หลายคนมองว่าเป็นเรื่องไกลตัวพอสมควรเลยนะคะ...ที่เราจะมานั่งดูเพชรดูพลอยออกว่าอันไหนของแท้อันไหนของเทียม อันนี้น้ำใสอันนี้น้ำขุ่นสีไม่ชัด และเป็นการยากจริงๆ ที่เราจะตัดสินใจซื้อแหวนเพชร กำไลเพชร สร้อยคอเพชรสักเส้น โดยที่เราไม่รู้อะไรเลย...
วันนี้ ไลฟ์สไตล์ไทยรัฐ จะมาแนะนำวิธีการดูเพชรง่ายๆ จากกูรู ผู้เชี่ยวชาญจาก ออโรร่าไดมอนด์ ที่ได้ให้ความรู้กับเราถึงวิธีการดูเพชร เพราะหากเราเป็นผู้หญิงหนึ่งคนที่กำลังจะเลือกซื้อเครื่องประดับอย่างเพชรให้กับตัวเองสักชิ้นนั้นต้องดูที่อะไรบ้าง? โดยผู้เชี่ยวชาญบอกกับเราว่า นอกจาก 3 ข้อที่ให้มาแล้ว ความน่าเชื่อถือจากแบรนด์ก็มีส่วนสำคัญในการที่เราจะตัดสินใจนะคะ
สิ่งที่ผู้ซื้อจะต้องรู้คือ....
1. สีของเพชร
ระดับสีของเพชรนั้นจะถูกแบ่งตามตัวอักษรภาษาอังกฤษที่เริ่มตั้งแต่ D Color ซึ่งเทียบเท่ากับน้ำ 100 จะเป็นสีที่ขาวใส ไม่มีสีอื่นเจือปน ไปจนถึง Z Color คือสีที่ค่อนข้างเหลือง ฉะนั้นเพชรที่สีขาวใสก็จะมีมูลค่าสูงกว่า โดยความขาวของเพชรนั้นสามารถดูได้ด้วยตาเปล่า ด้วยเทคนิคง่ายๆ คือ 'ให้วางเพชรลงบนกระดาษสีขาว จะช่วยให้เห็นสีของเพชรได้ง่ายขึ้นนั่นเองค่ะ' ขาวไม่ขาวดูกันให้รู้ไปเลย
...
2. ระดับความสะอาดของเพชร
มีตั้งแต่เพชรที่สะอาดหมดจดไม่มีตำหนิเลย ไปจนถึงมีตำหนิมาก ซึ่งค่อนข้างจะส่งผลต่อราคา โดยเพชรที่ไม่มีตำหนิเลยนั้นจะเป็นเพชรที่มีราคาค่อนข้างสูง แต่หากมีตำหนิเพียงเล็กน้อย ส่วนใหญ่ก็จะพบอยู่ในเนื้อเพชร ซึ่งหากจะให้ดีควรเลือกเพชรที่มีตำหนิเป็นสีขาวเพราะจะทำให้มองเห็นได้ยาก โดยระดับความสะอาดที่นิยมของเพชรในเมืองไทยจะเป็นเพชรมีตำหนิที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า เพราะจะราคาไม่สูงมาก และคุ้มค่ากับการลงทุน
อ้อ...สัดส่วนการเจียระไน ซึ่งจะส่งผลต่อความสวยงามและการเล่นแสงของไฟ โดยรูปทรงที่ได้รับความนิยมสูงสุดคือเพชรทรงกลม เนื่องจากเมื่อเจียระไนออกมาแล้วจะสวยและเล่นไฟวิบวับที่สุด
3. น้ำหนักเพชร
ซึ่งหน่วยที่ใช้ในการชั่งน้ำหนักเพชรคือ ‘กะรัต’ เป็นปัจจัยสำคัญที่จะมีผลต่อราคาของเพชร เพราะเพชรที่มีขนาดใหญ่ ราคาก็จะสูงขึ้นเรื่อยๆ แต่ถ้าเป็นเพชรที่มีน้ำหนักเท่ากันก็ต้องพิจารณาจากปัจจัยข้างต้นประกอบไปด้วย
คุณสาวๆ ต้องมั่นใจนะคะ ว่าการเลือกเพชรของเรา มั่นใจถูกต้องและตรงใจเรา นั่นหมายถึงการสวมใส่ในชีวิตประจำวันได้ตามต้องการ มีมาตรฐานทุกการตัดสินใจจะช่วยให้คุณสาวๆ สนุกในการดูเพชรมากยิ่งขึ้นไปอีกค่ะ.....