ก่อนโควิดจะทำสงครามขยายไปทั่วโลก เราได้มีโอกาสร่วมทริปกับ 4 เชฟชื่อดังจากอเมริกาและออสเตรเลีย รวมทั้งบรรณาธิการข่าวและช่างภาพจาก นิตยสารกรูเมต์ เทรเวลเลอร์ ของออสเตรเลีย ที่เดินทางมาศึกษาการทำอาหารและวัฒนธรรมไทย

ว่าไปแล้วก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ที่บรรดาเชฟคนดัง ไม่ว่าจะเป็น เชฟ Andy จากโอเรกอน, เชฟ Lenox, เชฟ Nic Wong จากซิดนีย์ และ เชฟ Ben จากบริสเบน ซึ่งถือว่าเป็นคนดังในวงการอาหารระดับโลก โดยแต่ละคนมีผู้ติดตามในอินสตาแกรมนับแสน จะได้มารวมตัวกันในเมืองไทย ที่มีวัฒนธรรมด้านอาหารหลากหลาย จนได้รับการยกย่องว่าเป็นครัวของโลก

โหมโรงทริปสุดพิเศษคราวนี้ กันที่ ตลาดดอนหวาย อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม ซึ่งทันทีที่ไปเห็น ผัก ผลไม้สดๆจากสวน ที่พ่อค้าแม่ค้านำมาวางขายในตลาด บรรดาเชฟ บรรณาธิการ ช่างภาพ ฝรั่งต่างตื่นเต้น ตื่นตา ตื่นใจ ถึงกับเอ่ยปากว่า ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีความอุดมสมบูรณ์ของข้าวปลาอาหารเป็นอย่างยิ่ง

โดยนอกจากจะได้ชิมอาหารอร่อยๆอย่างก๋วยเตี๋ยวเป็ดและเป็ดพะโล้ ชื่อดัง นายหนับแล้วบรรดาเชฟยังชื่นชอบกับขนมไทยรสละมุนสารพัดชนิด ทั้งไอศกรีมกะทิ แบบกะทิล้วนๆเน้นๆ ไปจนถึงขนมตาลป้าไข่...ที่ร่ำลือถึงความอร่อยไปมากว่า 7 ย่านน้ำ

...

ออกจากตลาดดอนหวาย มุ่งหน้าสู่ เตาน้ำตาลทวีศักดิ์ ที่บ้านปลายโพงพาง อ.แม่กลอง สมุทรสงคราม ทั้งฝรั่ง ทั้งไทย ตื่นเต้นกับการทำน้ำตาลมะพร้าวแบบ real real เริ่มจากนำน้ำจากงวงมะพร้าวมาเคี่ยวบนไม้ฟืน ซึ่งต้องใช้เวลาเคี่ยวนานถึง 4 ชั่วโมง แล้วนำมาตีด้วยไม้วีจนจับตัวเป็นเนื้อเดียวกัน ทำให้ได้น้ำตาลมะพร้าวที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

งานนี้เจ้าของเตาน้ำตาลสาธิตกันตั้งแต่การปาดงวงมะพร้าวจนการนำน้ำมาเคี่ยว ด้วยความตื่นตาตื่นใจและยังได้ทดลองเคี่ยวน้ำตาลมะพร้าวเองด้วย รวมทั้งชิมกล้วยน้ำว้าเชื่อมจากน้ำตาลมะพร้าวที่อร่อยสุดๆ เรียกความประทับใจตั้งแต่เพิ่งออกจาก กทม. กันเลยละ

คุณยายเจ้าของเตาตาลบอกว่า ยึดอาชีพทำน้ำตาลมะพร้าวมาตั้งแต่รุ่นปู่ย่า ตายาย ถึงปัจจุบันก็ประมาณ 100 ปี ไม่เคยละทิ้งอาชีพนี้แม้จะได้เงินไม่มาก แต่ก็ทำจนสามารถสร้างครอบครัว มีเงินเก็บ และทรัพย์สินให้ลูกหลานได้ ปัจจุบันลูกชาย คือคุณทวีศักดิ์เป็นผู้สืบทอดกิจการ มีร้านขนมชื่อดังของเชียงใหม่ คือ ร้านหวานละมุน เป็นลูกค้านำน้ำตาลมะพร้าวจากที่นี่ไปทำขนมขาย เพราะน้ำตาลมะพร้าวแท้ๆทำอะไรก็อร่อย

เสร็จจากชมสาธิตการทำน้ำตาลมะพร้าว เหล่าเชฟถึงกับอุทานว่า So Amazing จริงๆ

ใกล้เที่ยงทั้งไทย ทั้งฝรั่งเริ่มหิว ก็ต้องหาของกินแบบอะเมซิ่งให้ฝรั่งชมกันอีก งานนี้เลือก ร้านกินกับก้อย โดยก้อย มหาชัยซีฟู้ดส์ ร้านอยู่ริมทะเลกระซ้าขาว ย่านมหาชัย สมุทรสาคร ซึ่งต้องขับรถย้อนกลับมาอีกราว 40 กม. แต่เอาเถอะงานนี้ได้หน้าโชว์ฝรั่ง...แถมเป็นเชฟฝรั่งอีก ต้องให้ได้รู้จริง รู้ลึก ว่าเมืองไทยมีของกินอร่อยขนาดไหน

...

ซึ่งก็ไม่ผิดหวัง ซีฟู้ดระดับ A+ ทั้งปูไข่ดอง ต้มยำปลาเก๋า ยำปูไข่ดอง ปลาทูฉู่ฉี่ ข้าวผัดปูไซส์ใหญ่ แกงส้มไข่ปลาเรียวเซียว บวกกับน้ำจิ้มแซ่บเว่อร์ ฝรั่งส่งเสียงซี้ดซ้าด ทั้งอร่อย ทั้งเผ็ดจนหยุดไม่อยู่ งานนี้ คุณก้อย เจ้าของร้านลงทุนเป็นเชฟกระทะเหล็กควงตะหลิวทำอาหารให้ลูกค้าด้วยตัวเอง โดยคัดกุ้ง ปู ปลา สดๆ ซิงๆ เกรดเอ+จากเรือประมงย่านมหาชัย มาปรุงให้ลูกค้ากินกันอย่างเต็มปากเต็มคำ

อิ่มแล้ว หนังท้องตึง หนังตาหย่อน ปล่อยฝรั่งนอนงีบในรถ มุ่งหน้าเพชรบุรีกินขนมหวานตบท้ายที่ ร้านขนมหวานนกน้อย ถนนดำเนินเกษม ตรงข้ามวัดมหาธาตุ อ.เมืองเพชรบุรี เจ๊แตน เจ้าของร้านรังสรรค์ขนมหวานนานาชนิด ทั้งขนมไทยสูตรโบราณหายาก อย่าง ข้าวฟ่างเปียก ซึ่งถือเป็นขนมถ้วยเอกของร้าน ขนมชงโค ที่ได้สูตรมาจากคุณยายทวด หรือ สาคูลำไย ที่สีสันสวยน่ากินด้วยดอกอัญชัน

...

เติมด้วยข้าวเหนียวหน้าต่างๆ ทั้งหน้าปลา สังขยา ประดิดประดอยใส่จานลายไทยสุดหรูมาเสิร์ฟ...ฝรั่งตื่นมา ก็ตื่นตา ตื่นใจ ถ่ายรูปไปชิมไป พร้อมยกนิ้วให้กับของกินบ้านเรา แบบน่าภาคภูมิใจ คืนนี้ เรานอนกันที่ Baba Beach Club Hua Hin by Sri panwa ของ คุณสงกรานต์ อิสสระ ลมทะเลพัดเย็นสบายทั้งวัน อาหารเช้าที่นี่ขอบอก...อร่อยม้ากกกกทุกอย่าง

แล้วก็ถึงช่วงภารกิจสำคัญ ที่ในวันนี้เหล่าเชฟจะต้องโชว์ฝีมือทำอาหารแบบคิดเมนูกันสดๆ จากวัตถุดิบคือกุ้ง หอย ปู ปลาจากตลาดประมงเขาตะเกียบ หัวหิน ที่ทุกคนล้วนสนุกสนานกับการเดินเลือกหาวัตถุดิบด้วยตัวเองและเก็บเมนูที่คิดขึ้นมาไว้เป็นความลับ ก่อนจะตรงไปที่ ไร่พลิศา ต.ทับใต้ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ไร่ผักปลอดสาร ของ น้าตุ๋ย-อมรรัตน์ จันต๊ะ เพื่อปรุงอาหารตามเมนูที่แต่ละคนคิดไว้ให้แขกวีไอพี 40 ท่าน เป็นดินเนอร์มื้อพิเศษกลางแสงจันทร์ จากฝีมือเชฟระดับโลกในบรรยากาศชาวไร่ที่มีความเป็นธรรมชาติ งานนี้เรียกว่า อิ่มจนตัวแตกกันเลยทีเดียว

ก่อนกลับคุณสงกรานต์ ในฐานะเจ้าถิ่น รับอาสาพาบรรดาเชฟไปเที่ยวชม พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน พระราชวังฤดูร้อนริมทะเล จิบชาแบบอังกฤษที่ ร้านน้ำชาพระราชนิเวศน์มฤคทายวันซึ่งใช้อาคารบ้านพักของเจ้าพระยารามราฆพ ทหารคู่ใจรัชกาลที่ 6 ห่างจากหมู่พระที่นั่งของพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน ประมาณ 600 เมตร

...

ปิดท้ายด้วยก๋วยเตี๋ยวหมูน้ำแดง เจ้าดังเพ็ญพริกเผ็ด หน้าวัดใหญ่สุวรรณาราม ถนนพงษ์สุริยา อ.เมืองเพชรบุรี ที่มีร้านเดียวไม่มีสาขาอื่นใด บอกได้คำเดียวว่า เผ็ดแต่อร่อยเริ่ด

งานนี้ บรรดาเชฟฝรั่งพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเมื่อสถานการณ์โรคระบาดคลี่คลายจะกลับมาอีกครั้ง เพราะเมืองไทยนั้น...สุดยอดส์จริงๆ.