การใช้ชีวิตทุกวันนี้เต็มไปด้วยอันตรายรอบตัว โดยเฉพาะผู้หญิงที่พักอาศัยในคอนโดมิเนียมหรือหอพักคนเดียว เรามักจะได้ยินข่าวว่าโดนคนร้ายงัดห้องเข้าไปทำร้ายร่างกายหรือถูกคร่าชีวิตในห้องของตนเองอยู่บ่อยครั้ง เพื่อไม่ให้เกิดเหตุร้ายขึ้น ไทยรัฐออนไลน์มีวิธีป้องกันตัวเองเบื้องต้นมาฝาก

1. เลือกคอนโดหรือหอพักที่มีระบบความปลอดภัยแน่นหนา

ก่อนตัดสินใจเลือกพักอาศัยที่นี่ อันดับแรกคือต้องมั่นใจเรื่องระบบรักษาความปลอดภัยที่แน่นหนา ควรมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยดูแล 24 ชั่วโมง ติดกล้องวงจรปิดทุกชั้นโดยเฉพาะในมุมอับและบริเวณพื้นที่ส่วนกลาง ที่สำคัญคือควรสังเกตพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและจุดที่ติดกล้องวงจรปิดด้วยตนเองเพื่อให้เกิดความมั่นใจ หากรู้สึกผิดสังเกตหรือไม่น่าไว้ใจให้ตัดออกจากรายชื่อที่จะเลือกพักทันที

2. เลือกสภาพแวดล้อมรอบที่พักอาศัยให้ดี

นอกจากทำเลและราคาจะเป็นสิ่งสำคัญในการตัดสินใจเลือกที่พักอาศัยแล้ว สภาพแวดล้อมก็สำคัญไม่แพ้กัน หากตั้งอยู่ในย่านที่มีชุมชนแออัด ใกล้โรงงาน หรืออยู่ในซอยเปลี่ยว ก็ไม่ควรเลือกแม้ว่าจะมีราคาถูกมากก็ตาม เพราะชีวิตเราประเมินเป็นราคาไม่ได้

3. สังเกตเพื่อนบ้านในคอนโดให้ดีก่อนตัดสินใจซื้อ

ตอนที่ขอฝ่ายนิติบุคคลดูห้องก่อนตัดสินใจเช่าหรือซื้อ นอกจากดูสภาพห้องแล้ว อย่าลืมสังเกตสภาพแวดล้อมภายในคอนโดด้วย ตั้งแต่การดูแลพื้นที่ส่วนกลางของนิติฯ ไปจนถึงพฤติกรรมของเพื่อนร่วมคอนโดโดยรวมว่าเป็นอย่างไร ผู้อาศัยส่วนใหญ่เป็นคนกลุ่มไหน ขณะเดียวกันก็ต้องยอมรับว่าราคาคอนโดยังเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยคัดเลือกผู้อาศัยได้ในระดับหนึ่งอีกด้วย

...

4. เพิ่มระบบความปลอดภัยที่กลอนประตู

หากกลอนประตูเป็นแบบมาตรฐานทั่วไป แนะนำว่าควรติดตั้งกลอนหรือระบบรักษาความปลอดภัยที่ประตูเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งชั้น เช่น Digital Door Lock ที่ต้องใส่รหัสหรือสแกนลายนิ้วมือแทนการล็อกด้วยกุญแจ ซึ่งช่วยยกระดับความปลอดภัยให้กับผู้อาศัยได้ดีกว่าแบบการล็อกกุญแจทั่วไป เพราะงัดแงะได้ยากและถ้าหากใส่รหัสผิดระบบก็จะทำการล็อกทันที แถมบางรุ่นยังสามารถส่งสัญญาณเตือนได้อีกด้วย

5. อย่าลืมล็อกประตูห้องทุกครั้ง

แม้ว่าจะออกจากห้องไปทำธุระสั้นๆ แค่ทิ้งขยะหรือลงไปรับอาหารจากบริการเดลิเวอรีก็ไม่ควรประมาทเรื่องการล็อกประตูห้องทุกครั้ง เพราะเพียงแค่เสี้ยววินาทีอาจมีผู้ไม่ประสงค์ดีแอบเข้ามาในห้องเราได้โดยที่ไม่ทันได้คาดคิด

6. ใช้ชีวิตอย่างรอบคอบ

หมั่นสังเกตพฤติกรรมผู้คนภายในหอพักหรือคอนโดอยู่เสมอ โดยเฉพาะเวลาที่อยู่ในพื้นที่ส่วนกลาง เช่น ลานจอดรถ โถงทางเดิน ลิฟต์ ว่ามีใครคอยจ้องมองหรือเดินตามหรือไม่ หากพบเห็นคนที่มีพฤติกรรมไม่น่าไว้ใจควรรีบแจ้งฝ่ายนิติฯ ให้จัดการ

7. ปิดห้องให้มิดชิดทุกครั้ง

ไม่ควรเปิดประตูห้องทิ้งไว้ขณะอยู่ในห้อง และควรปิดม่านหรือเลือกใช้ผ้าม่านสีเข้มเพื่อป้องกันคนภายนอกมองเข้ามาในห้อง

8. ตั้งสติเมื่อโดนคนแปลกหน้าเคาะห้อง

หากเจอคนแปลกหน้าเคาะประตูห้องไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาใดก็ตาม ห้ามตะโกนออกไปเพราะจะทำให้อีกฝ่ายมั่นใจว่าเราอยู่คนเดียว อันดับแรกคือตั้งสติให้ดี พร้อมส่องดูที่ช่องตาแมวว่าเป็นใคร หากไม่ใช่คนรู้จักให้รีบล็อกห้องให้แน่นหนา หาสิ่งของชิ้นใหญ่ๆ มากันที่ประตู จากนั้นโทรแจ้งฝ่ายนิติฯ เพื่อให้ส่งเจ้าหน้าที่มาช่วยจัดการ และควรโทรหาเพื่อนหรือญาติที่ไว้ใจได้เพื่อขอความช่วยเหลือ

9. พกอุปกรณ์ป้องกันตัวไว้เสมอ

ควรมีสเปรย์พริกไทยพกติดตัวไว้เพราะเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินก็สามารถใช้เป็นอุปกรณ์ป้องกันตัวได้ นอกจากนี้ควรมีพวงกุญแจฉุกเฉินไว้ส่งเสียงสัญญาณเตือนหรือเสียงไซเรนให้คนข้างห้องได้ยินแล้วมาช่วยเหลือได้ทันเวลา

...

10. ขอฝ่ายนิติฯ เช็กกล้องวงจรปิดทันทีที่เกิดเรื่อง

หลังจากถูกคนแปลกหน้าเคาะประตูหรือพยายามงัดห้อง สิ่งแรกที่ควรทำคือรีบขอทางฝ่ายนิติฯ เช็กกล้องวงจรปิดทันทีว่าเป็นใคร และนำไปแจ้งความเพื่อลงบันทึกประจำวัน เพราะถึงแม้ว่าจะยังไม่สามารถเอาผิดกับผู้ที่พยายามงัดห้องได้ทันทีแต่ก็มีหลักฐานว่าเคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นมาก่อนและนำไปใช้ตักเตือนผู้กระทำผิดได้

11. หาคอนโดหรือหอพักใหม่ที่มีความปลอดภัยมากขึ้น

ในกรณีที่ฝ่ายนิติฯ ไม่แสดงความรับผิดชอบในการหาตัวผู้กระทำผิดหรือพยายามบ่ายเบี่ยงในการช่วยตามหาหรือไม่ยอมให้ดูหลักฐานจากกล้องวงจรปิด แนะนำว่าควรหาคอนโดหรือหอพักใหม่ให้เร็วที่สุด เพราะแสดงถึงความไม่น่าไว้ใจ เนื่องจากเหตุการณ์งัดห้องส่วนใหญ่มักจะเป็นฝีมือคนภายในคอนโดเสียเองและบ่อยครั้งที่พบว่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็เป็นผู้กระทำผิดเองเช่นกัน

ทั้งหมดนี้คือวิธีการดูแลตนเองและการเอาตัวรอดเบื้องต้นเมื่อต้องใช้ชีวิตในคอนโดหรือหอพักคนเดียว สิ่งสำคัญที่สุดคือการสังเกตผู้คนรอบตัวและต้องมีสติอยู่เสมอ หากรู้สึกว่าที่พักอาศัยนี้ไม่ปลอดภัยก็ควรรีบหาที่ใหม่ทันที.