ทำในสิ่งที่รัก และรักในสิ่งที่ทำ คือเคล็ดลับความสำเร็จของ “ปอม-ธัชมาพรรณ  จันทร์จำรัสแสง”  นักวาดภาพประกอบสาวสวยชาวไทย วัย 32 ปี ซึ่งเป็นที่รู้จักระดับอินเตอร์ในฐานะ “Pomme  Chan” เธอเปลี่ยนความหลงใหลในเส้นสายลายตวัดจากปลายปากกา ถ่ายทอดออกมาเป็นผลงานสร้างสรรค์ระดับโลก ซึ่งเป็นที่ต้องการของแบรนด์ดังๆมากมายนับไม่ถ้วนไล่ตั้งแต่ Marc Jacobs, MTV, Nike, Adidas, Microsoft, Mercedes-Benz,  Volkswagen,  Sony,  DVF  ไปจนถึง  Topshop และห้างสรรพสินค้า Selfridges

“ปอม  ชาน”  จบปริญญาตรีจากคณะมัณฑนศิลป์ สาขาออกแบบตกแต่งภายใน มหาวิทยาลัยศิลปากร แต่ไม่เคยทำงานอินทิเรียดีไซน์อย่างที่ร่ำเรียนมาเลย กระทั่งได้ไปฝึกงานด้านกราฟฟิกดีไซน์ และทำงานกับบริษัทเอเจนซี่โฆษณาชื่อดังในตำแหน่งกราฟฟิกดีไซเนอร์ ทำให้ค้นพบตัวเองว่ามีความสุขจากการขีดเขียนวาดลายเส้น เธอจึงตัดสินใจบินลัดฟ้าไปศึกษาต่อด้านกราฟฟิกดีไซน์  แอนด์  คอมมิวนิเคชั่น  ที่วิทยาลัยลอนดอนคอลเลจ ออฟ คอมมิวนิเคชั่น และวิ่งสู้ฟัดทุกทาง เพื่อแจ้งเกิดในฐานะนักวาดภาพประกอบแถวหน้าของอังกฤษ


...

กว่าจะโด่งดังเป็นที่ยอมรับในอังกฤษ ต้องผ่านเส้นทาง ขรุขระขนาดไหน

ทั้ง รุ่นที่เรียนจบกราฟฟิกดีไซน์กว่า 80 คน มีแค่ 5 คน ที่ได้ทำงานวงการนี้ แต่การที่ไปเริ่มต้นอาชีพนี้ในต่างประเทศก็มีข้อดีเยอะ ทุกคนมีต้นทุนเท่ากันหมด ไม่มีใครสนใจว่าคุณเป็นหัวดำ หรือหัวทอง ช่วง 2-3 ปีแรก ยอมรับว่าลำบากมาก ต้องหาเลี้ยงตัวเองด้วยการรับจ็อบทำงานทุกอย่าง ตอนกลางวันเป็นพนักงานเสิร์ฟ, พนักงานเคาน์เตอร์เครื่องสำอาง และแจกใบปลิว พอตกกลางคืนถึงมีเวลาทำงานด้านอิลลัสเตรชั่น ช่วงนั้นยอมทำงานฟรีๆไม่เอาสตางค์ เพราะอยากให้คนเห็นผลงานมากที่สุด ทำอยู่อย่างนั้น 2 ปีกว่า เป็นชีวิตที่เหนื่อยมาก กระทั่งรู้สึกว่าไม่ไหวแล้ว เลยตัดสินใจเดินเข้าธนาคารขอกู้เงิน เพื่อทำเว็บไซต์เปิดพอร์ตโฟลิโอของตัวเอง ตอนนั้นลุยเองหมดติดต่อกับบริษัทต่างๆเพื่อเอาผลงานเข้าไปเสนอ ทำให้เริ่มมีงานเข้ามา และมีโอกาสได้เริ่มต้นอาชีพนี้จริงจัง

ชิ้นไหนคือผลงานแจ้งเกิดทำให้นักวาดภาพ ประกอบไทยเป็นที่รู้จักในอังกฤษ

ผล งานแจ้งเกิดงานแรกคือ การทำงานร่วมกับเมอร์เซเดส-เบนซ์ ของอังกฤษ และได้วาดภาพประกอบให้หนังสือพิมพ์เทเลกราฟ ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์ระดับท็อปของอังกฤษ ตอนหลังวาดภาพประกอบให้หนังสือพิมพ์อีกหลายสำนักทั้งเดอะ การ์เดียน และไฟแนนเชียล ไทม์ส จากเดิมที่ต้องวิ่งหาลูกค้าเอง คราวนี้ลูกค้าเริ่มวิ่งเข้าหาเรา จึงต้องพึ่งเอเจนต์มาช่วยดูแลทุกอย่างให้เป็นระบบ ช่วยคุยกับลูกค้า สกรีนงานให้เรา มาถึงวันนี้ “ปอม” มีเอเจนต์ คอยดูแลงานให้ทั้งในอเมริกา, อังกฤษ และญี่ปุ่น ในต่างประเทศระบบเอเจนต์มีความสำคัญกับศิลปินมาก ช่วยให้ศิลปินฝีมือดีๆมีโอกาสเผยแพร่ผลงานให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น เพื่อให้งานของเราอยู่ถูกที่ถูกเวลา คือถ้าผลงานดี แต่ไม่มีคนเห็น หรือมีคนเห็นแต่เป็นคนไม่สำคัญ มันก็ไม่เกิดประโยชน์

อะไรคือจุดแข็งของ “ปอม  ชาน”  ที่มีเอกลักษณ์ ต่างจากศิลปินทั่วไป

ความ ใส่ใจในรายละเอียดน่าจะเป็น จุดเด่นนะคะ งานของ “ปอม” จะดีเทลเยอะมากและมีความเป็นผู้หญิงสูง อาจเป็นเพราะมีพื้นฐานศิลปะจากศิลปากร ทำให้การวาดรูปค่อนข้างเป๊ะไม่ เหมือนฝรั่งที่ไม่ได้ฝึกฝนหนักเท่าเมืองไทย เสน่ห์ของงาน “ปอม” คงอยู่ที่การวาดมือเกิน 50% เพราะเชื่อว่ามันเป็นความซื่อสัตย์ต่อตัวเอง เวลาเราเห็นลายเส้น แต่ละคนจะรู้เลยว่าเขามีความตั้งใจกับงานแค่ไหน  เขาสงบตอนที่วาด หรือวาดลวกๆด้วยความอ่อนประสบการณ์ฝีมือและสโตรคของลายเส้นมันหลอกไม่ได้  เป็นการสื่อสารระหว่างความคิด และความรู้สึกผ่านมือออกมา ส่วนคอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือเสริมในการแก้ไขงานกับลูกค้า

...

เวลาสร้างสรรค์ผลงานแต่ละชิ้นต้องใช้เวลามากไหม

ใน ความคิดของ “ปอม” การทำงานหนักไม่จำเป็นต้องทำงานนาน ถ้าเราทำงานนานแปลว่าบริหารเวลาไม่เป็น จะวางแผนไว้เลยว่าถ้าต้องส่งงานพรุ่งนี้ “ปอม” จะทำงานเสร็จล่วงหน้าตั้งแต่วันนี้เลย เพื่อที่ว่าพรุ่งนี้เช้าจะได้ตื่นขึ้นมาอย่างเฟรชที่สุด แล้วมาตรวจดูงานอีกรอบหนึ่ง “ปอม” ไม่ใช่คนที่จะเผางานในนาทีสุดท้ายรีบทำรีบส่ง  แบบนั้นทำไม่เป็น!! ปกติทำงานอาทิตย์ละ 6 วัน จะขอเบรกพักสมองวันเสาร์ ส่วนใหญ่ “ปอม” จะทำงานคนเดียว ไม่มีทีมงานใหญ่โต อาจมีผู้ช่วยบ้างในกรณีที่เป็นโปรเจกต์ใหญ่มากๆ หรือต้องการความถนัดเฉพาะทาง

ช่วงไหนสมองแล่น ไอเดียบรรเจิดที่สุด

ช่วง บ่ายหลังนอนกลางวันนิดหนึ่ง ส่วนช่วงเช้าจะเป็นเวลาตอบอีเมล์ ปกติจะตื่น 8 โมงครึ่ง อาบน้ำแต่งตัวเช็กอีเมล์ เริ่มทำงานตั้งแต่ 11 โมง ถึงบ่ายโมง พักเบรกทานข้าว หลังจากนั้นทำงานอีกนิดหนึ่ง ถ้าง่วงจริงๆก็จะงีบตอนบ่ายสาม ช่วงที่แอคทีฟจริงๆคือ บ่ายสี่โมงถึงสองทุ่ม แล้วก็ทำกับข้าว พักผ่อน ไปเข้านอนตอนเที่ยงคืน “ปอม” จะไม่ทำงานตอนกลางคืนเลย ถ้าวันไหนคิดไม่ออกจะปิดคอมพิวเตอร์ ออกไปเดินเล่นและสูดอากาศ ไปเข้าร้านหนังสือ ทำกิจกรรมอะไรก็ได้ที่ไม่เกี่ยวกับดีไซน์  แล้วค่อยกลับมาทำงานใหม่ เวลาทำงานแค่ปากกาแท่งเดียว ไม่ต้องคิดอะไรมาก พอสมองแล่นก็วาด เลย  รวดเดียวจบ  เรารู้จักสโตรคมือของตัวเองอยู่แล้ว

...

อยู่วงการนี้มาหลายปีมีใครเป็นโรลโมเดลไหม

ศิลปิน ที่ประทับใจคือ “Non-Format” เคยร่วมงานกับพวกเขาตั้งแต่ทำงานยุคแรก เป็นกราฟฟิกดีไซเนอร์สองคนมารวมตัวกัน สองคนนี้เปรียบเหมือนครูคนแรกในวงการ “ปอม” ชอบความ เจ๋งของพวกเขา แม้จะเก่งขนาดนี้ แต่ก็ยังไม่หยุดพัฒนาตัวเอง พวกเขาเป็นคนแรกๆ ที่สอนว่า เราควรทำงาน เท่าไหร่ถึงจะพอ บางครั้งการคิดเยอะเกินไป แล้วทำออกมาล้นเกินไป ก็ไม่เวิร์ก!! สิ่งที่เราต้องสื่อสารกับคนดูให้ได้คือ มองแล้วสวย และเข้าใจล่ะ อย่าลึกมาก!! การทำงานให้พอดีกับที่ถูกจ้างมาก็สำคัญ ไม่ใช่ถูกจ้างมาร้อย แต่ทุ่มเป็นหมื่นเป็นพัน อันนี้ก็ไม่พอดี

การแข่งขันขับ เคี่ยวรุนแรงไหม มีอุป-สรรคจากความเป็นเอเชียหรือเปล่า

การ แข่งขันสูงมาก!! มีคนจบด้านนี้เป็นพันๆคนทุกปี เราจะทำยังไงถึงไม่ถูกคลื่นลูกใหม่ซัดหลุดไป และประคองตัวอยู่ให้ได้ คนที่อยู่ระดับท็อปอยู่แล้ว ทำยังไงก็รักษาความเป็นหนึ่งไว้อย่างนั้น เราไม่มีทางข้ามพวกเขาไปได้หรอก แต่สำหรับคนที่อยู่ตรงกลางอย่างเราต้องโดนกดดันไปซะทุกด้าน จะทำยังไงให้อยู่ตรงกลางได้เรื่อยๆ เราต้องไม่หยุดพัฒนาตัวเอง และอย่าคิดว่าตัวเองเจ๋ง ความเป็นเอเชียไม่ได้ทำให้ถูกกีดกัน เพราะสิ่งที่แข่งขันกันคือฝีมือ

ค้นหาแรงบันดาลใจอย่างไรไม่ให้หมดไฟ

การ เดินทางทำให้ได้รีเฟรชตัวเอง ยิ่งเราเห็นมากรู้มากมันซึมซับเข้ามาเองโดยไม่รู้ตัว ซึ่งสิ่งเหล่านี้หล่อหลอมกลายเป็นเทสต์ หรือรสนิยม ที่ไม่สามารถหาซื้อที่ไหนได้ ถึงจะเปิดหนังสือดูกี่ร้อยเล่ม ก็ไม่เท่ากับเราไปพบเห็นและจับต้องของจริงด้วยตัวเอง “ปอม” จะเดินทางท่องเที่ยวเดือนละหน เพื่อเก็บเกี่ยวแรงบันดาลใจใหม่ๆ และต้องไปนิวยอร์กปีละหนเพื่อพบปะลูกค้า เดินทางมาเยอะประทับใจนิวยอร์กที่สุด เพราะได้เจอคนใหม่หลากหลายวงการ เคยเจอลูกค้าที่เป็นค่ายเพลง พอเปิดพอร์ตงานให้ดู เขาบอกว่าชอบๆ ให้เราออกแบบหน้าปกซีดี แต่ขอส่งงานพรุ่งนี้เลยนะ โอ้โห!! ทำงานกับคนนิวยอร์กเป็นอะไรที่สนุกมาก มีโอกาสเปิดกว้างรออยู่ เป็นสังคมอเมริกันดรีมแท้ๆ

...

สำหรับน้องๆรุ่นใหม่ที่อยากโกอินเตอร์บ้าง มีเคล็ดลับแนะนำไหม

ถ้า หวังจะรวยเร็วมีรถเป็น 10 คัน จากอาชีพนี้ บอกเลยว่าไม่มีทาง!! แต่มันคือความท้าทายในอาชีพ ได้เห็นตัวเองพัฒนา ขึ้นไปเรื่อยๆ เอาเป็นว่าเลี้ยงตัวเองได้ มีเงินเหลือเที่ยวเหลือช็อปปิ้งสบายๆ รายได้จาก อาชีพนี้พูดเป็นตัวเลขยาก เริ่มต้นการวาดหนึ่งรูปสตาร์ตที่ 5 หมื่นบาท แต่ถ้าเป็นงานคอมเมอร์เชียลที่นำไปใช้ในวงกว้างต้องคิดอีกเรตหนึ่ง เพราะมีเรื่องลิขสิทธิ์ ที่ผ่านมามีน้องๆ ลองมาทำงานที่อังกฤษ หลายคน แต่ส่วนใหญ่ท้อแท้กลับไปซะก่อน

ทำงานเก็บเงินเก็บทองได้เยอะ แล้ว ตั้งเป้าไหมว่าเมื่อไหร่ จะกลับเมืองไทย

“ปอม” อยู่อังกฤษมา 10 ปีแล้ว แต่ยังไม่คิดกลับเมืองไทยถาวร ชอบที่จะไปๆมาๆมากกว่า ความฝันของ “ปอม” ไม่ใช่ความรวยแต่เป็นคนที่มีสิ่งอยากทำเยอะมากในชีวิต สมัยก่อนอยากทำงานคอมเมอร์เชียล แต่พอได้ทำงานคอมเมอร์เชียลมา 5-6 ปีแล้ว ก็อยากลองทำไลน์แฟชั่นเสื้อผ้าและแอคเซสเซอรี่บ้าง เมื่อปีที่แล้วเลยเปิดบริษัทกับเพื่อนชื่อว่า What If โดยนำผลงานลายเส้นของตัวเองมาพรินต์เป็นลวดลายบนผ้า จากนั้นก็อยากทำพวกของตกแต่งภายใน ทำโซฟา, หมอน และผ้าม่าน เป็นอีกแนวหนึ่งที่น่าสนใจ

เศรษฐกิจอังกฤษซบเซาขนาดนี้ ทำมาหากิน ฝืดเคืองขึ้นไหม

การแข่งขันสูงอยู่แล้ว ยิ่งมาเจอสภาพเศรษฐกิจแบบนี้ ยิ่งได้รับผลกระทบหนักขึ้น แต่สำหรับ “ปอม” เชื่อว่า ทำไมเราไม่เปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาส เราต้องพัฒนาทักษะหลายอย่างเพื่อสร้างจุดขายในตัวเรามากขึ้น ที่สำคัญอย่าเกี่ยงงาน ต้องอึดและตรงเวลา รับรองว่ามีงานให้ทำเยอะแยะ ไม่ว่างานชิ้นเล็กชิ้นน้อยแค่ไหน ก็สามารถต่อยอดได้

ทำงานมาสารพัด ยังมีอะไรท้าทายให้อยากทำอีก

“ปอม” เป็นคนไม่ค่อยหยุดนิ่ง และอยากพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นเรื่อยๆ ส่วนใหญ่พอเสร็จงานหนึ่งจะภูมิใจอยู่พักหนึ่ง หลังจากนั้นก็มองหางานใหม่ที่ท้าทายความสามารถมากขึ้น อยากพัฒนาสิ่งที่ทำในตอนนี้ คือเรื่องของตกแต่งบ้าน ให้แตกไลน์ออกไปอีก มันยังมีอะไรให้ทำได้อีกเยอะ ไม่ว่าจะเป็นการพรินต์ลายลงบนพื้นผิวเซรามิกและกระเบื้อง อยากจะพัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆแบบไม่หยุดยั้ง แต่บั้นปลายชีวิตต้องกลับเมืองไทยแน่นอน.

ทีมข่าวหน้าสตรี