วันไหว้พระจันทร์ของปีนี้ตรงกับวันที่ 24 กันยายน 2561 ในแต่ละปีเราจะเห็นขนมไหว้พระจันทร์ออกมาขายกันอย่างคึกคัก แต่น้อยนักที่จะเห็นขนมไหว้พระจันทร์สูตรโบราณดั้งเดิมแบบแท้ๆ ที่หน้าตาแปลกไปกว่าขนมในยุคนี้

ไลฟ์สไตล์ไทยรัฐ จะพาคุณไปทำความรู้จักขนมไหว้พระจันทร์สูตรโบราณดั้งเดิม 63 ปี ที่เรียกว่า 'เหล็กเต่ากอ' พร้อมพาเที่ยวชมโคมจีนสวยๆ ในบรรยากาศชุมชนจีนโบราณริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่ ล้ง 1919

เหล็กเต่ากอ คืออะไร?

ในขณะที่เราเดินเที่ยวชมโคมแดงสวยๆ ในเทศกาลไหว้พระจันทร์ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ก็บังเอิญไปเห็นโซนขายขนมไหว้พระจันทร์จากเจ้าดังหลายเจ้า เลยเดินเข้าไปสำรวจสักหน่อย

เดินๆ อยู่แล้วเห็นคุณป้าคุณน้ากำลังง่วนทำขนมบางอย่างที่หน้าตาแปลกไปจากขนมไหว้พระจันทร์ทั่วไปที่เคยเห็น ปรากฏว่ามันคือขนมไหว้พระจันทร์สูตรโบราณของชาวจีนแต้จิ๋ว ที่มีมานานกว่า 60 ปี

...

ขนิษฐา เกิดพงศ์วณิช หลานเจ้าของร้าน ขนมโก๋เจ๊อ๋า เจ้าของสูตรขนมเหล็กเต่ากอ เล่าให้เราฟังว่า ขนมชนิดนี้เรียกว่าเหล็กเต่ากอ เป็นขนมไหว้พระจันทร์โบราณที่ครอบครัวของเธอทำกันมาหลายชั่วอายุคน มีให้กินปีละครั้งในเทศกาลไหว้พระจันทร์เท่านั้น

"สมัยก่อน รุ่นอากงอาม่าอพยพจากเมืองจีนมาที่นี่ ก็นำสูตรขนมนี้มาด้วย ทำกันมาสูตรเก่าแก่ดั้งเดิม ตั้งแต่สมัยอาอี๊ (คุณป้า) เป็นวัยรุ่นอายุ 16 ปี ตอนนี้อายุ 79 ปี รวม 63 ปีแล้ว

สมัยก่อนวันไหว้พระจันทร์ไม่ได้มีขนมไหว้พระจันทร์หน้าตาอย่างทุกวันนี้ ส่วนใหญ่จะใช้ขนมชนิดนี้มาไหว้พระจันทร์กัน"

ชาวจีนแต้จิ๋วหลายครอบครัวที่เคยอาศัยอยู่ย่านหวั่งหลีแห่งนี้ ทำขนมชนิดนี้กันเป็นทุกบ้าน

วิธีทำยาก ประณีตทุกขั้นตอน

ขนมชนิดนี้ละเอียดอ่อนมาก ต้องพิถีพิถันทุกขั้นตอน มีวิธีทำคร่าวๆ คือ นำถั่วเขียวมาต้มจนสุก แล้วสะเด็ดนำ้ เอาไปตากแดดจนแห้งสนิท เอามาขยี้แล้วร่อนเปลือกทิ้งไป แล้วเอามาตากแดดอีกครั้ง แล้วนำไปโม่บดเป็นผงละเอียด กลายเป็นแป้งถั่ว

จากนั้นนำน้ำตาลปึกมาขูดเป็นผงละเอียดแล้วเอามาขยี้ผสมกับแป้งถั่วให้เข้ากันดี จากนั้นตากแดดอีก และนำมาบดอีก และร่อนอีกครั้ง เก็บไว้ในที่แห้งอย่างดี ห้ามโดนนำ้หรือความชื้นเด็ดขาด

พอถึงเวลาใกล้ทำ ก็มากวนไส้ เอาถั่วแดงมาต้มให้สุก นำไปบดในเครื่องโม่ จากนั้นนำไปบีบน้ำออกจนหมด เหลือแต่เนื้อถั่วแดงบดล้วนๆ แล้วเอามากวนกับน้ำตาล ละน้ำมันหมูหรือนำ้มันพืช

...

จากนั้นเอาแป้งถั่วมากดลงพิมพ์ขนมพร้อมกับใส่ไส้ถั่วแดงกวนลงไป ปิดอัดด้วยตัวปั๊มที่เป็นไม้แกะสลักลวดลายต่างๆ สวยงาม จากนั้นนำไปนึ่งจนสุก

ใช้เวลาทำนานหลายวัน 13-14 วัน ต้องตากแดดจัดจนแห้งจริงๆ ขนมถึงจะมีกลิ่นหอม กว่าจะทำเสร็จออกมาพร้อมรับประทาน ไม่ใช่ง่ายๆ

ขนมโบราณ สมัยนี้หากินยาก

...

เดี๋ยวนี้ขนมเหล็กเต่ากอสูตรแท้ๆ แบบนี้หากินยาก มีบ้างบางเจ้าที่ทำแต่ก็ไม่ใช่แป้งถั่วเขียวล้วนกลิ่นหอมๆ แบบนี้

สำหรับเจ้านี้เราชิมแล้วอร่อยมาก หวานพอดี ไม่หวานแหลมจนแสบคอ ไส้ถั่วแดงกวนก็อร่อยกลมกล่อม ชิมไปแล้วนึกอยากจะได้ชาอู่หลงร้อนๆ มาจิบคู่กันเลยทีเดียว บอกได้เลยว่า ฟิน!

...

ใครอยากกินต้องมาซื้อที่นี่เท่านั้น อยู่ตรงข้ามอาคารสุรินทร์89 มีสาขาเดียวเท่านั้น เป็นสูตรดั้งเดิมออริจินอลแท้ๆ ทำแบบแฮนด์เมดทุกขั้นตอน ดังนั้นปริมาณขนมที่ทำขายในแต่ละปีจึงมีจำนวนจำกัด

ชมโคมแดงท่ามกลางอาคารจีนโบราณ

หลังจากชิมขนมอร่อยฟินแล้ว เราก็มาเดินเที่ยวต่อ ฟ้าเริ่มมืด ยิ่งทำให้แสงจากโคมจีนส่องสว่างสวยงามมากขึ้นไปอีก เราเดินไปสักการะเจ้าแม่หม่าโจว เทพที่ชาวจีนในชุมชนแห่งนี้ให้ความเคารพนับถือกันมายาวนาน

แอบเห็นหนุ่มสาวไปซื้อโคมมงคล พร้อมเขียนขอพรบนแผ่นไม้แล้วนำไปแขวนติดกับโคม น่ารักเชียว นี่คงเป็นเสน่ห์ของเทศกาลแขวนโคมชมจันทร์ของชาวจีนที่นี่ ใครอยากมาเที่ยวบ้าง ก็ยังมากันได้อยู่ เขาจัดงาน 22-24 กันยายนนี้ แค่สามวันนะจ๊ะ

เรียกว่าเป็นอีกทริปสั้นๆ ในกรุงเทพฯ ในช่วงวันไหว้พระจันทร์แบบนี้ ก็ได้ความฟินกลับไปเต็มๆ เลยจ้า.