ยังจำกันได้มั้ย ช่วงที่เรา “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” ระหว่างที่รัฐบาลประกาศล็อกดาวน์ทั่วประเทศร่วม 3 เดือน ทั้งภาครัฐและเอกชนให้ “WORK FROM HOME” ทำงานจากบ้าน ห้างสรรพสินค้าถูกปิด ร้านอาหารทำได้เพียงสั่งนำกลับไปทานที่บ้าน ร้านสะดวกซื้อที่เราเคยเข้า-ออกกันได้ตลอด 24 ชั่วโมง ถูกจำกัดเวลาปิด-เปิด

เกิดคำขวัญขึ้นมากระตุ้น เตือน กันมากมาย ตั้งแต่ “ล้างมือ กินร้อน ช้อนกลาง” พอโควิด-19 ระบาดหนักเข้าถึงกับต้องเปลี่ยนเป็น “ล้างมือ กินร้อน ช้อนตรู แยกกันเราอยู่ รวมหมู่เราป่วย”

แถมยังมีโพสต์แก้เซ็งระหว่างการกักตัวเรียกยอดไลค์ อาทิ “ไวรัสก็ระแวง แฟนก็ไม่มี” “พิเศษใส่ไข่ ใส่ใจต้องใส่ MASK” “ตรวจแล้วไม่มีไข้ แล้วก็ไม่มีใครด้วย” “โควิด-19 มันน่ากลัว อยากกักตัวที่ห้องเธอ” “อยู่บ้านเงียบ ๆ น้ำหนักขึ้นเพียบเลยนะครับ” เรียกเสียงฮา รอยยิ้มกันไป

ช่วงเวลาดังกล่าว กิจกรรมทุกอย่างแทบหยุดชะงัก คนหยุดเดินทางท่องเที่ยว แต่ก็มีสิ่งดี ๆ มาให้เห็นและชื่นใจ นั่นคือ “ธรรมชาติ” เองก็มีโอกาส WORK FROM HEART ซ่อมสร้างตัวเอง เพื่อเตรียมพร้อมต้อนรับการกลับมาของนักท่องเที่ยว

บ้านของสัตว์ ไม่ว่าบนบก ในน้ำ หรือในป่า กลับมาเป็นของพวกเขาอย่างภาคภูมิ ลองมาไล่เรียง ย้อนความจำกันอีกครั้งว่าในช่วงระหว่างนั้น สิ่งใดที่ออกมาสร้างรอยยิ้มที่มุมปากให้มนุษย์ที่หยุดอยู่บ้านมีความสุขขึ้นมา

เต่ามะเฟืองขึ้นวางไข่ อุทยานแห่งชาติทางทะเลที่ 2 จ.ภูเก็ต
ภาพโดย : หฤษฏ์ชัย ฤทธิ์ช่วย

วันที่ 26 มีนาคม 2563 ช่วงหัวค่ำจนถึงเที่ยงคืน ลูกเต่ามะเฟืองค่อยๆ ทยอยขึ้นมาจากหลุมที่แม่เต่ามะเฟืองเพาะฟักไว้ตามธรรมชาติ และเดินกลับลงสู่ทะเล ที่อุทยานแห่งชาติเขาลำปี-หาดท้ายเหมือง จ.ภูเก็ต รวมเวลาจากนั้น 2 วัน มีลูกเต่าเดินลงสู่ทะเลไป 26 ตัว เจ้าหน้าที่อุทยานฯ แจ้งว่า รังนี้เป็นรังที่ 8 จากทั้งหมด 11 รัง ที่พบแม่เต่าขึ้นวางไข่ที่ชายหาดหน้าวิทยาลัยการอาชีพท้ายเหมือง

ต่อมาวันที่ 4 เมษายน 2563 อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด ออกมาแจกความสดใสกับภาพกระชังเต่าตนุ ซึ่งแม่เต่าได้ขึ้นมาวางไข่บริเวณเกาะกุฎี ช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2563 หลังจากลูกเต่าฟักออกมา ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการอนุบาลลูกเต่าในบ่อ ก่อนปล่อยกลับคืนสู่ธรรมชาติ

ค่างแว่นคู่แฝด “น้องโควิด” และ “น้องไนน์ทีน” อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง
ภาพโดย : ธนากร ศรีจันทร์โฉม

ทางด้านอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง ช่วงปราศจากนักท่องเที่ยว ในวันที่ 7 เมษายน 2563 ปรากฏภาพชีวิตสวยงามแสนอบอุ่นของครอบครัวค่างแว่นถิ่นใต้ ออกจากป่า อุ้มลูกน้อยฝาแฝดสีทองออกมาเดิน นั่ง นอนเล่นกลางสนามหญ้าหน้าศูนย์บริการนักท่องเที่ยวอย่างสนุกสนาน

เลียงผา แห่งผาเดียวดาย
ภาพโดย : เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่

ขณะที่ในวันที่ 16 เมษายน 2563 เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ได้อวดภาพเลียงผา 1 ใน 19 ชนิด สัตว์ป่าสงวนของประเทศไทย ออกมานอนทอดกาย รับสายลมแสงแดดอย่างสบายใจบริเวณผาเดียวดาย

ฝูงโลมาปากขวดประมาณ 100 ตัว แหวกว่ายอวดโฉมบริเวณใกล้เกาะบอน
ภาพโดย : เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน

และแล้วในช่วงเช้าวันที่ 17 เมษายน 2563 ก็ถึงเวลาที่ฝูงฉลามหูดำกว่า 20 ตัว โผล่เล่นน้ำหน้าหาดเกาะตาชัย บนพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน แสดงความเป็นเจ้าถิ่นแห่งท้องทะเลกันบ้าง บอกไว้ก่อนน้อง ๆ กลุ่มนี้มีนิสัยไม่ดุร้ายเมื่อเทียบกับปลาฉลามชนิดอื่น ๆ แต่ถ้าถึงเวลาโตเต็มที่จะมีขนาดถึง 2 เมตรทีเดียว

บนท้องทะเลของจังหวัดตรังก็ไม้แพ้กัน เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2563 ศูนย์ปฏิบัติการอุทยานแห่งชาติทางทะเลที่ 3 จังหวัดตรัง เผยภาพมุมสูงของฝูงพะยูนประมาณ 30 ตัว บริเวณแหลมจูโหย เขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง

จากนั้นวันที่ 28 เมษายน 2563 ระหว่างการเดินทางบนท้องทะเลของเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน ได้พบฝูงโลมาปากขวดกว่า 50 ตัว ออกมาโชว์ว่ายเล่นน้ำอย่างร่าเริง และเข้ามาทักทายเจ้าหน้าที่อย่างใกล้ชิด และต้องบอกว่าท้องทะเลแถบนี้อุดมสมบูรณ์มาก ในวันที่ 4 พฤษภาคม 2563 เจ้าหน้าที่อุทยานฯ ได้ตื่นตา ตื่นใจ อีกครั้งเมื่อได้พบกับฝูงโลมาปากขวดประมาณ 100 ตัว แหวกว่ายอวดโฉมบริเวณใกล้เกาะบอน

ธรรมชาติในยามที่นักท่องเที่ยวถูกกักตัวอยู่บ้านอวดความสมบูรณ์ไม่ยอดหยุด ในวันที่ 28 กรกฎาคม 2563 แม่เต่ามะเฟืองได้ขึ้นมาวางไข่บนหาดของเกาะภูเก็ตอีกครั้งใช้เวลาร่วม 2 ชั่วโมง ก่อนกลับลงสู่ท้องทะเล

เหล่านี้เป็นภาพจำ ทำให้เรา “คิดถึง” ธรรมชาติ “คิดถึง” แหล่งท่องเที่ยว มาถึงตอนนี้คนไทยเริ่มออกเดินทางท่องเที่ยวในประเทศได้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ออกแคมเปญ “คิด…แล้วไปให้ถึง” สร้างบรรยากาศการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง

แต่สิ่งหนึ่งที่ ททท.บอกไว้กับคนไทย เราได้ธรรมชาติที่ได้รับการฟื้นฟูกลับมาแล้ว ห้วงเวลานี้ คือโอกาสอันยิ่งใหญ่ที่จะใช้หัวใจ สมอง สองมือ ของเราช่วยกันยกระดับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไปสู่ความยั่งยืน และการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ เพื่อรักษาแหล่งท่องเที่ยวอันสวยงามให้คงอยู่คู่ประเทศไทยตลอดไป