วิภาวรรณ พาวิทยลาภ (ขวาสุด) นักขี่ม้าทีมชาติ ชวนพี่น้องพร้อมหน้ามายินดีกับพ่อ–แม่ "พิชิต–สุรีรัตน์".
เพื่อพัฒนาประชาธิปไตยในประเทศ สำนักงานเสริมสร้างเอกลักษณ์ของชาติ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี โดยอนุกรรมการส่งเสริมการพัฒนาประชาธิปไตย จึงได้จัดให้มีการมอบรางวัลครอบครัวประชาธิปไตยตัวอย่าง เพื่อยกย่องและเป็นแบบอย่างของการดำเนินชีวิตครอบครัวที่มีความรัก ความอบอุ่น สั่งสอนเลี้ยงดูบุตรธิดาให้ประสบความสำเร็จในชีวิตครอบครัวและหน้าที่การงาน โดยปีนี้ พลอากาศเอกกำธน สินธวานนท์ องคมนตรี เป็นประธานในพิธีมอบรางวัลครอบครัวประชาธิปไตยตัวอย่าง ประจำปี 2556 จำนวน 39 ครอบครัว ที่หอประชุมสุขุมนัยประดิษฐ์ สถาบันพัฒนาข้าราชการพลเรือน สำนักงาน ก.พ. เมื่อวันที่ 30 พ.ค.ที่ผ่านมา
ครอบครัวประชาธิปไตยตัวอย่าง ประจำปี 2556 มีอาทิ ครอบครัว “เลาหพงศ์ชนะ” ของ วิบูลย์ยุพิน เลาหพงศ์ชนะ นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จทั้งการงานและครอบครัวที่อบอุ่น กล่าวถึงหลักการเลี้ยงดูลูกว่า เราจะสอนให้ลูกๆทั้ง 4 คนอยู่ในกรอบที่ดี อันนี้เป็นสิ่งสำคัญในครอบครัว เราต้องมีจริยธรรม คุณธรรม ให้รู้จักกตัญญูรู้ คุณคน และอ่อนน้อมถ่อมตน อย่าเป็นคนเหลิง ส่วนเรื่องการเรียนการทำงานให้เขามีอิสระไม่บังคับ แต่ถ้ามีอะไรให้มาคุยกัน ปรึกษาหารือกัน ซึ่งก็ภูมิใจกับลูกๆทุกคนที่เขาประสบความสำเร็จในชีวิตหน้าที่การงาน และเป็นไปอย่างที่เราสั่งสอน และอยากแนะนำครอบครัวคนรุ่นใหม่ว่า ควรเลี้ยงลูกให้มีจริยธรรม คุณธรรม จะนำพาชีวิตไปสู่ความสำเร็จ
ส่วนครอบครัว “วศินานุกร” ของ ผศ.นพ.ประเสริฐ–ผศ.พญ.มยุรี วศินานุกร 2 อาจารย์หมอที่มีครอบครัวประสบความสำเร็จ ซึ่ง คุณหมอประเสริฐ กล่าวว่า ด้วยความที่เรา 2 คนเป็นหมอทั้งคู่ เลยอาจไม่มีเวลาสั่งสอนลูกๆทั้ง 3 คนมากนัก เราสั่งสอนเขาด้วยการทำตัวเป็นตัวอย่างที่ดีให้ลูกเห็น ทั้งในเรื่องการมีระเบียบ การเอื้ออาทรต่อผู้อื่นและการมีเมตตา ถ้ามีปัญหาจะบอกให้มาพูดคุยปรึกษากัน เพื่อจะได้ช่วยกันหาทางออก เป็นที่ปรึกษาที่ดี
และอีกหนึ่งครอบครัวประชาธิปไตยตัวอย่าง คือ ครอบครัว “พาวิทยลาภ” ของ “วิภาวรรณ” นักกีฬาขี่ม้าทีมชาติไทย ซึ่งมี พิชิต–สุรีรัตน์ พาวิทยลาภ เป็นหัวหน้าครอบครัว กล่าวว่า เรามีลูกๆ 5 คน นอกจากเรื่องการมีศีลธรรมแล้วเราจะพยายามปลูกฝังในเรื่องการมีวินัย มีความรับผิดชอบ ส่วนเคล็ดลับในการสร้างครอบครัวอบอุ่นนั้น ทั้งคู่บอกว่า เราต้องหากิจกรรมทำร่วมกัน ทำให้เกิดความสนิทสนม ไปกินข้าว ไปเที่ยวร่วมกัน แล้วเวลามีปัญหาอะไรลูกๆก็จะเข้ามาคุยกันด้วยเหตุผล สิ่งสำคัญเราต้องไม่ซ้ำเติมถ้าเขาทำผิด แต่ต้องให้เขาแก้ไขในสิ่งที่ผิด แล้วเวลาลูกทำดีก็ต้องชมเขาด้วย.
...