่อน แล้วก่อนหน้าคนก็ไปเจอจดหมาย ถามว่ากลัวไหม (พิธีกร 3 ตากล้อง ทีมงาน 3 คน) เราเข้าไปประมาณเที่ยงคืน แขกรับเชิญก็คือพี่เอ ศุภชลาศัยเช่นเคย ซึ่งเราผูกเรื่องไว้ว่าเขาจะมาจีบน้ำหวานไปสังกัด แล้วต้องไปอ่านจดหมาย ซึ่งหดหู่มาก เราอ่านจดหมายฉบับนั้นจริงๆ แต่เราใช้ชื่อพิธีกร 3 คน เช่น ตอนนี้พี่เอยืมเงินไปแล้วไม่ได้คืนซะที แม่ก็ยังป่วยอยู่นะ ฝากบอกพี่เอด้วยนะ ก็เล่นแบบนั้น ก็มีรูปตกอยู่ในนั้นมากมาย เราก็จะเอารูปใส่กระเป๋าที่พี่เอถือ ถามว่าไม่กลัวเหรอ ที่นี่มันแคบร้อน ถ้ามันน่ากลัวมันจะมืดมาก และก็ไม่รู้ว่าใครเอาเสียงแมวไปโยงกับผี เพราะมันมีเสียวแมวร้อง กัดกันตลอด
ต่อ : ที่นี่จะมีสตอรี่ที่น่ากลัวเป็นเรื่องราวของรายการผีที่ไปก่อนหน้านี้ คือ คนดูแลที่นี่เขาขึ้นไปตรวจ ชั้นที่เราถ่ายประมาณชั้น 4 แล้วลงมาไม่ได้ เลยคิดว่าผีบังตา เขาก็ไหว้อะไรสักอย่าง แล้วก็ลงมาได้ เราก็เอาพิธีกรท้าทาย คือเดินคนเดียวชั้นนั้น ให้พิธีกรท้าทาย ซึ่งถือว่าเป็นเทปที่ประสบความสำเร็จ
โจ๊ก : รู้สึกอย่างไรน่ะเหรอ ผมรู้สึกเสียวๆ หลัง สิ่งที่เสียวที่สุดคือทีมงานแกล้ง เพราะมีไฟอยู่ดวงเดียว สตอรี่คือกำหนดว่าต้องโดนผีบังตานะ ต้องหาทางลงไม่เจอ คนที่โดนก็คือพี่เอ ศุภชลาศัย วิ่งเพราะหาทางลงไม่เจอ วิ่งจนน้ำตาเล็ด แต่ก็มีทีมงานแอบไว้ตรงบันไดกันตก ผลตอบรับเทปนั้นคนดูชอบมากๆ แฟนๆ เพิ่มทวีคูณ เริ่มมาขึ้นเรื่อยๆ
Q : เทปที่คุณแจ้งเกิดเทปไหน บ้านที่รังสิตที่โดนรายการผีอีกช่องด่า?
ต่อ : มันมีดราม่าขึ้น แล้วเพจดังก็เอาไปเขียน ประวัติบ้านหลังนี้เล่ากันว่าคนงานตกลงมาตาย ด้วยที่พิษเศรษฐกิจจึงสร้างบ้านไม่เสร็จ บ้านจึงร้างคนและมีคนผูกคอตายประมาณ 3-4 ศพ เราก็เลยคุยกันด้วยธีมว่าจะไปปิดตำนานบ้านหลังนี้ ด้วยการทาสีเขียวทับสีแดง โดยเขียนสตอรี่เอาไว้ว่าจะต้องเล่นยังไง แต่ละห้อง แต่ละมุก แต่หัวใจของการมาครั้งนี้ก็คือเราจะลองทาสีทับ ที่เราทำมันสีแดงเรื่องของเลือด เรื่องที่น่ากลัวคนมันก็ตีความไปเรื่องความน่ากลัวเราก็คิดว่าจะเอาสีเย็นเข้าไปทาให้มันซอฟต์ลง อยู่กับธรรมชาติ
โจ๊ก : ให้มันออร์แกนิกนิดหนึ่ง เราก็เข้าไปก็ไปไหว้ศาลก่อน ซึ่งพวกเราจะไหว้ศาลไม่เหมือนคนอื่น ขอให้เจอผี สัมภเวสี เจ้าที่ คุณที่อยู่แถวนี้ออกมาให้เห็นด้วยเถิด เราอยากเจอ อยากเห็น อยากสัมผัส ให้ตามกลับบ้านพี่เอไปด้วยเพราะเขาเป็นคนขี้เหงา หลังเล่นไปเรื่อยๆ แล้วก็ทาสีเขียวทับ เสร็จก็กลับบ้าน
ต่อ : แล้วดราม่าก็เกิดขึ้นมันเกิดจากรายการหนึ่งตั้งใจจะไปถ่ายบ้านหลังนี้ แต่เข้าไปปุ๊บบันไดเป็นสีเขียวไปแล้ว เขาก็เลยด่าผ่านรายการเขา เพจดังก็เลยนำไปโพสต์ เราก็ไม่ได้ตอบโต้อะไร แต่แฟนๆ จะไปเขียนแทน ซึ่งเราอ่านแล้วมันเป็นตรรกะที่มันใช่กว่า
โจ๊ก : ซึ่งผมก็มองว่ามันก็เป็นอีกมุม รายการผีก็เป็นรายการบันเทิง แต่นี่คือรายการผีแนวใหม่ ที่ประเทศไทยยังไม่มี ผีก็ตลกได้นี่หว่า บ้านผีปอบมันก็น่ากลัว แต่มันก็ตลก บุปผาราตรีมันก็น่ากลัว แต่ก็มีผี แล้วจะผิดอะไรถ้ารายการเราจะมีผีแล้วแต่มันก็ตลกด้วย
Q : กรณีที่เขาด่าคุณว่าไปทาสีบันไดเขาทำไม อยากจะอธิบายว่าอะไร
ต่อ : ถ้าคนเชื่อเขาจะคิดว่าเราลบหลู่ มันเล่นกันขนาดนี้ ถ้าคนไม่เชื่ออยากจะคิดต่าง เขาก็มองเราว่า เราไปทำการพิสูจน์อะไรบางอย่าง แต่ก็ไม่ได้เป็นวิทยาศาสตร์ซะทีเดียว เพราะเราไม่ได้ฉลาดขนาดนั้น เราเข้าไปแบบคนโง่ๆ
โจ๊ก :มันก็คือวิธีการพิสูจน์ผีอีกวิธีหนึ่ง แต่ละอย่าง แต่ละวิธี เราก็พิสูจน์ตั้งแต่เบาจนแรง มันก็ยังไม่เคยเจอ
ต่อ : แต่จากเทปนี้คนก็เร่ิมรู้จักเรามาก แจ้งเกิด และทำให้คนเห็นในด้านตรงกันข้ามจากที่เคยเห็นรายการผีรูปแบบเดียว และไม่มีใครตั้งคำถามว่ามันมีอีกมุมหนึ่ง
Q : ตลอดกว่า 3 ปีที่ทำรายการผีห่ามๆ มา ถามตรงๆ คุณคิดว่าผีมีจริงไหม ?
โจ๊ก : ผมไม่รู้หรอกว่ามีจริงหรือไม่มีจริง เพราะว่าถ้าเป็นเชื่อแบบไทยคือเขาอยู่คนละมิติ ซึ่งมิติของเราจะทำอะไรก็ได้ กินอะไร นั่งรถไปไหน ไปเที่ยวได้หมด แต่มิตินั้นมีจริงหรือเปล่าผมไม่รู้ ต้องเผาเสื้อผ้าไปให้ ผมรู้สึกว่าอีกมิติเมืองผีอาจจะเงินเฟ้อก็ได้ ผมเห็นจากกงเต๊กใบที่เผาไปให้ถูกสุดก็หลายร้อยล้านแล้ว รถเมล์เจ็ดพันล้าน ข้าวเป็นหมื่นล้าน ผมว่ามันอาจจะมีหรือไม่มีแต่ส่วนตัวก็สรุปไม่ได้อยู่ดี เพราะไม่เคยเจอ
ต่อ : ถ้าจะให้เล่าเรื่องผีที่ผมเคยเจอ ก็มีเรื่องหนึ่ง คือนอนอยู่คนเดียว ผ้าห่มมันหล่นลงเอง เราก็หลับแต่เรารู้สึกกึ่งหลับกึ่งตื่น ก็คิดในใจว่าขออีกทีให้แน่ใจว่าเป็นผีจริง มันก็ยังเล่นๆ ไปอีกเหมือนเดิม แล้วผมก็หลับไป ตื่นมาก็ยังงงว่าเกิดอะไรขึ้นตกลงหลับหรือตื่น วันนี้ก็ยังไม่แน่ใจว่าเป็นผีแต่มันเป็นเรื่องแปลกๆ
Q : สรุปรายการนี้ไม่ได้บอกว่าผีไม่มีจริง?
ต่อ : รายการนี้ไม่ได้บอกว่าผีไม่มีจริง มันอาจจะมีก็ได้เราไม่รู้ แต่เรากำลังจะบอกว่าเราก็ไม่ต้องไปกลัวมัน เพราะเราอยู่ในสถานะที่ดีกว่า ทำอะไรได้มากกว่า
โจ๊ก : ผมมองว่าความสำเร็จของรายการ ณ วันนี้คือทำให้วัยรุ่นเลิกกลัวผีเพราะว่า การกลัวผี มันเดือดร้อนคนอื่น อย่างเช่น จะเข้าบ้านดึกๆ ไม่กล้าเข้า ต้องโทรหาพ่อแม่มารับ ท่านก็หลับไปแล้ว หรือไปทำงานต่างจังหวัดก็ไม่กล้าไปเพราะกลัวผี ต้องนอนโรงแรมคนเดียวก็ไม่กล้า ซึ่งการกลัวผีมันทำให้เดือดร้อนคนอื่นเหมือนกัน ถ้าเราเลิกกลัวผีซะ เราสามารถทำอย่างอื่นได้ คนอื่นถามเราว่าทำรายการ “iScream” แล้ว ไม่กลัวผีหรอวะ ก็ตอบไปว่าไม่มีกินน่ากลัวกว่าเยอะ มัวแต่กลัวผีจะเอาข้าวที่ไหนกินวะ
ต่อ : ฟีดแบ็กที่กลับมาผมดีใจมาก เช่น บอกว่าผมดูรายการพี่ ผมเลิกกลัวผีเลย เราถือว่าประสบความสำเร็จนะ เราสามารถเปลี่ยนคนให้คิดในทางที่ดีขึ้น
Q : แต่อีกมุมหนึ่งคนก็บอกว่าสิ่งที่พวกคุณทำลบหลู่ ลบหลู่หรือเปล่า ?
ต่อ : ถ้าคนที่เชื่อก็บอกว่าลบหลู่ แต่ถ้าคนที่ไม่เชื่อเขาเรียกสิ่งที่เราทำว่าพิสูจน์ ซึ่งสิ่งที่เราทำอยู่พูดตรงๆ ถ้าเราไปทำบ้านคุณโกรธไหม โกรธแน่นอน พอไปทำบ้านร้าง บ้านผี ผีก็น่าจะโกรธ แต่ทำไมเราไม่เจอผี
โจ๊ก : เราก็คิดอีกมุมว่าเขาอาจจะชอบก็ได้ มีคนมาเล่นตลกให้ดู ผีจะได้ไม่เหงา วันนี้ปกตินั่งอยู่บนขื่อบ้านใส่แต่เสื้อไม่กี่สี
Q : คุณเชื่อแบบนั้น
ต่อ : ก็คิดว่าไม่ได้ลบหลู่ เพราะถ้าลบหลู่เขาคงออกมาแล้ว ใช้คำว่าพิสูจน์ดีกว่า เราไม่อยากใช้คำว่าลบหลู่เพราะว่ามันอันตราย เพราะคนที่เชื่อก็มี เราไม่ทำร้ายความเชื่อของคนเหล่านั้น
โจ๊ก : จริงๆ ก่อนหน้าที่เราจะทำอะไร เราพยายามคิดหน้าคิดหลังว่าถ้าเราเล่นไปจะเดือดร้อนกับคนที่มีชีวิตอยู่ไหม แต่ว่าที่บ้านร้างเราไม่รู้ เป็นเรื่องเล่าที่เล่ากันมา แต่อย่างที่ไปสุสานศพไร้ญาติ อันนั้นเราจะไม่เล่นของเซ่นไหว้ ของพวกเขาเลย อย่างมันมีรายการที่วิ่งบนหลุมศพ พวกเขาเล่น แต่เราไม่ทำ
Q : รายการ iScream มีกฎอะไรห้ามบ้างไหม ?
ต่อ : เราจะไม่ล้ำเส้น จะคิดหน้าคิดหลังเยอะมากว่าจะเล่นดีหรือเปล่า เล่นไปแล้วจะเกิดอะไรขึ้น เราก็คิดว่าถ้ามีคนมาเล่นกับญาติพี่น้องที่ตายเราก็ไม่ชอบ เราก็จะไม่ทำแบบนั้น
Q : ทาสีบ้านร้าง ล้ำเส้นไหม ?
ต่อ : ไม่นะ ถ้าเป็นเลือดคนตายเราไปทาทับ ผมคิดว่าลบหลู่ แต่นี่คือสีแดงที่ทำย้อยๆ เป็นรูปเลือด
โจ๊ก : ลองคิดว่าถ้ามีบ้านคุณร้างๆ แล้วสมมติมีบ้านร้าง คนก็ไปถ่าย ไปเที่ยว แล้วเราไปทำให้มันดูดีขึ้น คนจะได้ไม่กลัว ขายได้ก็ขาย คนที่ขายบ้านคุณคิดว่าเขาจะแฮปปี้แบบไหน
Q : กินเหล้า ท้าทายสิ่งที่มองไม่เห็น เจ้าที่เจ้าทางในบ้านร้างที่มีประวัติคุณคิดว่าปกติ ไม่ได้ลบหลู่ ?
โจ๊ก : จริงๆ บ้านร้างแถวสนามบินน้ำ ประวัติคือ มีลุงติดเหล้าขาวแล้วเสียชีวิต ผมก็คิดว่าถ้าคนติดเหล้าขาวได้กลิ่นก็น่าจะออกมา พิธีกรรมผมคิดแบบโง่ๆ ผมอยากเจอผีติดเหล้า ผมเลยราดเต็มเลยชวนเขามากิน แต่ก็ไม่มีอะไรออกมา ผมเรียกว่าพิสูจน์ไม่ได้เรียกว่าลบหลู่ แต่เขาก็ไม่มา
Q : เต้นบนรถทัวร์ในสุสานรถที่มีวิญญาณคนตายทุกข์ทรมานมากมาย ลบหลู่ไหม ?
โจ๊ก : เป็นการแสดงตลกให้ผีดู ผีอาจจะชอบก็ได้ คนเรายังชอบไม่เหมือนกันเลย ผีก็อาจจะชอบตลก
Q : ทำรายการมา 3 ปี ไม่มีใครดวงซวย จากการลบหลู่ ไม่มีใครมีอันเป็นไป หรือได้รับผลกระทบกับสิ่งที่มองไม่เห็นเลยใช่ไหม?
ต่อ : ผมว่างานเยอะขึ้นด้วยซ้ำ
โจ๊ก : ทุกวันนี้ก็มีตังค์มากขึ้น จากไม่มีเงินโหนรถเมล์ ขึ้นมอเตอร์ไซค์ ทุกวันนี้มีรถขับ ความเป็นอยู่ก็ดีขึ้นนะ งานก็เยอะขึ้น
Q : เทปที่กลัวที่สุด
โจ๊ก : สุสานศพไร้ญาติ เป็นหลุมศพหลายร้อยหลายพันไร่ เดินไปยังส่งกลิ่นเหม็นอยู่ บางหลุมก็ปิดไม่สนิท มองไปก็ตกใจ เรากลัวจะเห็นอะไรแบบที่เราไม่อยากเห็น
ต่อ : ปกติเราจะเล่นกับของ และสิ่งที่มีอยู่ แต่ที่นี่เราจับต้องอะไรไม่ได้
Q : เทปโกดังเก็บศพ เป็นการแกล้งที่แรงที่สุด ?
โจ๊ก : เป็นการแกล้งที่แรงที่สุด แกล้งกันจนสติแตก เรื่องมันมีอยู่ว่าเราให้ทีมงานปลอมตัวเป็นศพไปอยู่ตู้คอนเทนเนอร์ที่ไว้เก็บศพจริงใช้งานล่าสุดคือน้ำท่วมกรุงเทพฯ ก่อนหน้านั้นเคยไว้เก็บศพสึนามิ ประวัติเขาบอกแบบนั้น แต่หลังจากนั้นก็เอามาตั้งไว้ที่นี่ พอเข้าไปเราก็ไม่ได้บอกพี่เอ แต่เตี๊ยมกับมูลนิธิว่าจะแกล้ง
จริงๆ วันนั้นทุกอย่างก็เป็นใจ เพราะมีรถมูลนิธิมาจอดตอนเย็นๆ พอพี่เอหันไปเจอก็ตกใจ ทีมงานก็ได้ยินไปคุยกับเขา เราก็ไปเตี๊ยมว่าให้เล่าให้พี่เอฟังว่าเอาศพมาไว้ ซึ่งความจริงเขามาดูสถานที่เฉยๆ พอเราจะไปถ่าย ป้ามูลนิธิฯ ก็เดินมาแอ็กติ้งว่าจะถ่ายจริงๆ เหรอ เขาเพิ่งเอาศพมาไว้น่ากลัวนะ พอไปถึงตู้คอนเทนเนอร์พี่เอก็กลัวไม่กล้าเปิด เพราะเทปอื่นๆ ไม่มีศพ เราก็บอกว่ากลัวอะไรวะ ถ่ายมาตั้งกี่เทป พอพี่เอเปิดเข้าไปมีศพจริงๆ หน้าถอดสี หลังจากนั้นเราก็บอกว่าสปอนเซอร์อยากให้พี่เอเข้าไปในโกดังที่มีศพ ยืนทำใจนานมาก พอศพเด้งขึ้น เราก็ปิดขังอยู่นานมาก เขาก็โวยวายๆ ร้องเสียงหลง พอเปิดมาพี่เอก็สติแตกวิ่งหนีตาย พี่ต่อก็เข้าไปปลอบใจเย็นๆ และขอโทษ แต่สุดท้ายก็ไม่โกรธอะไร
Q : เลือกโลเกชั่นผีเลือกจากอะไร มีคนบอกว่าคุณเลือกตามรายการผีชื่อดัง เจตนาล้อเลียนว่าผีไม่มีจริงแบบที่เขากลัวกัน ?
โจ๊ก : มันก็ไม่เชิง เพราะบ้านผีมีไม่เยอะ เราไม่ได้เจตนาบลั๊ฟเขา เขาก็เป็นรายการบันเทิง เราก็เป็นแต่ทำในอีกมุมหนึ่ง
ต่อ : ถ้าผมจะทำเทปต่อไป ผมจะต้องหาที่ไหน ผมก็ต้องย้อนไปดูเขา
Q : แต่เราก็ไปเพื่อทำลายความเชื่อเรื่องผีที่รายการเขาสร้างมาแรมปี
ต่อ : เอาอย่างที่บ้านผีทำง่ายนิดเดียว แค่มีที่ร้างแล้วก็บอกว่าทำโน่นนี่แล้วบอกว่าเป็นบ้านผี แวบหนึ่งที่ผมคิดว่าเราหาบ้านผีไม่ได้ แต่เราอยากจะทำรายการผีต่อไป ผมก็คิดว่ามันง่ายนิดเดียวอย่างที่บอก เราไปหาแค่บ้านร้างแค่สร้างสตอรี่ เพราะมันไม่มีอะไรอ้างอิงได้
โจ๊ก : ส่วนใหญ่บ้านผีมันมีในอินเทอร์เน็ต ถ้าเป็นรายการใหญ่ๆ หน่อยเขาก็ไปเช็กกับตำรวจ ซึ่งเวลาเราไปบ้านผี เราก็ตามจากสื่อต่างๆ เราไม่ได้ตู่ เพราะคนอื่นเขาไป
Q : คุณทำรายการที่คนมองว่าลบหลู่ สำหรับรายการผีอื่นๆ ดูแล้วน่ากลัวไหม มันมีผีโผล่มาจริงๆ แบบที่เขาบอกหรือเปล่า ?
ต่อ : รายการเก่าๆ ก็ดูมาเพื่อจะทำรายการ เขาก็ปล่อยคนเข้าไปก็คงฟีลของเขา ผมจะดูแขกรับเชิญมากกว่าแบบว่ามีมุมมองเกี่ยวกับผียังไง แต่ละคนมันไม่เท่ากัน
โจ๊ก : เขาก็ปล่อยคนไปก็เป็นฟีลของเขา แต่ผมจะดูแขกรับเชิญมากกว่า เอ้ยไอ้คนนี่มันมีมุมมองเกี่ยวกับผียังไงวะ บางคนก็มากเกินไป บางคนก็น้อยเกินไป
Q : พวกคุณนับถือศาสนาอะไร ไหว้พระ ทำบุญไหม?
โจ๊ก : ทำทุกอย่างเป็นปกติ เรานับถือพุทธ ไหว้พระครับ มีเทปนึงพูดติดตลกว่าเข้ามาเหอะผมกล้า ผมไม่มีศาสนา คนกลับเชื่อจริง แต่จริงๆ แล้วเป็นคนมีศาสนาทุกคนครับ อย่างที่ผมบอกผมเชื่อว่าผีมีนะ แค่รายการผมอยากจะสื่อว่าอย่าไปกลัวแค่นั้นเอง
ต่อ : ผมเชื่อว่ามีผี แต่อย่าไปกลัว
Q : ตอนนี้คุณหยุดทำรายการ iScream แล้ว ?
ต่อ : ยังไม่หยุด แค่พักเฉยๆ พักมา 7-8 เดือน ใครจ้างก็ทำ ขอแค่อย่าเปลี่ยนอะไรเรามาก กลัวแฟนคลับตั้งตัวไม่ทัน
Q : อนาคตหลังจากนี้ iScream ถ้ากลับมาจะเป็นอย่างไร?
ต่อ : อยากให้ฮาร์ดคอร์กว่านี้ เพราะมันต้องเพิ่มขึ้นไม่ใช่ย่ำอยู่กับที่ แต่ให้อยู่จารีตของคนไทย
Q : ตอนนี้ก็ยังถือว่าอยู่
ต่อ : ไม่ได้นอกกรอบซะเลยทีเดียว ปัจจุบันยุคโซเชียลมันเยอะ มันโกหกกันไม่ได้ ถ้าเราทำสิ่งที่โกหกคนก็รับไม่ได้ เขาก็พร้อมจะเอาผิดย้อนหลังได้ทุกเมื่อ
Q : ยืนยันได้ไหม ว่าบ้านร้างที่ไป มีประวัติความน่ากลัวจริงๆ ?
ต่อ : เป็นประวัติที่เขาพูดกัน ก่อนเราไปคนหาโลเกชั่นจะสืบก่อนใครเป็นเจ้าของบ้าน หรือคนดูแล พูดตรงๆ คนหาโลเกชั่นก็อยู่ในวงการทำเรื่องผีๆ เหมือนกับที่รายการผีเขาใช้จริงๆ
Q : ทำไมพิธีกรในรายการต้องพูดหยาบคาย ?
โจ๊ก : อยากทำในสิ่งที่ฟรีทีวีไม่มี เช่น การพูดหยาบ เราไม่ได้เสี้ยมเด็ก เด็กมันได้ยินหมด เราก็จะไม่พูดคำที่รุนแรงมาก เช่น อวัยวะต่างๆ เกี่ยวกับเรื่องเพศเราจะเลี่ยง แต่เนื่องจากพิธีกรเราเป็นเพื่อนกัน ก็ถ่ายทอดกันแบบเพื่อนแบบมึงมาพาโวยแบบที่เราคุยๆ กันจริงๆ ด่ากัน อำกัน หยาบคายบ้าง แต่พอถึงเวลาเราพูดกับผู้ชม พูดกับกล้องไพเราะ
Q : ขอให้เจอผีหักคอจริงๆ สักวันหนึ่ง
โจ๊ก /ต่อ : (หัวเราะดัง) ขอบคุณครับ
**ล้อมกรอบ**
1. นายอรรถวุฒิ อินทอง หรือ โจ๊ก iScream การศึกษา จบจาก มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา เอกดนตรีคลาสสิก ก่อนหน้าเคยเป็นครูสอนเด็กระดับชั้นอนุบาล ประถม มัธยม แต่ชอบความบังเทิง จึงอยากสร้างความบันเทิงให้คนทั้งประเทศ ที่สุดก็ได้ทำงานกับบริษัทใหญ่ชวนไปทำครีเอทีฟ ปัจจุบันลาออก และพลิกผันออกมาเป็นพิธีกรฟรีแลนซ์
ช่องทางติดต่อ เฟซบุ๊ก : โจ๊ก iScream
2.ต่อ ครีเอทีฟ จบจากมหาวิทยาลัยรังสิต ฝีมือดีมีประสบการณ์ในวงการโฆษณาและวงการทีวีมากกว่า 15 ปี ปัจจุบันทำงานอยู่ ที่ ihere TV
3. ติดต่อพวกเขาได้ที่ www.youtube.com/iheredottv www.facebook.com/ihereiscream หรือติดต่องานต่างๆ ได้ที่อีเมล์ ng.iheretv.asia@gmail.com
4.ปัจจุบันรายการ iScream หยุดผลิตไปกว่า 7 เดือนแล้ว แต่มีข่าวดีว่าอีกไม่นานพวกเขาจะกลับมา