สวัสดีชาวไทยรัฐออนไลน์ทุกท่านครับ เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา แบกกล้องเที่ยว มีโอกาสได้ร่วมเดินทางไปกับ กรมทรัพยากรธรณี ในโครงการธรณีสัญจร ครั้งที่ 2 เป็นการเปิดความลับของอาณาจักรหินทรายในภาคอีสาน ภายใต้หัวข้อแอ่งมหานทีบรรพกาล โดยใช้พื้นที่ ภูจันทร์แดง ภูอานม้า ผาแต้ม แก่งตะนะ ถ้ำเหวสินไชย จ.อุบลราชธานี เป็นพื้นที่ศึกษา โดยในสัปดาห์นี้ ผมจะพาเพื่อนๆ ทุกท่าน ไปชมความตระการตาของ ภูจันทร์แดง และ ภูอานม้า กันก่อน

...

โดยทริปนี้ เราเริ่มต้นกันที่ “ภูจันทร์แดง” กันก่อนครับ โดยที่ภูจันทร์แดง ตั้งอยู่ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติภูหล่น ตำบลสมยาง อำเภอศรีเมืองใหม่ จังหวัดอุบลราชธานี การเดินทางค่อนข้างลำบากหน่อย เพราะทางเป็นลูกรังครับ ที่นี่มีจุดน่าสนใจคือ เสาเฉลียงขนาดยักษ์ มีลักษณะคล้ายแก้วไวน์ โดยต้องเดินเท้าเข้าไปประมาณเกือบกิโลครับ ระหว่างทางเราก็จะเจอลักษณะของหินทรายที่สวยงามมากมาย

ที่นี่ส่วนใหญ่ เป็นหินทรายหมวดหินภูพาน อายุประมาณ 110 ล้านปี มีรูปร่างเป็นเสาระเบียง เนื่องจากกระบวนการกร่อน (erosion) โดยกระแสน้ำและลม มีลักษณะเป็นรูพรุนตามแนวข้าง ที่เกิดจากกระบวนของน้ำเช่นกัน มีการแสดงแนวชั้นเฉียงระดับของชั้นหินชัดเจน บริเวณพื้นแสดงลักษณะหินสมอง (sand cracks) ที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิร้อนและเย็น ต่อมา มีการคายความร้อน ทำให้หินแตกเป็นรูปแบบดังกล่าว และลานหินปูนที่เกิดจากการกัดเซาะของทางน้ำ นอกจากนี้ ยังพบร่องรอยกระดูกไดโนเสาร์ แต่ยังไม่ทราบชนิดที่แน่นอนด้วยครับ

...

...

พอมาถึงบริเวณไฮไลต์ จะมีลักษณะเป็นเสาระเบียงขนาดใหญ่ สูง ประมาณ 8 เมตร ยาว ประมาณ 20 เมตร ยาวต่อเนื่องวางตัวอย่างสวยงาม บริเวณใกล้เคียงยังมีเสาเฉลียงที่มีลักษณะเด่นคือ เสาเฉลียงรูปแก้วไวน์ ซึ่งมีลักษณะแปลกตา และในพื้นที่โดยรอบมีลักษณะหินสมองกระจายอยู่ทั่วไป อีกทั้ง ภูจันทร์แดง นี้ยังเป็นเส้นทางธุดงค์ของหลวงปูมั่นอีกด้วย

หลังจากนั้นเราก็เดินทางกันต่อไปที่ “ภูอานม้า” กันครับ ซึ่งอยู่ทางบ้านใหม่ดงสำโรง อำเภอศรีเมืองใหม่ จังหวัดอุบลราชธานี เป็นภูหินทรายขนาดเล็ก ถูกธรรมชาติกัดกร่อน ทำให้รูปร่างหน้าตาเหมือน “อานม้า” สูงจากพื้นดินประมาณ 300 เมตร ตั้งอยู่กลางลานหินทรายที่กว้างใหญ่ บริเวณใกล้เคียงยังมีทุ่งดอกไม้นานาพรรณรอต้อนรับผู้มาเยือนทุกท่าน โดยเฉพาะช่วงตุลาคม-พฤศจิกายน จะบานสวยงามเต็มลานหิน 

...

ที่หน้าสนใจอีกแห่งหนึ่งคือ รอยเกวียนโบราณ รอยที่บดลึกลงไปในลานหินทรายเป็นระยะทางยาว บ่งบอกถึงการเดินทางสัญจรไปมาหาสู่กันของคนในแถบนี้มาอย่างยาวนาน เป็นเส้นทางเกวียนของชาวบ้านสมัยก่อนที่ยังไม่มีถนนอย่างทุกวันนี้ ชาวบ้านก็จะใช้เส้นทางนี้บรรทุกของ ผ่านลานหินไปมา แล้วรอยเกวียนที่ปรากฏลึกบนลานหินทราย ที่มีอายุเป็นร้อยๆ ปีที่ ทำให้ล้อเกวียนฝังลึกและกร่อนหินจนปรากฏเป็นร่องดังภาพปัจจุปัน

เป็นอีกทริปที่น่าประทับใจมาก เหมาะสำหรับคนที่ชอบท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติศึกษา เพราะได้ความรู้มากมายเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ในเชิงธรณีวิทยา พ่อแม่อาจจะลองให้ลูกๆ มาเที่ยวแบบนี้เป็นแบบเรียนจากสถานที่จริง และเพลิดเพลินด้วยครับ

ส่วนสัปดาห์หน้าแบกกล้องเที่ยวจะพาไปชมความสวยงามของ ผาแต้ม แก่งตะนะ ถ้ำเหวสินไชย แหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง เดินทางง่ายๆ เช่นเดิมครับ...

ที่มา - แบกกล้องเที่ยว
www.facebook.com/baagklong