ม.ล.ปิยาภัสร์

ฉลองความเป็นสาวเต็มตัว นิตยสารแพรว จัดงาน “คอนเสิร์ตมหากุศล 32 ปี แพรวแชริตี้” พร้อมด้วยการมอบรางวัล 10 ผู้หญิงทรงอิทธิพลจากสาขาอาชีพต่างๆ (10 Most Influential Woman Of  the Year) ซึ่งคัดเลือกมาจากการโหวตจากผู้อ่าน ได้แก่ ม.ล.ปิยาภัสร์ ภิรมย์ภักดี, ปวีณา หงสกุล, สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา, จิตตินทร์ ฤทธิรัตน์, ชฎาทิพ จูตระกูล, อุษณีย์ มหากิจศิริ, สุภิญญา กลางณรงค์, แอน ทองประสม, อารยา เอ ฮาร์เก็ต และ ปาณิสรา พิมพ์ปรุ

ม.ล.ปิยาภัสร์ ภิรมย์ภักดี หนึ่งในจำนวนผู้หญิงที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นผู้ทรงอิทธิพล เนื่องจากเป็นหนึ่งในผู้ทำให้เอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมอย่างโขน ได้รับความสนใจจากคนรุ่นใหม่ เปิดเผยว่า รู้สึกยินดีที่มีคนเห็นประโยชน์ในสิ่งที่ทำ สิ่งที่เราทำนี้เป็นความตั้งพระทัยของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ที่จะทรงนำศิลปวัฒนธรรมดั้งเดิมของไทยกลับคืนสู่สังคมไทย ให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมสืบต่อไป ความสำเร็จของโขนที่ได้มาเป็นเพราะทุกคนช่วยกันทำอย่างตั้งใจจริง และที่ตนได้ก้าวมาสู่จุดนี้ในทุกวันนี้ ทุกอย่างในชีวิตมาจากคุณพ่อ-คุณแม่ (ม.ร.ว.ยงสวาสดิ์-ท่านผู้หญิงวิยะฎา กฤดากร) เป็นหลัก ส่วนโอกาสในชีวิตมาจากการที่ได้รับใช้เบื้องพระยุคลบาท สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้รับโอกาสในการทำงานที่ทุกคนยินดีให้การสนับสนุน เพราะเป็นงานที่เป็นประโยชน์ต่อชาติและประชาชน

ม.ล.ปิยาภัสร์กล่าวถึงหลักในการใช้ชีวิตที่ประสบความสำเร็จทั้งหน้าที่การ งานและครอบครัวว่า มีความสุขไปกับงานที่ทำ และเวลาทำงานต้องตั้งใจ ต้องมีสติ มีสมาธิทำให้ดีที่สุด ซึ่งถ้าเราไม่ได้ตั้งใจจริง แล้วผลออกมาผิดพลาด เราจะเสียใจภายหลัง ในส่วนของครอบครัวเราก็ต้องรับผิดชอบ จะอ้างเรื่องงานเป็นข้อแก้ตัวที่ไม่ดูแลลูก ดูแลครอบครัวไม่ได้ เราต้องมีส่วนรับผิดชอบในสังคม ไม่เอาขยะไปทิ้งให้สังคม ตนเชื่อว่า พ่อแม่ควรเป็นตัวอย่างชี้แนะสิ่งที่ถูกต้องให้แก่ลูกๆ เพราะเด็กเหมือนผ้าขาว สำหรับตนนับว่าโชคดี ลูกๆไม่ทำอะไรให้เราผิดหวังหรือหนักใจ

...

อีกหนึ่งหญิงแกร่งที่ได้รับการยกย่อง จิตตินทร์ ฤทธิรัตน์ นักสู้เพื่อช้างป่า ในเครือข่ายอนุรักษ์ช้าง กาญจนบุรี ซึ่งได้รับรางวัลจากกองทุน The Whitley Fund for Nature ซึ่งมอบโดยเจ้าฟ้าหญิงแอนน์ แห่งอังกฤษ เล่าถึงงานที่ภูมิใจว่า ทำงานด้านนี้มา 10-12 ปี ก่อนหน้านี้เคยเป็นนักข่าวเสนอปัญหาสังคม จนได้มาเจอกับงานที่ชอบนี้เลยลาออก เริ่มทำงานนี้ครั้งแรก โดยลงไปที่เรื่องความขัดแย้งระหว่างคนกับสัตว์ป่า ที่ออกมาทำลายพืชเกษตรของชาวบ้าน จึงต้องทำความเข้าใจกับชาวบ้าน งานที่ทำอยู่ดูอาจจะหนักไปสำหรับผู้หญิง แต่ด้วยความเป็นผู้หญิงมีแง่ดี คือเรามีความละเอียดอ่อน และมีความอดทนกว่า ดีใจที่งานเราเป็นที่ยอมรับของทุกคน สิ่งที่ชื่นใจคือ ชาวบ้านที่มีทัศนคติไม่ดีกลับมาให้กำลังใจเรา ถามหาเรา เท่านี่แหละคือ กำลังใจในการทำงาน

สาวแกร่งคนสุดท้าย สุภิญญา กลางณรงค์ เอ็นจีโอทางด้านสื่อ ถูกผลักเข้าสู่กระแสทางการเมือง ปัจจุบันได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในคณะกรรมการกิจการกระจาย เสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า ไม่เคยคิดว่าชีวิตจะมายืนอยู่ในจุดนี้ เราไม่ได้ Born to be เป็นผู้หญิงแกร่ง เราเป็นผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง ซึ่งเคยวางแนวทางชีวิตมีครอบครัวปกติทั่วไป แต่เมื่อชีวิตผกผันเข้าไปสู่เกมทางการเมือง ถูกฟ้องเป็นร้อยล้านบาท ชีวิตเจอโจทย์ที่ทำให้ต้องใช้ศักยภาพอย่างเต็มที่ 5 ปีที่ต้องสู้กับกระแสทางการเมือง สู้กับผู้มีอำนาจ กว่าจะผ่าวิกฤติออกมาได้ ธรรมะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เราได้คิด ได้อยู่กับตัวตน การได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในคณะกรรมการ กสทช.เป็นบทบาทใหม่ที่เราจะต้องพิสูจน์การทำงานของเราต่อไปในอนาคต

สาวเก่งทั้ง 10 ที่ได้รับคัดเลือกจะขึ้นรับรางวัลฯในงาน “คอนเสิร์ตมหากุศล 32 ปี แพรวแชริตี้” ในวันที่ 7 ต.ค.ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ในวันนั้นช่วงบ่ายจัดบูธขายสินค้าแบรนด์เนมจากเซเลบริตีี้ ช่วงค่ำมีการแสดงคอนเสิร์ตมหากุศลจากศิลปิน, นักแสดงชื่อดัง ที่เซ็นเตอร์พ้อยท์ เพลย์เฮ้าส์ ชั้น 8 โดยรายได้ทั้งหมดของงานนี้จะสมทบทุนเข้ากองทุนแพรวแชริตี้เพื่อช่วยเหลือ สังคมต่อไป.