เมื่อสัปดาห์ที่แล้วหัวหน้าทีมซอกแซกมีโอกาสติดตามผู้ใหญ่ของไทยรัฐ พร้อมด้วย คณะกรรมการมูลนิธิไทยรัฐจำนวนหนึ่งไปยังตำบลนํ้าผุด อำเภอละงู จังหวัดสตูล จังหวัดใต้สุดทางฝั่งทะเลอันดามันของประเทศไทย

เพื่อร่วมในการประชุมกับพี่น้องชาว หมู่บ้านทุ่งนางแก้ว อันเป็นที่ตั้งของ โรงเรียนบ้านนางแก้ว ที่จะเข้าร่วมในโครงการไทยรัฐวิทยา เพื่อพัฒนาชุมชนชนบทกับหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ เป็น “โรงเรียนไทยรัฐวิทยา” แห่งที่ 111 หรือ “ไทยรัฐวิทยา 111 (บ้านทุ่งนางแก้ว)” ดังที่หัวหน้าทีมเขียนเล่ารายละเอียดไว้แล้วในคอลัมน์ เหะหะพาที เมื่อวันพุธที่ผ่านมา

จังหวัดสตูลเป็นจังหวัดที่หัวหน้าทีมซอกแซก ชื่นชอบเป็นพิเศษจังหวัดหนึ่ง และในอดีตที่เคยทำหน้าที่ประสานจังหวัดต่างๆในการพัฒนาชนบทให้อยู่ดีกินดีตามนโยบายของ “ป๋าเปรม” พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ นั้น มีโอกาสแวะมาจังหวัดนี้บ่อยครั้ง

ในยุคนั้น จังหวัดต่างๆทั่วไทยเริ่มมีการ ใช้คำขวัญประจำจังหวัด เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงเอกลักษณ์และจุดเด่นสำคัญๆ ซึ่งทางสตูลก็มีคำขวัญที่อ่านปุ๊บรู้ปั๊บเลยว่า ของดีที่นี่มีอะไรบ้าง

นั่นก็คือคำขวัญที่ว่า “ตะรุเตา ไก่ดำ จำปาดะ คนใจพระ งามเลิศ เชิดสตูล” ซึ่งอ่านแล้วก็ต้องนึกถึงอุทยานแห่งชาติเกาะตะรุเตา อันสวยงามและมีประวัติศาสตร์อันยาวนานในฐานะที่กักขังนักโทษสำคัญทางการเมืองในอดีต รวมไปถึงไก่ดำที่มีเนื้อแน่นรสชาติอร่อยของจังหวัดนี้และจำปาดะผลไม้พันธุ์เดียวกับขนุนที่รสชาติหอมหวาน รับประทานแล้วติดใจ ฯลฯ

แต่ไปสตูลเที่ยวนี้พบว่าเขาเปลี่ยนคำขวัญไปเรียบร้อย สั้นลงหน่อย แต่ก็กระชับอ่านแล้วเห็นภาพลักษณ์ของสตูลเช่นกัน...ได้แก่คำขวัญที่ว่า “สตูล สงบ สะอาด ธรรมชาติบริสุทธิ์” โดนใจไปอีกแบบหนึ่ง

...

สงบมาก สะอาดมาก และธรรมชาติก็ยัง บริสุทธิ์อยู่มากๆ เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของคนรักธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นอุทยานแห่งชาติทางทะเล เกาะตะรุเตา หรือที่ เกาะหลีเป๊ะ เกาะราวี, เกาะยาง, เกาะไผ่ ฯลฯ

หัวหน้าทีมซอกแซกมีเวลาจำกัดไปเที่ยวนี้ไม่มีโอกาสไปพิสูจน์ธรรมชาติอันบริสุทธิ์ที่เอ่ยถึงเหล่านี้เลยแม้แต่แห่งเดียว แต่ยังจำได้ถึงความบริสุทธิ์ในอดีตที่เคยแวะมาเมื่อเกือบๆ 30 ปีที่แล้ว ถึง 2-3 แห่ง หวังว่าคงจะยังบริสุทธิ์อยู่เหมือนเดิม เพราะได้ข่าวว่าหน่วยราชการที่เกี่ยวข้องดูแลไว้เป็นอย่างดี

โรงแรมที่คณะของเราไปพักเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเป็นโรงแรมเล็กๆ ขนาดกะทัดรัด ตั้งอยู่ที่ ถนนสตูลธานี ต.พิมาน อ.เมือง จ.สตูล ชื่อโรงแรม เดอะวันบูติคโฮเทล ขออนุญาตเอ่ยถึงเพราะห้องพักอยู่ในเกณฑ์พักได้ อาหารเช้าอร่อยพอใช้ มีให้เลือกเยอะ และที่หัวหน้าทีมชอบเป็นพิเศษก็คือ ข้าวเหนียวหน้าต่างๆ ห่อใบตองวางเรียงเอาไว้เต็มถาด

เห็นแล้วก็นึกถึงตอนเด็กๆ เมื่อครั้งอยู่ที่อำเภอบรรพตพิสัย จังหวัดนครสวรรค์ เวลาแม่ไปจ่ายตลาดตอนเช้าจะหิ้วข้าวเหนียวหน้าสังขยาบ้าง หน้าปลาแห้งบ้าง ห่อใบตอง กลัดไม้กลัดอย่างดีมาฝากพวกเราลูกๆทุกวัน จนข้าวเหนียวห่อใบตองเป็น 1 ในอาหารเช้าประจำชีวิต

พอโตขึ้นมีโอกาสเดินทางทั่วประเทศไทยก็พบว่าข้าวเหนียวหน้าต่างๆห่อใบตองเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของความเป็นไทยและเป็นเครื่องบ่งบอกที่แสดงถึงความเป็นหนึ่งเดียวอันแบ่งแยกมิได้ของราชอาณาจักรไทยโดยแท้

เพราะทุกจังหวัดจะมีข้าวเหนียวห่อใบตองเป็นอาหารเช้าเหมือนๆกันหมด บางจังหวัดเป็นอาหารเย็นด้วยซํ้า

ดังนั้นเมื่อมานอนที่โรงแรมในจังหวัดสตูล ได้รับประทาน ข้าวเหนียวหน้าสังขยา ตอนเช้าถึง 2 ห่อ จึงรู้สึกเหมือนได้กลับไปบ้านที่บรรพตพิสัย จ.นครสวรรค์ ยังไงยังงั้น

เสียดายที่บนโต๊ะบุฟเฟต์ของโรงแรมตอนเช้าไม่ยักมี โรตี มาวางไว้ด้วย ทำให้ขาดสัญลักษณ์ของสตูลไปหนึ่งอย่าง แต่ก็ไม่เป็นไร เพราะหัวหน้าทีมซอกแซกมีโอกาสได้รับประทาน “โรตี-ชาชัก” ของดีเมืองสตูลเรียบร้อยแล้ว เมื่อคํ่าคืนก่อนหน้านี้นั่นเอง จากการชักชวนของน้องๆผู้สื่อข่าวไทยรัฐ

ว่ากันว่าในจังหวัดสตูลน่าจะมีร้านโรตีชาชัก ใหญ่บ้างเล็กบ้าง อยู่ริมถนนบ้าง ไม่ตํ่ากว่า 200 แห่ง เฉพาะในอำเภอเมืองสตูลก็หลายสิบแห่ง

แต่แห่งที่คณะของเราไปรับประทานก็คือ ร้าน “โรตีบังฟาน” สาขาที่ 2 ซึ่งค่อนข้างจะอยู่นอกๆเมืองหน่อย มีที่จอดรถริมถนนกว้างขวาง

ถึงจะเป็นร้านสาขา 2 แต่ก็มีลูกค้ามาอุดหนุนเนืองแน่นเต็มทุกโต๊ะในร้าน 2 คูหาและอีกหลายๆโต๊ะที่ตั้งไว้ริมฟุตปาท

ลูกค้ากว่าครึ่งหนึ่งเป็นหนุ่มสาววัยรุ่นที่นัดกันมารับประทานโรตีชาชักแทนการไปมั่วสุมตามแหล่งบันเทิงต่างๆ ดังเช่นวัยรุ่นของจังหวัดอื่นๆ โดยเฉพาะใน กทม.ของเรา

สำหรับร้าน บังฟาน ที่โด่งดังขึ้นมาก็เพราะมีความคิดสร้างสรรค์ดัดแปลงหน้าโรตีต่างๆถึงกว่า 30 หน้า มีทั้งหน้าหวาน หน้าคาว โดยเฉพาะเมนูหน้าคาวที่ดังมากก็คือ “โรตีกั้ง” เอากั้งอบหรือทอดจนสุกทั้งตัวไปนอนบนแผ่นโรตี กลายเป็นเมนูฮิตในปัจจุบัน

ปรากฏว่าที่หมดซะก่อนเพราะในแต่ละวันจะมีกั้งมาให้ปรุงอาหารในจำนวนจำกัด ทำให้คณะของเราอดรับประทานเมนูดังไปอย่างน่าเสียดาย

แต่ก็อิ่มอร่อยกับเมนูอื่นๆ อาทิ โรตีฝอยทอง โรตีหน้าแกงไก่ และ โรตีออริจินัล แบบฉบับดั้งเดิมจิ้มนมโรยน้ำตาลนั่นเอง

เท่าที่ดูในเมนูที่ตั้งไว้บนโต๊ะยังมีโรตีภูเขาไฟ โรตีกล้วย โรตีข้าวโพด ฯลฯ แต่ยังไม่ได้สั่งมาลอง

นอกจากเมนูโรตีแล้วที่บังฟาน 2 ก็ยังมีเมนูอาหารอื่นๆ แม้ข้าวกะเพราเนื้อก็เห็นมีคนสั่งมาหลายโต๊ะเหมือนกัน หมี่ผัดบังฟานก็เห็นคนสั่งบ่อย อีกเมนูน่าสนใจมากได้แก่ ก๋วยเตี๋ยวต้มยำกั้งใส่ไข่ยางมะตูม

...

สรุปว่าไปสตูลเที่ยวนี้มีโอกาสไปถึงทั้งนครสวรรค์บ้านเกิด คือได้มีโอกาสรับประทานข้าวเหนียวสังขยาห่อใบตองของโปรดเมื่อตอนเด็กๆ ขณะเดียวกันก็ถึงซึ่งเมืองสตูลอย่างแท้จริงด้วยการรับประทานโรตีชาชักของดี เมืองสตูลเรียบร้อยที่ร้าน “บังฟาน 2” นั่นแล.

"ซูม"