เรื่องกำลังฮอตกรณีเหตุการณ์ทำร้ายร่างกายผู้หญิงที่หราบนหน้าสื่อ ไทยรัฐออนไลน์ย้อนบทความที่เคยสัมภาษณ์ให้ดูอีกทีว่า แท้จริงแล้วคนที่มีพฤติกรรมแบบนี้ เป็นโรคจิตหรือไม่อย่างไร??

ระยะหลังภาพความรุนแรงที่ผู้ชายทำร้ายผู้หญิงเกิดขึ้นมากมายบนหน้าสื่อ กลายเป็นสิ่งที่หลายคนตั้งคำถามทำไมเกิดขึ้น การที่เพศที่แข็งแรงทำร้ายเพศที่อ่อนแอมาจากปัจจัยอะไร เป็นความรุนแรงที่เป็นโรคหรือไม่ ไทยรัฐออนไลน์พาไปหาคำตอบ

เรื่องนี้ ดร.วัลลภ ปิยะมโนธรรม นักจิตวิเคราะห์ชื่อดัง และที่ปรึกษาโครงการศูนย์ให้คำปรึกษาและพัฒนาศักยภาพมนุษย์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ กล่าวผ่านไทยรัฐออนไลน์กรณีผู้ชายชอบซ้อมผู้หญิงที่เกิดมากขึ้นในปัจจุบันว่า ทางด้านจิตวิเคราะห์สามารถแบ่งได้ทั้งกลุ่มที่มีความ 'ผิดปกติ' และกลุ่มที่ 'ไม่ผิดปกติ'

"ถ้าการทำร้ายแบบผิดปกติ เราเรียกกันว่าพวก 'ซาดิสม์' (Sadism) เป็นกลุ่มที่ทำร้ายคนอื่นแบบไม่ต้องมีเหตุผล ทำแล้วตัวเองมีความสุขที่ได้เห็นคนอื่นเจ็บปวด ทรมาน ซึ่งแบ่งได้เป็น 3 ประเภทด้วยกัน 1. มีความสุขในการทำร้ายร่างกายผู้อื่น 2. ทำให้อีกฝ่ายปวดช้ำทางจิตใจ 3. เรื่องสังคมหรือการประจานให้คนอื่นรู้ ส่วนกลุ่มที่มีความปกติทางจิตใจ การทำร้ายร่างกายนั้น มาจากปัจจัยด้านอารมณ์ร้อนของฝ่ายชาย เนื่องจากเห็นอีกฝ่ายไปมีสัมพันธ์กับผู้อื่น หรือไปกุ๊กกิ๊กกับคนอื่น ซึ่งเรื่องนี้สังคมไทยปลูกฝังกันมาผิดๆ ว่า ฆ่าได้หยามไม่ได้, ถูกสวมเขา, นอกจากนี้ ปัจจัยที่ทำให้ผู้ชายซ้อมผู้หญิง ก็ยังมาจากการดื่มเหล้า หรือผิดหวังจากเรื่องเพศ คาดหวังในแบบที่คนอื่นทำไม่ได้ หรือเป็นไม่ได้ เช่น ให้แฟนโชว์โป๊ หรือให้ทำท่ากามวิตถาร พอฝ่ายหญิงไม่ตอบสนอง หรือไม่ยอมทำ ก็โมโหแล้วใช้ความรุนแรง ควบคุมตัวเองไม่อยู่"

...

นักจิตวิเคราะห์ผู้นี้ บอกอีกว่า ทั่วโลกผู้ชายที่ใช้ความรุนแรงมี 3 ประเภท 1. อารมณ์ร้อน 2. ซาดิสต์ 3. ชอบกินเหล้า หลายประเทศในโลก จึงลงโทษกับคนประเภทนี้แรงมาก แต่เมืองไทยปรับก็ไม่กี่บาท หรือติดคุกก็อยู่ไม่นาน หรือถ้าไม่มีประวัติก็รอลงอาญาทำให้คนไม่หลาบจำ แตกต่างจากต่างประเทศที่เรื่องการทำร้ายผู้หญิงเป็นเรื่องใหญ่มากๆ โทษหนักมาก เพราะเขาถือว่าผู้หญิงเป็นเพศที่บอบบาง

เมื่อถามถึงวิธีการสังเกตคนที่ชอบทำร้ายผู้หญิง นักจิตวิเคราะห์ผู้นี้บอกว่า คนกลุ่มนี้ส่วนใหญ่จะติ๋มๆ เงียบๆ ดูภายนอกเหมือนจะไม่มีอะไร แต่คนลักษณะแบบนี้จะเก็บกด เวลารักผู้หญิงหรือหวง จะหวงแรงมาก แตกต่างจากคนที่ชอบพูดมาก ซึ่งคนประเภทพูดมากเสียงดังชอบแสดงออก ไม่ค่อยทำความรุนแรงเท่า

"คนที่มีลักษณะการใช้ความรุนแรง เตือนไว้ให้ผู้หญิงหลีกส่วนใหญ่มองไม่ออก แต่ให้จำไว้เสมอว่ากลุ่มนี้จะเป็นพวกที่ชอบความรุนแรง มักจะแยกตัวอยู่ตามลำพัง บุคลิกภาพแปรปรวน ไม่ไว้วางใจคน คนกลุ่มนี้จะน่ากลัวมากกว่าพวกที่ออกเสียงดัง เนื่องจากมันระบายก่อนระเบิดแล้ว เงียบๆ เก็บกด ทำเป็นอายๆ ร้ายกาจมาก เวลาออกอาการฟิวส์ขาดทำร้ายร่างกายได้หมด"

นักจิตวิเคราะห์แนะนำวิธีแก้ไขคนกลุ่มที่มีอาการแบบนี้ว่า สามารถทำได้ แต่ส่วนใหญ่ไม่ยอมแก้ไข  

"วิธีแก้ไขก็ต้องเอานักวิเคราะห์จิตมาวิเคราะห์สภาพดังกล่าว หลังจากนั้นก็ค่อยๆ ปรับพฤติกรรม เช่น คนที่ชอบทำร้ายผู้หญิงนั้น ถูกพ่อแม่ทำร้ายร่างกายมาก่อนจึงเก็บกดเอาไว้ ก็ต้องค่อยๆ เอาความทรงจำในส่วนนี้ออก แล้วจึงค่อยๆ ปรับพฤติกรรม หรือเวลาโกรธเราก็จะรักษาด้วยการให้มีทางระบายออก เช่น ตะโกน เป็นเสียงสัตว์ หรือให้คำรามออกมาดังๆ สุดเสียง ก็จะช่วยบรรเทาปัญหาได้ อย่างไรก็ดี สิ่งสุดท้ายไม่ว่าจะอย่างไร ไม่ว่าอะไรก็แล้วแต่ เราไม่มีสิทธิ์ทำร้ายผู้หญิง การทำร้ายร่างกายคนมันอยู่ในยุคหิน ศิวิไลเซชั่น (Civilization) เป็นยุคที่ทั่วโลกให้ความสำคัญกับ Gentleman หรือ 'สุภาพบุรุษ' แต่ประเทศไทยให้ความสำคัญกับคำนี้น้อยมาก และโทษก็ยังเบาไป เรื่องนี้ผู้รับผิดชอบควรแก้ไขเพื่อปกป้องเพศแม่ของเรา" นักจิตวิเคราะห์ชื่อดังกล่าวสรุป.