ให้ผู้หญิงคงความอ่อนเยาว์ของผิวพรรณ เพื่อความงาม…เหนืออายุ และ กาลเวลา เมื่ออายุย่างเข้าเลขสาม คุณเริ่มเป็นกังวลกับสัญญาณแห่งวัยอันไม่พึงประสงค์ที่เริ่มทยอยปรากฏให้เห็นเด่นชัดขึ้นบนใบหน้าของคุณบ้างหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาผิวหย่อนคล้อย เริ่มสูญเสียความกระชับ ริ้วรอยบริเวณหน้าผาก หรือบริเวณหว่างคิ้วเริ่มปรากฏ และสัญญาณแห่งวัยสำคัญสัญญาณแรกที่บ่งชี้ว่าผิวของเราเริ่มร่วงโรยก็คือ รูขุมขนขยายกว้างขึ้น โดยนักวิทยาศาสตร์เอสเค-ทู ชี้ต้นเหตุสำคัญของการขยายตัวนี้ว่า เกิดจากสภาพผิวโดยทั่วไปเมื่ออายุเพิ่มขึ้น ผิวของเราจะเริ่มสูญเสียความชุ่มชื้นยืดหยุ่น และขาดความแน่นกระชับ เป็นเหตุให้รูขุมขนปิดตัวไม่สนิทหลังกระบวนการขับน้ำมันส่วนเกิน ซึ่งต่างจากผิวในวัยเด็กที่รูขุมขนจะปิดตัวอย่างเป็นธรรมชาติ ทำให้ผิวดูกระชับ ทั้งนี้ อายุที่เพิ่มมากขึ้น ประกอบกับภาวะตึงเครียดจากการใช้ชีวิตประจำวัน และภาระหน้าที่การงาน รวมถึงมลภาวะแวดล้อมที่ไม่เอื้ออำนวยต่อสภาพผิว กำลังทำให้คุณยอมประนีประนอมกับความสวย รวมถึงการดูแลตนเองและผิวพรรณให้ดูดีอยู่ตลอดเวลาหรือไม่

...


เอสเค-ทู อยากให้คุณผู้หญิงมาร่วมสร้างเทรนด์ใหม่ บอกลาข้อจำกัดเรื่องตัวเลขที่จะต้องทำให้หยุดสวย เป็นผู้หญิงสมัยใหม่ที่ไม่ยอมให้ความสวยร่วงโรยไปตามวัย และกาลเวลา เราสามารถกำหนดตัวเลขแห่งความงามด้วยตัวเอง แม้อายุจะมากขึ้นแต่ก็สวยและมั่นใจได้จากการที่ดูแลตัวเองอย่างดีรอบด้านทั้งร่างกาย จิตใจ ตลอดจนผิวพรรณ ทำให้มีความสุขและใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่ สังเกตได้ว่าผู้หญิงสมัยนี้บางคนหน้าตาดูสดใสเหมือนเพิ่งเข้าทำงานปีแรก แต่ความจริงเป็นผู้บริหาร หรือบางคนหน้าใสดูเหมือนอายุเพิ่งจะย่างเข้าเลขสาม แต่ความจริงลูกโตเป็นสาวแล้ว มุมมองนี้เองที่เอสเค-ทู อยากมีส่วนร่วมในการช่วยเปิดสวิตช์ผิวและความมอบความมั่นใจให้ผู้หญิงมองความงามแห่งวัยในมุมใหม่ ซึ่งถือว่าเป็นมาตรฐานความงามใหม่ของผู้หญิงในยุคนี้ที่เรียกว่า “Age doesn’t matter”

สำหรับเคล็ดลับการดูแลตัวเองและผิวพรรณให้คงความอ่อนเยาว์ เหนืออายุและกาลเวลาจากสองแบรนด์แอมบาสเดอร์ ผู้ผูกพันกับเอสเค-ทูมาอย่างยาวนาน เจี๊ยบ-โสภิตนภา ชุ่มภาณี และ สู่ขวัญ บูลกุล ซึ่งทั้งสองสาวนับว่าเป็นตัวแทนของสาวสมัยใหม่อย่างแท้จริง ที่สามารถบริหารจัดการเวลากิจกรรมทุกอย่างได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นตารางงานในวงการบันเทิง คิวถ่ายละครที่ต้องอยู่กลางแจ้งทั้งวัน คิวสัมภาษณ์และงานถ่ายแบบลงนิตยสาร และตารางชีวิตนอกวงการบันเทิง ในฐานะภรรยา และคุณแม่ที่ดูแลลูกชายวัยกำลังโต แต่ก็ยังสามารถจัดสรรเวลา และสามารถดูแลตัวเองได้อย่างดี ยิ่งเวลาผ่านไปมีแต่จะดูสวยขึ้นทุกครั้งที่ได้พบ ทั้งสองสาวร่วมแชร์เคล็ดลับในการดูแลตัวเองให้คงความสวย เหนืออายุ และกาลเวลา นั่นก็คือการออกกำลังกายอย่างเป็นประจำ รวมถึงการทานอาหารที่มีประโยชน์ และการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ดีควบคู่กันไป


เจี๊ยบ โสภิตนภา กล่าวว่า การออกกำลังกายทำให้ร่างกายแข็งแรง และรู้สึกกระปรี้กระเปร่า เสมือนเป็นแหล่งสะสมพลังที่สามารถนำไปใช้ในการดำเนินชีวิตอันแสนยุ่งในแต่ละวัน เมื่อมีเรี่ยวแรงทำกิจกรรมต่างๆ ได้เหมือนเมื่อก่อน จึงไม่รู้สึกว่าตัวเลขอายุแต่ละปีที่เปลี่ยนไป ทำให้รู้สึกร่วงโรย ในทางตรงกันข้ามกลับรู้สึกว่าตัวเองเด็กลงทุกวัน นอกจากนี้การออกกำลังกายยังทำให้ร่างกายทำงานอย่างเป็นระบบ อาหารที่รับประทานเข้าไป ร่างกายก็ได้รับสารอาหารอย่างเต็มที่ รวมถึงเมื่อใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ดี ผิวก็เปิดรับ รู้สึกได้ว่าเนื้อครีมซึมสู่ผิวได้เร็วขึ้น ทำให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด การดูแลตัวเองทุกอย่างของเจี๊ยบสะท้อนออกมาทางผิวพรรณที่ยังดูเปล่งปลั่ง และแลดูอ่อนเยาว์เหมือนวันแรกที่เจี๊ยบเข้าวงการ แม้จะผ่านมากว่า 10 ปีแล้วก็ตาม”

ด้าน ขวัญ สู่ขวัญ กล่าวว่า หากจะพูดว่าขวัญไม่กลัวเรื่องอายุที่เพิ่มมากขึ้น คงเป็นเรื่องโกหก แต่ขวัญมีโอกาสได้พบกับผู้อาวุโสที่ขวัญนับถือหลายท่าน เมื่อเวลาจะผ่านไปนานเพียงใด แต่ทุกครั้งที่พบท่าน ท่านก็ยังคงสง่างาม และดูสวยสมวัย เคล็ดลับคือการดูแลตัวเองอย่างดีตั้งแต่ยังสาว สิ่งนี้เป็นแรงบันดาลใจให้ขวัญดูแลตัวเองอย่างจริงจัง ขวัญเริ่มออกกำลังกายด้วยการวิ่ง และยังคงทำอยู่อย่างเป็นประจำจนถึงทุกวันนี้นับเป็นเวลากว่า 2 ปีแล้ว ทั้งนี้ก็เพราะเมื่อเราอายุเพิ่มมากขึ้น เราก็ยังอยากเป็นผู้หญิงที่สวย และร่างกายแข็งแรง จนผู้ที่พบเห็นต้องหันกลับมามอง และมีเราเป็นแรงบันดาลใจในการดูแลตัวเอง

นอกเหนือจากการเปิดสวิตช์ให้กับร่างกายให้สามารถทำงานได้อย่างกระฉับกระเฉงแล้ว ความคิดและจิตใจก็นับเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่จะช่วยชะลอวัย เพราะความคิดของเรามีผลกับเซลล์ในร่างกาย การกำหนดอารมณ์ ความรู้สึก เอสเค-ทู ได้รับเกียรติจากผู้เชี่ยวชาญมาให้คำปรึกษาเรื่องการเปิดสวิตช์ใจ ไม่ให้หวั่นต่ออายุ และ กาลเวลา โดย ลินดา ติกกะวี ผู้ฝึกอบรมทักษะการใช้ชีวิตและพัฒนาบุคลิกภาพ ได้รับการรับรองจาก NLP เข็มทิศจิตใต้สำนึกมาช่วยปรับเปลี่ยนวิธีคิดเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างกายและจิต ปลดล็อกใจให้เชื่อในศักยภาพของพลังแห่งความคิด ที่มีอิทธิพลต่อร่างกายและผิวพรรณของเราโดยยกตัวอย่างการที่ร่างกายมีปฏิกิริยาต่อความคิด และ จินตนาการด้วยเหตุการณ์ทั่วไปในชีวิตประจำวันที่คุณสามารถจินตนาการตามได้

"เช่น การจินตนาการถึงมะนาว ลูกเต่ง แล้วบีบน้ำมะนาวเข้าปาก เพียงแค่นี้ร่างกายก็มีปฏิกิริยาโต้ตอบ น้ำลายสอ จนต้องกลืนน้ำลาย แสดงให้เห็นถึงพลังของจิตว่าเมื่อใจเชื่อและคิดว่าเป็นไปได้ ร่างกายจะตอบสนองกับภาพที่เกิดขึ้นในสมอง และทุกอย่างก็จะเป็นไปได้ หลักการดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจากดร.ศักดิภัทร พวงคต ที่ปรึกษาจิตใต้สำนึกและนักสั่งจิตแก้ปัญหาสุขภาพ สมาชิกสมาคมการสั่งจิต บำบัดทางการแพทย์ และสมาคมนักให้คำปรึกษาและผู้สั่งจิต นานาชาติ สหรัฐอเมริกา (IACT) ที่เรียกว่า หลักจิตตานุภาพ หรือ อานุภาพแห่งจิต ซึ่งสามารถนำมาใช้กับเรื่องการชะลอวัยของผิวได้ โดยเมื่อต้องการอย่างใดอย่างหนึ่งก็ให้คิดได้อย่างนั้น จึงนำมาสู่การสรุปที่ว่า เวลาตั้งเป้าหมายชีวิตหรือเป้าหมายใดๆก็ตาม อย่าคิดเพียงแค่สิ่งที่เราพอจะทำได้ แต่ให้คิดถึงสิ่งที่ต้องการที่สุดจริงๆ เช่นว่า ฉันจะคงความสวยและความอ่อนเยาว์ของผิวพรรณไว้เหมือนตอนอายุ 25 ไม่ว่าอายุจริงของฉันจะตัวเลขอะไรก็ตาม แล้วร่างกายจะตอบสนองให้เกิดแรงขับเคลื่อนให้เราสามารถทำสิ่งที่ต้องการได้จริงๆ 

นอกจากนี้ ดร.ศักดิภัทร พวงคต ยังแนะนำวิธีบริหารโครงหน้าชะลอวัยแห่งผิว ด้วยการรวบรวมพลังจิต ผสานกับพลังนิ้ว กดจุดตามแนวเส้นเมอริเดียน และดึงลมปราณมาที่หน้า เพื่อกระตุ้นเส้นชีวิต ซึ่งแนวเส้นเมอริเดียนนี้มองเห็นได้ด้วยเพียงกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนเท่านั้น มีขนาดเล็กมาก เป็นสายใยชีวิตที่เล็กกว่าเส้นเอ็น เส้นเลือด ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ว่ากันว่าถ้าเส้นนี้ขาดหมายถึง ชีวิตขาด เส้นนี้เป็นจุดที่คนจีนใช้ในศาสตร์การฝังเข็ม วิธีการเริ่มจากการสะบัดมือ ทำความรู้สึกให้สบาย ผ่อนคลาย กำหนดจิตเคลื่อนพลัง และกำมือ ปล่อยมือสลับกันส่งพลังมาที่นิ้ว เกร็งนิ้ว โดยการบริหารนี้จะใช้อำนาจของนิ้วทั้ง 3 ที่มีพลังมาก ซึ่งคือ นิ้วชี้ นิ้วกลาง และนิ้วนาง ตัวอย่างท่าบริหารโครงหน้าเพื่อแก้ปัญหาผิวต่างๆ มีดังนี้

...

ท่าที่หนึ่ง แก้ปัญหาริ้วรอยทางขวาง ทุกครั้งที่ทาผลิตภัณฑ์บำรุงผิวให้ใช้นิ้วกลางกดบริเวณริ้วรอย แล้วลากออก

ท่าที่สอง แก้ปัญหาริ้วรอยบริเวณหางตา ใช้หลักการเดียวกันคือกดและลาก โดยขณะที่กด ตั้งจิตให้มั่น ให้รู้สึกว่าร่องต่างๆ ถูกเติมด้วยพลัง จนเนื้อเต็มตื้นขึ้น

ท่าที่สาม การบริหารโครงหน้าโดยทั่วไป เริ่มจากการนิ้วทั้งสามบริเวณหน้าผาก เลื่อนลงมาที่ขมับ วนไปที่ใต้ตา มาที่บริเวณหว่างคิ้ว คลี่คิ้วออก จดจ่ออยู่กับสติที่เคาะ ไล่ลงมาบริเวณโหนกแก้ม มาถึงสันดั้งและเคาะเบาๆ ที่ดั้ง เรื่อยลงมาบริเวณปาก ใต้ปาก เลยมาที่กราม โดยในขณะที่บริหารหน้าอยู่นั้นให้ตั้งจิตนึกถึงช่วงที่เราสาวและสวยที่สุด