เรื่องราวของความ "สวยงาม" เป็นเรื่องที่สำคัญสำหรับ "ผู้หญิง" ทุกคน ไม่ว่าจะเริ่มต้นที่การดูแลสุขภาพ โภชนาการ อาหารเสริม ลดน้ำหนัก รวมไปถึงการแต่งหน้า บำรุงผิว จนถึงขั้นเปลี่ยนโฉมด้วยการศัลยกรรม ทุกอย่างล้วนเกิดจากความต้องการที่จะสวยในแบบของตัวเองทั้งนั้น ขณะที่การแพทย์และเทคโนโลยีก็ถูกพัฒนาไปไกล ชนิดที่ได้เรียกว่า...ความสวยยุคนี้ แทบจะเสกได้ดั่งใจจริงๆ 

"แพทย์หญิงณัฐชญา ไมตรีเวช" หนึ่งในผู้หญิงเก่ง ที่เกี่ยวข้องอยู่กับความสวยความงามมาตลอด เป็นหนึ่งในผู้หญิงแกร่งที่เราอยากคุยด้วย Thairath Women มีโอกาสได้บุกบ้านเธอ พร้อมกับพูดคุยกันแบบสบายๆ ถึงทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับผู้หญิง โดยเฉพาะความสวยความงาม ซึ่งงานนี้ได้บุกไปยังห้องแล็บ เพื่อล้วงสูตรเด็ดในการทำสบู่มาฝากสาวๆ ด้วย แต่ก่อนอื่นเราไปรู้จักเธอพร้อมๆ กัน

...

ประวัติ

"ณัฐชญา ไมตรีเวช" เรียนจบเกียรตินิยมอันดับ 1 ด้านแพทยศาสตร์ สาขากุมารแพทย์และเวชศาสตร์ฉุกเฉิน (ER) หลังเรียนจบก็ทำงานเป็นคุณหมอเด็กให้กับโรงพยาบาลรัฐบาลแห่งหนึ่ง ด้วยความที่รักเด็ก ซึ่งก็ทำควบคู่ไปกับงานเวชศาสตร์ฉุกเฉินที่ศึกษาเพิ่มเติมด้วย จนวันหนึ่งได้มีโอกาสทำงานที่เกี่ยวข้องกับความสวยงาม ทำให้เธอได้ซึมซับและเรียนรู้มากขึ้น

คัมภีร์แห่งความรู้

ด้วยความที่อยากรู้อะไร ก็ต้องรู้ให้ได้ เธอจึงไปหาหนังสือมาศึกษาเพิ่มเติม ไม่ใช่แต่เรื่องนี้เท่านั้น เรื่องธรรมะ ศาสนา ภาษา การเงิน โภชนาการ สมุนไพร หรือเรื่องอะไรก็ตามแต่ เมื่อเธอสนใจแล้ว ก็ต้องไปหาคำตอบจากหนังสือ จึงไม่แปลกที่บ้านบริเวณชั้น 2 ของเธอ จึงเต็มไปด้วยตู้ที่มีหนังสืออยู่เต็มพื้นที่

จนกลายเป็นแพทย์ทางเลือก ธรรมชาติบำบัด

วันเวลาผ่านไป วันนี้เธอได้กลายเป็นตัวแทนของแพทย์ทางเลือก แถมยังศึกษาแพทย์แผนไทย-จีน และสมุนไพรต่างๆ ด้วย ควบคู่กับเป็นคุณหมอด้านความงาม สู่การใช้ธรรมชาติบำบัด

จุดเริ่มต้น...

เรารู้สึกว่า...การแพทย์ปัจจุบัน ยังไม่ตอบโจทย์ทุกปัญหา ในส่วนของเรื่องการผ่าตัดต่างๆ ซึ่งเราก็มองว่ามันดีมาก แต่มีเรื่องของโรคเรื้อรัง กลับมองว่า การรักษาอย่างเดียว มันไม่ตอบโจทย์ อย่างเช่น เบาหวาน ความดัน คอเลสเตอรอลสูง พวกนี้ต้องป้องกันและดูแลสุขภาพ เพราะถ้ายิ่งกินยาเข้าไป ผลก็จะไปอยู่ที่ตับหรือไต บางคนไตวาย ก็เลยมานั่งคิดว่า...การกินยาจริงๆ แล้วมันช่วยจริงมั้ย? ซึ่งมันก็ไม่ใช่!

จุดเปลี่ยน...

จุดเปลี่ยนมันอยู่ตรงที่สามี คือคุณดังตฤณ หรือ "ศรันย์ ไมตรีเวช" นักเขียนธรรมะ ได้ป่วยเป็นโรคหัวใจตีบ โดยเค้าจำเป็นต้องรักษาด้วยการใส่สเต็นท์ (อุปกรณ์ถ่างหรือขยายหลอดเลือด) แต่ตัวเค้าไม่อยากใส่ เพราะมันต้องกินยาไปหลายตัวตลอดชีวิต ด้วยการกินยามันมีผลทำให้เกิดอาการเวียนหัวอยู่ตลอด และใช้ชีวิตไม่ปกติ และขับรถไม่ได้ เค้าก็เลยตัดสินใจไม่ใส่ดีกว่า เราก็เลยคิดว่า...แพทย์แผนปัจจุบัน ยังไม่ใช่คำตอบจริงๆ สำหรับเรา ก็เลยไปศึกษาเกี่ยวกับแพทย์ทางเลือก ธรรมชาติบำบัด แพทย์แผนไทย แพทย์แผนจีน และอีกหลายๆ อย่างเพื่อรักษาโรคที่สามีเป็น ซึ่งวันนี้ก็ดีขึ้น

...

ธรรมชาติบำบัด

การที่เราได้อยู่กับธรรมชาติ หรือสิ่งที่ไม่ปรุงแต่ง ไม่มีมลพิษ ทำให้เราได้ดีท็อกร่างกายและจิตใจ มันก็มีทั้งได้ผลและไม่ได้ผล ขณะที่บางคนเสียเงินเป็นแสนๆ ก็ยอมรักษาด้วยแพทย์ทางเลือก ถึงแม้ตอนนี้มันยังไม่มีงานวิจัยมารองรับก็ตาม

เทรนด์การรักษา

ตอนนี้ทั่วโลกให้ความสนใจกับการปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิต โดยมุ่งไปที่การมี "สุขภาพดี" ไม่ใช่ที่การ "รักษา" แต่การดูแลตัวเองนั้นก็สำคัญ สำหรบคนที่เป็นโรคแล้ว เช่น บางคนเป็นเบาหวานใหม่ๆ เราให้เค้าลดน้ำหนัก นอนแต่หัวค่ำ อาการเบาหวานหายไปก็มี ทั้งๆ ที่แพทย์แผนปัจจุบันบอกว่า สมัยก่อนเป็นเบาหวานไม่มีทางหาย แต่พอเป็นว่าเค้าปรับการใช้ชีวิตของเค้าแล้ว มันดีขี้น อะไรที่เป็นระยะต้นๆ หรือไม่รุนแรง มันมีสิทธิ์ที่จะหายได้ ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่า เราจะปฏิเสธการรักษาแผนปัจจุบันนะ เราก็ใช้ได้ เราก็เอาข้อดีของแต่ละจุดมารวมกัน

เปิดใจ ก็อาจหายได้

มันไม่ใช่การโทษแพทย์แผนไหนว่าไม่ดี หลอกลวง แค่เราเปลี่ยนมุมมอง คือถ้าเราเปิดใจ มันได้อะไรมากกว่าแน่นอน การเลือกสิ่งที่ดีมาใช้ ถ้าเราคิดว่าเราทำได้ เราได้ลองทำ คือหมอไม่ได้เก่งและรู้ทุกเรื่องบนโลก ทุกคนมันต้องเรียนรู้ไปเรื่อยๆ ทุกอย่างมันมีข้อดีและข้อเสีย และไม่ใช่ว่าทุกคนจะใช้มันแล้วได้ผลนะคะ เพียงแต่เราต้องลองเปิดใจ การที่เราจะเลือกอะไรให้เค้า เราต้องรู้ว่าร่างกายเค้าเหมาะกับอะไร ถ้าไม่ดีก็หยุด ถ้าดีก็ทำต่อไป คือเราไม่โกหก เรื่องนี้สำคัญที่สุด!

...

ก็แค่ดูแลตัวเอง!

ทุกวันนี้สามีก็ไม่ได้ใส่สเต็นท์ที่หัวใจ ตอนนั้นเราร้องไห้หนักมาก ที่เค้าไม่ยอมใส่ แต่ตอนนี้คิดไปคิดมา มันขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองแค่นั้นเอง การปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตแค่นั้น การกินอาหารที่ดีมีประโยชน์ ออกกำลังกาย ดื่มน้ำเยอะๆ ใช้สมุนไพรช่วย อย่างสามีเราเนี่ย เค้าเส้นเลือดตีบ มีคราบไขมันเกาะเส้นเลือด แล้วก็ลงทุนซื้อเครื่องอัลตราซาวนด์มาตรวจคอเค้าเลย ว่ามันบางลงมั้ย เราก็ทำสูตรยาให้เค้าดื่มทุกวัน ปรากฏว่ามันบางลง ตอนนี้ก็เลยแบ่งปันคนที่เป็นเหมือนกัน

...

ย้อนกลับไป ก่อนจะมาเป็นกูรูด้านความงาม

เนื่องจากคุณพ่อคุณแม่เราเป็นหนี้เยอะมาก พอเราเรียนจบ เราก็ต้องหารายได้เพิ่ม จนเจอพี่เค้าใจดี ให้เราไปช่วยที่คลินิกค่ะ เป็นลูกจ้างคุณหมอ ที่อยู่ตามคลินิกความสวยความงาม ถามว่าดีมั้ยมันก็ดีนะคะ แต่ด้วยความที่เป็นลูกจ้าง เราไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจในการเลือกโปรดักส์ที่ใช้รักษา ว่าเราอยากจ่ายยาตัวไหนให้ลูกค้า มันมีข้อจำกัด แต่ก็ต้องขอบคุณคลินิกความงามนะ เพราะคลินิกความงามนี่แหละ ที่เปิดประตูให้เราก้าวมาสู่แพทย์ทางเลือก ถ้าเราไม่มีหนี้ ไม่รับจ๊อบเสริม เราจะไม่รู้เลยว่ามันมีด้านดีอยู่

ไลฟ์สไตล์ส่วนตัว

ทุกวันนี้ก็ทำงานที่คลินิก และเป็นแม่บ้านดูแลลูก ดูแลสามี บ้านหลังนี้ก็เป็นบ้านของครอบครัวอยู่กัน 3 คน ซึ่งเป็นบ้าน 2 ชั้น 3 ห้องนอน ที่นี่ค่อนข้างกว้างติดทะเลสาบ เรารู้สึกว่าอยู่แล้ว ถ้าสายตาของเราได้มองอะไรที่กว้าง ใจเราก็กว้างไปด้วย มันคิดอะไรดีๆ ได้มากกว่า กลับกันกับตอนที่เราอยู่ในห้องแคบๆ มันอึดอัด เหมือนหลักฮวงจุ้ยที่ว่า ถ้าอยู่ที่ไหนแล้วรู้สึกดี รู้สึกเปิด นั่นคือฮวงจุ้ยดี เรียกว่าเป็น "บ้านในฝัน" ของเราเลย

ไฮไลต์ของบ้าน = ห้องแล็บ

ก็มีห้องทั่วๆ ไป แต่บ้านนี้มีห้องพิเศษคือห้องแล็บส่วนตัว เพราะรู้สึกชอบและอยากทำอะไรดีๆ ไว้ใช้กับตัวเอง คือโดยปกติบางที ก็จะทำน้ำมันทาสิว ทำแจกให้คนสนิทซะส่วนใหญ่ ปรากฏว่า...พอเค้าเอาไปใช้ สิวมันหาย หน้าดีขึ้น เราก็แฮปปี้ ทำสบู่ก็มี ครีมอาบน้ำก็ทำ เราชอบส่วนตัวด้วย เวลาที่เราคิดเราทำ เราใช้โปรดักส์ที่มีสารสกัดดี เราคัดแล้ว ยกตัวอย่าง หลานสาวเรา ขวบกว่าๆ เป็นเด็กผู้หญิงผิวแห้ง เราก็ทำครีมอาบน้ำให้ ใช้ไปไม่ถึงอาทิตย์ ผิวแห้งเค้าหายหมด ผิวแข็งแรงเลย

ความชื่นชอบ

ชื่นชอบมาก คือก่อนเราจะทำพวกนี้ เราก็มีการไปเรียนเสริมค่ะ ไปเรียนตั้งแต่การกวนครีม ทำครีม เรียนรู้ทุกเรื่อง เรื่องอาหารเสริมก็เรียนนะ คือด้วยความที่เราเป็นคนชอบทำให้คนอื่นสวยมากกว่า มันเหมือนกับการ์ตูนเรื่องซินเดอเรลล่า ตัวเราไม่อยากเป็นซินเดอเรลล่าหรอก แต่อยากเป็น "นางฟ้า" ที่เสกให้คนอื่นสวย ยิ่งเห็นยิ่งภูมิใจค่ะ

ความสวย ที่เราเลือกเอง

อย่างที่บ้านเนี่ย เราก็ทำใช้เองนะคะ ในห้องน้ำจะมีขวดเล็กๆ เต็มไปหมด ส่วนใหญ่จะเป็นทำสบู่ ยาสระผม ครีมบำรุงใช้เองค่ะ เราก็คิดสูตรนั้นสูตรนี้ ให้คนในบ้านทุกคนใช้ เพราะบางทีเราใช้ของที่คนอื่นทำ เราไม่รู้เค้าใส่อะไรบ้าง ดีมากน้อยแค่ไหน เลยทำเอง คือมันสบายใจกว่าเวลาที่ใช้

สายบุญ-ห้องพระ

ห้องพระ เป็นห้องที่ต้องเข้ามาทุกวันค่ะ ก่อนนอนจะนั่งสมาธิ สวดมนต์กับสามีและลูก มันเป็นช่วงเวลาที่ดีของครอบครัวมากๆ เหมือนเราได้ทำอะไรดีๆ ร่วมกัน บางทีก็จะมีการนั่งพูดคุยเรื่องราวของแต่ละคน ที่เกิดขึ้นในแต่ละวันกันค่ะ ถามว่าเวลาไปพักผ่อน ส่วนใหญ่ก็จะไปงานบุญค่ะ เรามีมูลนิธิของเราเอง สามีเป็นคนก่อตั้ง ชื่อ "มูลนิธิบูรณพุทธ" คอยช่วยเจาะน้ำบาดาลให้วัดทั่วประเทศ หรือบางทีก็สร้างเมรุเผาศพให้ ช่วยสร้างโรงเรียนให้ชาวเขา เราเชื่อว่า...เพราะชีวิตเราต้องสมดุล เราต้องทำเพื่อคนอื่นบ้างค่ะ

ข้อคิดดีๆ 

จริงๆ เราเป็นคนที่ชอบทำอะไรแล้วมันต้องดี เราเชื่อมั่นว่าทำดีต้องได้ดี ไม่ทำให้ใครเดือดร้อน คนที่ได้รับจากเรา เค้าก็รู้สึกดี คิดแค่ว่า...เราส่งพลังงานที่ดีออกไปข้างนอก จริงๆ ข้อเสียของผู้หญิงอย่างนึงคือ ชอบคร่ำครวญ ว่าทำไมต้องเจออะไรแบบนี้ ทำไมต้องซวยแบบนี้ ถ้ามองใหม่ ถ้าเราอยากเจออะไรดีๆ เราก็ส่งพลังบวกออกไปสิ อยากมีแฟนดีๆ สักคน แต่ไปหาในผับ ดื่มเหล้า แฟนดีๆ มันก็ไม่เจอ คือเราทำแบบไหน เราก็ได้แบบนั้น อย่างเราเป็นคนคิดเยอะ สมัยก่อนเจอปัญหา เราคิดเป็นวันเลยนะ ตอนนี้พอเจอปัญหา อย่างเดียวที่ต้องทำคือ "แก้" อย่าจม หาทางออก ทำอะไรได้บ้างก็ไป แล้วไปลุยงานอื่น เพราะวันนึงไม่ได้มีปัญหาเดียว ถ้าแก้ปัญหาเป็น เราจะไม่ทุกข์จากปัญหา

เคล็ดลับหน้าเด็ก

ตอนนี้อายุ 41 ปี ย่าง 42 ปีแล้วค่ะ ที่ดูหน้าเด็กพูดตามตรงไม่โกหก ส่วนนึงมาจากกรรมพันธุ์เราด้วย คือพ่อแม่เราหน้าเด็กมาก อีกส่วนคือ เรื่องการใช้ชีวิต เรื่องอารมณ์ดี เราเป็นคนหัวเราะง่าย นอกจากนั้นการดูแลตัวเอง การเลือกใช้ของดีๆ สิ่งดีๆ ให้กับตัวเอง ผู้หญิงหลายคนชอบคิดว่า...แก่แล้วแก่เลย จริงๆ แล้วมันไม่ใช่ แก่แล้วก็ต้องเด็กได้ อยู่ที่การ "ดูแลตัวเอง" ค่ะ

ฝากถึงสาวๆ

1. เรื่องความคิด "คิดดี" ไว้ก่อนเลยค่ะ โลกสวยไว้ก่อน อะไรที่ไม่ดี ไม่ต้องเก็บมาใส่ใจ
2. เรื่องการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ ไม่ต้องเห่อ ใช้ของมั่ว ไม่ใช่ว่าทุกอย่างจะใช้กับร่างกายเราได้ ควรศึกษาหาข้อมูลให้ดีก่อน มีข้อมูลแล้วก็ต้องเลือกให้ดี

สูตรทำสบู่

คุยกันไปมา บอกคุณหมอ ไปทำสบู่ฝากสาวๆ ไทยรัฐหน่อย นางก็ไม่หวงสูตรเลยจ้า เปิดแล็บตั้งไฟ ได้สบู่มา 1 ก้อน มาจ้า มาดูขั้นตอนการทำ "สบู่อโลเวร่า" เลย

1. ละลายสบู่ก้อนกลีเซอรีน เกรดพรีเมียม ไม่ระคายเคือง
2. ตั้งน้ำร้อน ห้ามนำสบู่เทใส่น้ำร้อนเลย ต้องมีภาชนะรอง
3. สารก่อฟองสบู่เด็ก โคคามิโด โพรพิว บีเทน ไม่ระคายเคือง
4. น้ำหอม เลือกกลิ่นซัมเมอร์นิดๆ
5. สีผสมอาหาร
6. วิตามินอี บำรุงผิว
7. สารสกัดใบบัวบก
8. เทใส่แป้นพิมพ์
9. รอให้เย็น แกะออก นำไปใช้เลยจ้า

เรื่องของ "ผู้หญิง" ก็มีประมาณนี้ เชื่อว่าหลายเรื่อง...ผู้ชายอาจไม่เข้าใจ แต่หลายเรื่อง สาวๆ Thairath Women สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างแน่นอน เพราะแง่คิดดีๆ มักซ่อนอยู่ในตัวหนังสือเสมอ เช่นเดียวกับคุณหมอ "แพทย์ทางเลือก" ที่จะสวยในแบบที่...ผู้หญิงเลือกเอง!

ติดตามอ่านเรื่องราวเกี่ยวกับ "ผู้หญิง" ได้ที่นี่ ไลฟ์สไตล์ไทยรัฐ.

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ.