มีแฟนคลับท่วมท้นชั่วข้ามคืน สำหรับเจ้าของเพจ ป้าแบ็กแพ็ก หรือ ป้าแป๋ว กาญจนา พันธุเตชะ อดีตข้าราชการ c9 ป้าแป๋วเป็นแบ็กแพ็กเกอร์หน้าใหม่วัย 63 ปี ที่เมื่อให้สัมภาษณ์ออกสื่อต่างๆ เกี่ยวกับการเดินทางท่องเที่ยวด้วยตัวเอง ทั้งในและต่างประเทศกับช่วงชีวิตหลังเกษียณแล้ว ก็มีนักเดินทางด้วยกันเข้ามาชื่นชมล้นหลาม

มาแรงขนาดนี้ ไทยรัฐออนไลน์ ติดต่อหาคิวสัมภาษณ์คุณป้าทันที และในที่สุดก็ได้นั่งคุยกันยาวๆ เกี่ยวกับประสบการณ์การเดินทาง และการเป็นแบ็กแพ็กเกอร์ ที่วางแผนเอง เดินทางเอง เที่ยวเอง หาที่พักเอง มาสายฮิปสเตอร์แบบนี้ได้ใจวัยรุ่นไปอีก...!

"ถ้าป้าแป๋วไม่ไปไหน อยู่บ้านสบ๊ายสบาย ทานข้าวเช้า ดูข่าวไป แล้วก็จะหลับ ตื่นมากินข้าวกลางวัน แล้วก็ดูโทรทัศน์ต่อ ชีวิตก็จะมีอยู่แค่นี้ แต่พอเดินทาง ป้ารู้สึกว่าตัวเอง Alert นะ เหมือนชีวิตเรามีสีสัน รู้สึกได้ใช้สมอง ไปเที่ยวทีก็เหมือนออกกำลังกายไปในตัว เดินทั้งวัน เดินจนขาเมื่อยเลย (หัวเราะ)" ป้าแป๋วบอกกับเราอย่างอารมณ์ดี

และนี่คือบทสัมภาษณ์สดๆ ร้อนๆ ของนักเดินทางท่องโลกหน้าใหม่คนนี้ ที่มาเล่าเรื่องราวสนุกระหว่างทางให้เราฟัง และยังขยายไปเป็นแรงบันดาลใจให้กับนักเดินทางคนอื่นด้วย อย่ารอช้า มาทำความรู้จักกับป้าแป๋วและกำลังใจดีๆ ทางนี้เลยจ้า

...

Q : ล่าสุดได้ยินว่าคุณป้าไปเที่ยวญี่ปุ่นมา เป็นอย่างไรบ้างคะ?
อ้อ ป้าเพิ่งกลับจากญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 18-19 นี่เองค่ะ คราวนี้ป้าแป๋วไปเที่ยวเขตคันโต แถวๆ โตเกียว แล้วขึ้นไปทางเหนือหน่อย แล้วก็ลงมาเที่ยวต่อที่ ภูเขาไฟฟูจิ พักที่โตเกียว แล้วก็ไปเที่ยวนิกโก้ คามาคุระ ฮาโกเนะ แล้วก็โยโกฮามา แถวนี้อะค่ะ ก็ดีนะคะ คราวที่แล้วป้าไป เกียวโต ก็คนละบรรยากาศ ก็สนุกดีค่ะ

Q : ขอย้อนกลับไปจุดเริ่มต้นสักนิด ทำไมเลือกเดินทางคนเดียวล่ะคะ?
ป้าก็เคยไปเที่ยวกับทัวร์นะ แต่ป้าว่าเวลาไปแบบนั้น มันเป็นช่วงสั้นๆ ไม่ค่อยจุใจเรา เราไปที ก็อยากเที่ยวแบบยาวเลย ไม่ต้องไปเสียค่าเครื่องบินหลายรอบ อย่างอื่นก็ไม่มีปัญหา พอไปคนเดียวแล้วมันรู้สึกว่าชอบมากกว่า ตั๋วเครื่องบิน ที่พักจะจองที่ไหนก็ได้ สะดวกกว่าค่ะ แล้วก็มีเวลาเที่ยวได้จุใจ แล้วก็ประหยัดด้วยนะ ถูกกว่าไปกับบริษัททัวร์

ถ้าไม่ไปเอง เราก็ต้องรอคนนั้นคนนี้ แล้วที่ผ่านมาเห็นว่าทุกคนไม่ค่อยว่าง อย่างเก่งคนอื่นก็ไปกับเราได้แค่ 5 วัน แต่เราเองอยากอยู่ยาวกว่านั้น เราก็เลยต้องไปเองค่ะ (หัวเราะ) เพราะเราจะไปกี่วันก็ได้ เราไม่ต้องทำงานแล้ว จริงๆ อยากจะอยู่เที่ยวเป็นเดือนเลย แต่ว่าเราก็แอบห่วงที่บ้านด้วย ไปไม่นานเท่าไรก็ต้องกลับมาบ้านก่อน ค่อยว่ากันใหม่

Q : ครั้งแรกที่ตัดสินใจแบ็กแพ็กเที่ยวคนเดียว กลัวไหม?
ไม่กลัวค่ะ ยิ่งครั้งแรกเราเที่ยวในเมืองไทยยิ่งไม่กลัวเลยค่ะ เพราะเรารู้ว่าต้องพักที่ไหน อะไร อย่างไร คือยังไงคนไทยก็ไม่หลอกกันอยู่แล้ว ภาษาก็คุยกันรู้เรื่อง เราเลือกให้ดีว่าที่พักที่ไหนปลอดภัย แค่นั้นเอง ก็มีบ้างเหมือนกัน เวลาเรานั่งมอเตอร์ไซค์ไปที่โรงแรมแล้วเขาพาไปผิด เราเห็นก็บอกว่าไม่ใช่ที่นี่ ก็ต้องพยายามสื่อสารกับคนรอบข้างเยอะๆ เราบอกอยากได้ที่พักที่มันปลอดภัย บางทีเขาก็ช่วยหาให้ ช่วยพาเราไป ซึ่งมันอยู่ที่ตัวเราด้วยในการตัดสินใจว่าจะเที่ยวที่ไหน พักที่ไหน ก็ต้องหาข้อมูล

Q : แสดงว่าก่อนไปเที่ยวแต่ละทริป ป้าแป๋วเตรียมตัวดีมากๆ?
ก็ถ้าไปต่างประเทศ เราต้องหาข้อมูลเยอะเลยค่ะ อย่างไปเที่ยวต่างประเทศก็ต้องเอาหนังสือไปด้วย เราก็จะอ่านและหาข้อมูลจากตรงนั้น

...

Q : แล้ว Backpacker สไตล์ป้าแป๋วต้องเตรียมตัวอย่างไร ในเป้มีอะไรบ้าง
ในเป้ก็มีของจำเป็นที่ต้องใช้นะคะ แล้วก็มีติดยาไปด้วยหน่อยนึง แล้วมีพวกปลั๊ก ของใช้ส่วนตัวต่างๆ ถึงแม้ไปในที่ที่เขตเมืองที่เจริญ เขาจะมีร้านค้าสะดวกซื้อ แต่เราก็ต้องพกติดตัวไว้ก่อนค่ะ ก็ไม่มีอะไรมาก มันถูกบังคับด้วยน้ำหนักกระเป๋า เขาให้ 20 กิโลกรัม แต่เราก็ไม่ถึง 20 กิโลหรอก เพราะเราแบกไม่ไหว

Q : เวลาไปเที่ยวแบบนี้ มีอุปสรรคอะไรบ้างไหมคะ
ปัญหาส่วนใหญ่คือ เรื่องการหาที่พัก อยากให้สถานที่ท่องเที่ยวมีการพัฒนาเรื่องเครือข่ายอินเทอร์เน็ตมากขึ้น คือถ้าเสิร์ชข้อมูลจากที่บ้านแล้วปริ้นออกมา จะเห็นว่าต้องไปที่ถนนนี้ มีป้ายแบบนี้ แต่พอเวลาจริงๆ มันหายาก ถ้าเราสามารถลงตรงนั้นปุ๊บแล้วมีอินเทอร์เน็ตใช้จีพีเอสนำทางเนี่ย มันจะง่ายมากสำหรับป้าแป๋ว แต่บางทีพอเราไปเนี่ย บางทีอินเทอร์เน็ตมันใช้ไม่ได้

Q : แล้วพอหาโรงแรมไม่เจอ ป้าแป๋วแก้ปัญหายังไงคะ?
อย่างตอนที่ป้าไปญี่ปุ่น ป้าหาโรงแรมไม่เจอ ป้าก็มองหาว่าตรงไหนมี information ก็จะเข้าไปถามว่าตรงนี้อยู่ที่ไหนๆ เขาก็จะบอกเรา แต่เบื้องต้นก็ต้องเดินหาก่อน แต่ถ้าเดินแล้วไม่เจอ ก็ต้องถามคนแถวนั้นแล้วเค้าก็จะเอาโทรศัพท์ขึ้นมาเสิร์ชให้เรา ที่ผ่านมาก็จะใช้วิธีแบบนี้มาตลอด อย่างตอนไปมาเก๊าเขาก็จะพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ พอไปถึงจุดนี้แล้วเนี่ยเราก็จะไปหาโรงแรมใหญ่ๆ ตรงไปที่ล็อบบี้เลย เพราะเรารู้ว่าเขาพูดภาษาอังกฤษได้แน่ๆ

...

Q : แล้วเรื่องการกินการอยู่ล่ะคะ?
เรื่องเล็กเลยค่ะ เรื่องที่พัก ป้าแป๋วเน้นพักเป็นโฮสเทลห้องรวมหญิง แต่ถ้าไม่มี ก็พักห้องรวมชายหญิง การพักห้องรวมรู้สึกปลอดภัยกว่าพักโรงแรมแบบโดดเดี่ยว เวลาเข้าออกก็จะเจอเจ้าของบ้านอะไรประมาณนี้ ก็เน้นเรื่องปลอดภัยไว้ก่อน

ส่วนเรื่องกินก็ไม่มีปัญหาเลย ช่วงที่อยู่ญี่ปุ่นบางทีก็กินร้านใกล้ๆ ที่พัก บางทีก็เข้าซุปเปอร์มาร์เก็ตซื้อของมาทำทานที่โฮสเทล เรื่องกินเรื่องเล็กอะค่ะ กินอะไรก็ได้ ข้าวปั้นก็ได้ ถ้าตรงไหนมีร้านเราก็นั่งทานตรงนั้น หรือว่าเอาของแห้งติดกระเป๋าไปอะไรอย่างนี้อะค่ะ อย่างข้าวปั้นนี่ป้าเอาติดกระเป๋าไปได้ พอถึงเวลาเหนื่อยก็นั่งทานตรงที่เที่ยวนั่นแหละค่ะ ไม่มีปัญหาเลย (หัวเราะ)

Q : บางคนอยากเดินทาง แต่ติดว่าไม่มีตังค์ พูดภาษาอังกฤษไม่ได้ ป้าแป๋วมีคำแนะนำดีๆ ไหมคะ

1. ปัญหาเรื่องเงิน : ป้าว่าก็ต้องมีการบริหารจัดการเงิน อยากเที่ยวก็ต้องรู้จักเก็บออมไว้บ้างบางส่วน

2. รู้จักประมาณค่าใช้จ่าย : ถามจากคนอื่นก็ได้ที่เขาเคยไปเที่ยวมา แล้วอาจจะเตรียมเงินไปมากกว่านั้นนิดหน่อย ให้อุ่นใจ อย่างป้าแป๋วก็จะแลกเงินให้อุ่นใจว่าเรามีตังค์สำรองไว้พอสมควร ไม่ใช่ว่าพอจํากัดจําเขี่ยจะทำให้เราวิตกกังวลมากในการเดินทาง

...

3. ต้องขจัดความกลัว : ในเรื่องของการเดินทาง ถ้าจะขจัดความกลัวไปได้เนี่ย ป้าแป๋วว่าการเตรียมข้อมูลจะทำให้เรามั่นใจมากขึ้น แต่ทีนี้เราก็ต้องมีเวลาพอสมควรในการหาข้อมูลให้ครบถ้วน อย่างป้าแป๋วก็จะเหมาะ เพราะป้าแป๋วมีเวลา แต่คนทำงานก็คงต้องแบ่งเวลา ถ้าจะเดินทางเอง ต้องเตรียมข้อมูลพอสมควร จะไปไหน อะไร ยังไง เดินทางจากสนามบินเข้าตัวเมืองยังไง ที่พักอยู่ตรงไหน พอเข้าที่พักได้จะโล่งมาก สบายใจไปแล้วเปลาะหนึ่ง

4. วางแผนเที่ยวในแต่ละวัน : การเดินทางด้วยตนเอง ต้องวางแผนการเดินทางพอสมควร ไม่งั้นพอถึงตรงนั้นแล้ว ถ้าไม่มีแผนก็จะเคว้งว่าจะไปยังไงดี แนะนำให้สอบถามกับเจ้าของเกสต์เฮาส์ เขาจะแนะนำเราได้ว่าควรไปรถไฟ หรือรถใต้ดิน แล้วอีกอย่างหนึ่งคืออ่านจากหนังสือ Lonely Planet ก็ช่วยได้ หรือการรีวิวในอินเทอร์เน็ตจากคนที่ไปมาแล้ว ก็ช่วยได้เหมือนกัน

5. ภาษา : จริงๆ เราก็พอจะสื่อสารกันได้ ถามทางหรือว่าพูดคุยกันธรรมดา ถ้าผ่านมัธยมมาได้ ป้าแป๋วคิดว่าน่าจะสื่อสารได้นะ อยู่ที่ว่าจะกล้าพูดหรือเปล่า ป้าแป๋วก็พูดไปอย่างนั้นแหละ ไม่เก่งหรอก เป็นเด็กบ้านนอกด้วยซ้ำ ต้องออกไปเจอเองแล้วจะรู้

Q : เจอเพื่อนใหม่ที่เป็นแบ็กแพ็กเกอร์ด้วยกัน เยอะไหมคะ
ป้าแป๋วเจอนะคะ เวลาไปเกสต์เฮาส์เจอเยอะมาก อย่างไปญี่ปุ่นครั้งล่าสุดเนี่ย ก็ไปเจอคนเยอรมัน เขาเป็นทหาร ก็คุยกับเขา เขาก็ให้คำแนะนำว่าลองไปที่นี่ไปที่โน่นนะ มันก็ช่วยเราได้เหมือนกันนะ เพราะเขาเพิ่งมาจากฮาโกเนะ เขาก็แนะนำเราได้ดีค่ะ

Q : ปักหมุดจุดหมายต่อไป จะเที่ยวที่ไหนต่อคะ
ป้าแป๋วกำลังจะไปรัสเซียเดือนหน้าค่ะ ไปรัสเซียคราวนี้เป็นห่วงเหมือนกัน เพราะเห็นว่าคนเขาไม่ค่อยยิ้มไม่ค่อยคุย (หัวเราะ) แต่ก็ต้องลองไปสัมผัสดูค่ะว่าที่เขาหน้าตาบึ้งตึงนี่จิตใจเขาเป็นยังไง คราวนี้ป้าไป 17 วัน

Q : ป้าแป๋วมองว่าการเดินทางให้อะไรกับเราในวัย 63 ปีบ้างคะ?
ป้าแป๋วเชื่อว่า ถ้าป้าแป๋วไม่ไปไหน อยู่บ้าน สบ๊ายสบาย รับประทานอาหารตามเวลา แล้วก็ดูโทรทัศน์ดูข่าวไปนะ แล้วป้าแป๋วก็จะหลับ ตื่นมากินข้าวกลางวัน แล้วก็ดูโทรทัศน์ต่อ เย็นก็ไปออกกำลังกาย แล้วก็กินข้าวเย็น ชีวิตก็จะมีอยู่แค่นี้ แต่พอป้าแป๋วเดินทาง รู้สึกว่าเรา Alert นะ ต้องมีการหาข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต ต้องเตรียมการจองตั๋วเครื่องบิน จองที่พัก มันไม่มีช่วงว่างเลย ปกติป้าแป๋วจะไปประมาณเดือนเว้นเดือนนะ หาข้อมูลเดือนนึงก่อน แล้วก็เดินทางเดือนถัดไป

ป้าว่า มันเหมือนชีวิตเรามีสีสัน รู้สึกได้ใช้สมองด้วย ไปเที่ยวทีก็เหมือนได้ออกกำลังกาย เดินทั้งวัน ขาเมื่อยเลยแต่ละวัน เราก็จะได้ครบหมด ถ้าเทียบกับนอนอยู่บ้านเฉยๆ มันก็มีอะไรกระตุ้นเราน่ะ ทั้งสายตาด้วย สมองด้วย ช่วงนี้มีแรงต้องรีบไป เดี๋ยวอีกหน่อยไปไม่ไหว ก็นะตามสภาพร่างกาย ตอนนี้เรายังไปไหวก็รีบไปค่ะ

เราได้ทำในสิ่งที่เราไม่เคยทำ ในตอนที่ยังทำงานอยู่ ก็มีความสุขทุกทริป แต่ละแห่งที่ได้ไปสัมผัสเอง มันไม่เหมือนกับที่เราอ่านหนังสือนะ ป้าแป๋วอยากใช้เวลาที่เหลืออยู่ตรงนี้กับสิ่งที่ชอบ ไปในเมืองไหนป้าแป๋วก็มีความสุขนะ ได้เห็นวิถีชีวิต กินอาหารอร่อยของแต่ละแห่ง แค่นี้เราก็มีความสุขแล้ว

…มีความสุขกว่าอยู่บ้านเป็นไหนๆ ป้าแป๋วทิ้งท้าย

ที่มาภาพ : hipsterkanjana