หากจะพูดถึงพิพิธภัณฑ์ เชื่อว่าแฟนานุแฟนคอลัมน์ไทยรัฐซันเดย์สเปเชียลโดยทีมงานนิตยสารต่วย’ตูน ย่อมเข้าใจว่าเป็นที่เก็บรวบรวมของเก่าหายากที่ผ่านเลยยุคไปแล้ว แต่คำว่าพิพิธภัณฑ์ในอดีต ไม่ได้มีความหมายในการเก็บรักษาจำแนกประเภทดังเช่นพิพิธภัณฑ์ศิลปะ พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ หรือพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติในปัจจุบัน แต่พิพิธภัณฑ์...หรือห้องสะสมสมัยนั้นเก็บรวบรวมทุกอย่างเอาไว้ด้วยกันในแห่งเดียว เราอาจลากเข้าไปข้างที่ว่ามันเป็นบรรพบุรุษของพิพิธภัณฑ์ก็น่าจะได้ และเรียกห้องที่น่าจะเป็นบรรพบุรุษของพิพิธภัณฑ์กันว่า...

ห้องสารภัณฑ์ (Cabinet of curiosities-ที่จริงน่าจะเรียกว่าห้องหรือตู้เก็บของแนวประหลาดมากกว่า)

ห้องสารภัณฑ์มีอยู่มานานหลายศตวรรษแล้ว เป็นที่นิยมระหว่างเจ้านคร และเศรษฐีมีอันดับ พวกเขานิยมสร้างห้องแบบนี้เอาไว้เป็นส่วนตัวเพื่ออวดความมั่งคั่ง โดยใช้หลักการอวดถึงรสนิยมและความใฝ่รู้ ทว่าห้องสารภัณฑ์แบบนี้ไม่ได้เก็บของเก่าอย่างเดียว แต่รวมเอาตัวอย่างต่างๆ มาจากทั้งธรรมชาติและสิ่งประดิษฐ์เข้าไว้ (และหากจะให้ดูล้ำหน้าก็ต้องเป็นสิ่งที่มาจากแนวความรู้ทางวิทยาศาสตร์) ดังหลักการที่กาบรี คาลเทอมาร์ค แนะนำคริสเตียนที่ 1 แห่งแซกโซนี ไว้ในปี ค.ศ.1587 ว่า สิ่งสามประเภทที่ขาดไม่ได้ในการสร้างห้องสะสมนี้ อย่างแรกคือ ประติมากรรมและจิตรกรรม อย่างที่สอง “ของแปลกจากบ้านเกิดหรือต่างประเทศ” และอย่างที่สาม “เขากวาง เขาสัตว์ กรงเล็บ ขนนก และสิ่งอื่นๆ ที่เป็นของแปลกจนถึงประหลาด” ด้วยหลักการนี้เอง สิ่งสะสมในห้องจึงมั่วซั่วผสมผสานอยู่ในเส้นเขตแดนระหว่างความเป็นจริงและจินตนาการ และระหว่างธรรมชาติกับเล่ห์เหลี่ยมพ่อค้า ทีนี้มาดูกันว่า ของสะสมเด่นๆในห้องสารภัณฑ์มีอะไรบ้าง

...

ไซเรน เงือก และปลาบิชอป

ซากเสมือนจริงของไซเรน นางเงือก รวมถึงสัตว์ประหลาดจากทะเลอื่นๆ เป็นสิ่งธรรมดาที่จะต้องมีในห้องสารภัณฑ์ ซากอสูรเหล่านี้มาจากความหัวใสของพ่อค้า พวกเขาจะนำชิ้นส่วนสัตว์หลายอย่าง หลักๆคือ ปลา มาประกอบเข้าด้วยกันจนทำให้คนยุคนั้นเชื่อมั่นว่าสัตว์เหล่านี้มีจริง ขนาดที่ว่า ออมบวส ปาเร ศัลยแพทย์ช่างตัดผมคนดังก็ถึงกับเขียนถึงเอาไว้ในหนังสือสัตว์ประหลาดและของแปลก “Monsters and Marvels” ของเขา อ้างว่าในเมื่อมีสัตว์ประหลาดมากมายบนพื้นโลก อาทิ มังกร หรือยูนิคอร์น ก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามีสัตว์ประหลาดอาศัยอยู่ในทะเลด้วย ดังนั้น ไซเรน นกหัวคน เงือก หรือทรัยทัน (เจ้าแห่งเงือก-เพศชาย) สัตว์น้ำครึ่งคนครึ่งปลา จึงเป็นของธรรมดาที่ต้องหามาประดับไว้ในหมู่ของสะสม ส่วนรูปร่างจะแปลกแตกต่างไปขนาด กลายเป็นลูกผสมแปลกประหลาดไปกว่านี้อีก เช่น เป็นลูกผสมระหว่างปลา, ลิงหรือหมี หรือไม่ก็น่าจะอยู่ที่คำนำเสนอขายของพ่อค้า

หากคิดว่า ไซเรน เงือก หรือทรัยทันแปลกประหลาดไม่พอ ก็ยังมีที่แปลกกว่านั้น นั่นคือ ปลาบาทหลวง หรือเรียกว่า ปลาบิชอป

ปลาบิชอป.
ปลาบิชอป.

ปลาบิชอปเป็นสิ่งที่นักวิชาการกิโยโม ฮงเดอเล ศาสตราจารย์ด้านการแพทย์ของมหาวิทยาลัย Montpellier ในภาคใต้ของฝรั่งเศส เป็นนักกายวิภาคศาสตร์และนักธรรมชาติวิทยา สัตววิทยา ยืนยันว่า เคยเห็นภาพวาดของมันจากกิสแบร์ก แพทย์ชาวเยอรมันอีกต่อหนึ่ง

มันเป็นสัตว์ทะเลที่ดูเหมือนพระนักบวชในศาสนาคริสต์โกนหัว แต่กะโหลกส่วนบนสูงแหลมเหมือนหมวกของพวกบิชอป ตัวของมันคล้ายปลามีเกล็ด ครีบหลังขนาดใหญ่ และครีบว่ายเป็นแฉกเหมือนมือ

กิสแบร์กเล่าว่า เขาเป็นผู้ได้รับตัวอย่างปลาชนิดนี้จากชาวประมงที่จับมันได้ในปี 1531 เขาส่งต่อสัตว์ประหลาดทะเลในลักษณะท่านบิชอปซึ่งถูกพบ...ต่อไปยังอัมสเตอร์ดัมเพื่อถวายกษัตริย์แห่งประเทศ กษัตริย์โปแลนด์ขังมันไว้ ไม่นานนักก็มีกลุ่มบาทหลวงคาทอลิกมาขอชม ปลาบิชอป

สื่อสารกับเหล่าบาทหลวงด้วยท่าทางว่าต้องการให้ปล่อยกลับสู่มหาสมุทร หัวหน้าบาทหลวงก็ทูลกษัตริย์ โน้มน้าวให้พระองค์ปล่อยปลา กษัตริย์เห็นดีด้วยจึงสั่งให้พามันไปริมทะเล ในตอนปล่อยมันกลับลงน้ำ ปลาบิชอปทำสัญลักษณ์กางเขนก่อนว่ายน้ำออกไป...!

มังกรของอัลโดรวานดิ

อูลิเซ อัลโดรวานดิ เป็นหนึ่งในนักสะสมที่มีชื่อเสียงที่สุดในประวัติศาสตร์ เขาเป็นศาสตราจารย์ด้านปรัชญาธรรมชาติที่มหาวิทยาลัยโบโลญญา เป็นผู้สะสมตัวอย่างจากธรรมชาติจำนวนมาก และเป็นผู้ก่อตั้งสวนพฤกษศาสตร์แห่งแรก แน่นอนว่า เขาย่อมเป็นบุคคลทรงปัญญา เป็นที่น่าเชื่อถือในสังคมสมัยนั้น

มังกรแห่งโบโลญญา.
มังกรแห่งโบโลญญา.

...

เขาอ้างว่าค้นพบมังกรเข้าตัวหนึ่ง เรียกกันว่า “มังกรแห่งโบโลญญา (Dragon of Bologna)” ว่ากันว่ามันถูกสังหารในปี 1572 และต่อมาอัลโดรวานดิก็นำไปจัดแสดงไว้ในห้องสารภัณฑ์สาธารณะของเขา มันทำชื่อเสียง สร้างความภูมิใจแก่เขาอย่างยิ่งที่สามารถเพิ่มมังกรไว้ในคอลเลกชัน และนำมันไปรวมไว้ในหนังสือเกี่ยวกับประวัติของงูและมังกรที่เขาเขียน อัลโดรวานดิให้รายละเอียดถึงมังกรที่ค้นพบในทุ่งนารอบโบโลญญา กล่าวว่า สิ่งที่เคยมีชีวิตนั้น “คอยาว หางยาว เป็นสัตว์สองเท้ามีเกล็ด ลำตัวหนาและลิ้นแฉก”

การเชื่อว่ามังกรมีจริง ไม่ใช่เรื่องแปลกในวันเวลาของอัลโดรวานดิ เขาไม่ใช่คนเดียวที่เชื่อเช่นนั้น แม้แต่คอนราด เจสเนอร์ ก็เขียนไว้ในฮิสตอเรีย อนิมาลิอุม (Historiae Animalium) ซึ่งเป็นหนังสือที่มีชื่อเสียงมากที่สุดเล่มหนึ่งในเวลานั้น อ้างสิ่งที่ได้ยินมา “ที่ชายแดนเยอรมนีใกล้กับซีเรียมีสัตว์เลื้อยคลานสี่ขาที่มีรูปร่างคล้ายกิ้งก่าปรากฏขึ้น มันมีปีกและรอยเขี้ยวของมันรักษาไม่หาย” เอาไว้เช่นกัน

ห้องสารภัณฑ์.
ห้องสารภัณฑ์.

...

ออโตมาตา

ออโตมาตา (Automata) คือหุ่นยนต์ตัวแรก ได้รับความนิยมอย่างมากในศตวรรษที่ 17 และ 18 เป็นสิ่งมหัศจรรย์ทางจักรกลที่เกิดขึ้นในสมัยนั้น หลังหุ่นตัวแรกปรากฏ มันก็กลายเป็นของที่ทุกคนนิยมชมจนต้องเสาะหามาประดับไว้ห้องเก็บของมหัศจรรย์ ยิ่งแปลกยิ่งดี ยกตัวอย่างเช่นออโตมาตาของมานเฟรโด เซตทาลา นักสะสมของมิลาน เป็นหุ่นยนต์หัวปิศาจ เขาวางมันไว้ที่หน้าทางเข้าห้องสารภัณฑ์ เมื่อใดที่มีคนเข้ามา กลไกในหัวของมันจะทำให้หุ่นแลบลิ้นและส่งเสียงดังทำนองหลอกหลอน

ส่วนเดอ วาแคนสัน ก็ประดิษฐ์เป็ดกลซึ่งสามารถย่อยอาหารได้ (ต่อมาพิสูจน์ได้ว่าเป็นการหลอกลวง โดยนำอาหารที่ย่อยแล้วใส่เข้าไปในเครื่องไว้ก่อน) หรือเช่นช่างทำนาฬิกาชาวสวิส ปิแอร์ จาคเก ดโฮซ สร้าง ออโตมาตาที่สามารถเล่นเครื่อง ดนตรีและเขียนหนังสือ

ประติมากรรมตั้งโต๊ะสยอง (Anatomical Tableaux)

ประติมากรรมตั้งโต๊ะสยอง หรือประติมากรรมซากศพตั้งโต๊ะ เป็นประดิษฐกรรมขนหัวลุกปรากฏอยู่ในห้องสารภัณฑ์ตั้งแต่เริ่มสร้างมันขึ้น ความแปลกประหลาดของมันเป็นพยานถึงความหลากหลายของโลกธรรมชาติ ยิ่งกว่านั้น ความหายากของมันยิ่งเพิ่มมูลค่าแก่บรรดาของสะสม

ประติมากรรมตั้งโต๊ะของรุยช์.
ประติมากรรมตั้งโต๊ะของรุยช์.

...

เฟรเดอริค รุยช์ เจ้าของสิ่งสะสมจำนวนมาก เริ่มรวมการสำรวจทางวิทยาศาสตร์เข้ากับความบันเทิงและความประหลาดในงานของเขา รุยช์เป็นนักพฤกษศาสตร์โดยอาชีพ เขาประมวลความรู้แล้วสร้างวิธีการนำเสนอตัวอย่างที่เขาขายให้กับปีเตอร์มหาราช ซาร์แห่งรัสเซีย ผลก็คือประติมากรรมซากศพตั้งโต๊ะดังกล่าว

ประติมากรรมตั้งโต๊ะ เขาสร้างฉากภาพแบบสามมิติ (dioramas) ขึ้น ยกตัวอย่างเช่นนำโครงกระดูกของทารกในครรภ์มาจัดให้อยู่ในตำแหน่งที่น่าทึ่งในสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่สร้างขึ้นใหม่ หากแต่สภาพแวดล้อมทางธรรมชาติกลับประดิษฐ์จากส่วนต่างๆของร่างกาย เขานำก้อนนิ่วและนิ่วในไตมาทำหินเทียม เส้นเลือดและหลอดเลือดแดงซึ่งฉีดสีต่างๆ และเลาะออกมาจากศพ (เน้นหลอดเลือดแดงและเส้นเลือดฝอย) เอามาทำกิ่งก้านต้นไม้ซึ่งแผ่กิ่งก้านไร้ใบ และเนื้อเยื่อปอดเอามาทำพุ่มไม้และหญ้าชิ้นงานของรุยช์เป็นที่นิยมมากในตู้ของสะสมสมัยศตวรรษที่ 18 อาจเพราะล้ำเกินคำบรรยายและมีรูปแบบเชิงเปรียบเทียบหมายไปถึงการดำรงอยู่ชั่วคราวในธรรมชาติ

สรรพสิ่งมากมายในห้องสารภัณฑ์.
สรรพสิ่งมากมายในห้องสารภัณฑ์.

สารานุกรมสัตว์และสารานุกรมสมุนไพร (Bestiaries & Herbaria) ยุคแรก

สรรพสิ่งในห้องสารภัณฑ์นอกเหนือจากสิ่งที่เว้นวรรคไม่ได้กล่าวไว้ เช่น เขายูนิคอร์น, ปักษาสวรรค์ไร้ขา หรือหอยงวงช้าง (Nautilus) ที่ตกแต่งด้วยภาพวาด ยังคงมีสิ่งที่ต้องเล่าทิ้งท้ายก็คือ สารานุกรมสัตว์และสารานุกรมสมุนไพรยุคแรก หนังสือทั้งสองประเภทนี้รวบรวมเหล่าสัตว์และพันธุ์พืชเอาไว้มากมายจนเรียกได้ว่าเป็นสารานุกรม ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาในยุคกลางอย่างยิ่งที่สารานุกรมสัตว์มักผูกติดอยู่กับห้องสารภัณฑ์ เหตุผลหนึ่งก็คือ วัตถุประสงค์การจำแนกตัวอย่างที่เก็บสะสม

สัตว์แปลกๆที่กล่าวอ้างกันว่ามีจริง.
สัตว์แปลกๆที่กล่าวอ้างกันว่ามีจริง.

ในเล่มสัตว์ รวมตั้งแต่สัตว์สามัญ สัตว์แปลก ไปจนถึงสัตว์ประหลาด ทั้งหมดมาจากหลายที่มา ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าส่วนหนึ่งมักถูกดึงมาจากคำบอกเล่าจากนักเดินทางสู่โลกใหม่ นอกจากจะมีรูปภาพเขียนขึ้นตามจินตนาการหรือวาดตามคำบอกเล่า ผู้เขียนยังอธิบายรูปร่างอย่างละเอียด นิสัยของมัน และประโยชน์ที่มีต่อมนุษย์ หรือมีคุณสมบัติในทางยาได้ราวกับตาเห็น แม้จะไม่แน่ชัดว่า ผู้เขียนเชื่อว่าสัตว์เหล่านี้มีจริงหรือไม่ แต่การที่พวกมันถูกบรรยายและรวมอยู่ในสารานุกรมสัตว์ก็ทำให้เกิดความน่าเชื่อถือ

ส่วนในเล่มสารานุกรมสมุนไพร “เฮอร์บาเนีย (herbaria)” หนังสือที่รวบรวมพืชพันธุ์ที่เคียงคู่มา ก็รวบรวมเอาตัวอย่างพันธุ์พืชจาก ธรรมชาติ มีการระบุและอธิบายไว้ละเอียด ซึ่งมักจะเป็นคุณสมบัติทางยาเป็นพิเศษเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม สิ่งหนึ่งที่พึงตระหนักสำหรับหนังสือทั้งสองอย่างก็คือ ไม่ว่าจะเป็นสารานุกรมสัตว์ หรือสารานุกรมสมุนไพรยุคแรก ล้วนยังไม่มีขีดแบ่งเส้นระหว่างวิทยาศาสตร์และจินตนาการ จนหลายครั้งก็ทำให้เกิดความพิศวงจนยากจะเข้าใจ.

โดย : ภัสวิภา
ทีมงาน นิตยสาร ต่วย’ตูน