H&C Review สัปดาห์นี้ขอเอาใจท่านที่ชอบพักสบายในรีสอร์ตบรรยากาศดี ที่นอกจากจะให้ความรู้สึกอบอุ่นเหมือนอยู่บ้านเพื่อนสนิทแล้ว ทั้ง 5 แห่ง 5 สไตล์ที่เราคัดมานี้ ยังมีอาหารเช้าเลิศๆ เตรียมไว้ให้คุณได้อิ่มอร่อยรับอรุณในวันพักผ่อนสุดชิลของคุณอีกด้วย
The Warehouse Bangkok ดิบ เท่ มีสไตล์
ที่พักใจกลางกรุง ที่เรียบ เท่ มีสไตล์แห่งนี้ ตั้งอยู่ห่างจากถนนข้าวสารเพียงเล็กน้อย เมื่อมาพักสามารถเดินไปชมสถานที่สำคัญของกรุงเทพฯ อย่าง วัดพระแก้ว เสาชิงช้า พิพิธภัณฑ์หอศิลป์ หอศิลป์เจ้าฟ้า ฯลฯ ได้แบบสะดวกสบาย ด้วยความที่เป็นทำเลการคมนาคมสะดวกเช่นนี้ ทำให้ The Warehouse Bangkok (เดอะแวร์เฮ้าส์ กรุงเทพ) เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเป็นอย่างมาก ส่วนคนไทยสไตล์ฮิปสเตอร์ที่ชอบสถาปัตยกรรมแบบดิบๆ ยังแวะเวียนมาดื่มด่ำความงาม บ้างนำจักรยานมาด้วย พอเช้าตรู่ก็ปั่นชมเมืองหลวง เสร็จสรรพกลับมากินข้าวพร้อมนั่งจิบกาแฟ เป็นไลฟ์สไตล์ที่เพลินไปอีกแบบนะ
จุดเด่นอีกอย่างของที่นี่คือการตกแต่งสไตล์ Loft ตัวอาคารถูกวางคอนเซปต์ให้มีลักษณะคล้ายนำโกดังเก่ามาปรับปรุงเป็นโรงแรม ผนังปูนเปลือยโทนสีเข้มแต่งแต้มด้วยลายเพ้นท์เก๋ๆ สีดำ ตัดกันดีกับที่นอนสีขาวสะอาดตา ข้าวของภายในห้องเน้นใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้ที่เรียบง่ายแต่ดูดี ผนังด้านหนึ่งเป็นกระจกใส เมื่อเปิดให้แสงสว่างส่องลอดเข้ามาแล้วภายในห้องยิ่งดูสวยอย่าบอกใคร แถมบอกเลยห้องโทนสีแบบนี้ถ่ายเซลฟี่สวยสุดๆ เลยคู้นน...
...
แม้จะเป็นรีสอร์ตขนาดกะทัดรัดที่มีเพียง 36 ห้อง สูง 4 ชั้น แต่ที่นี่ก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ให้อย่าง ครบครัน ไม่ว่าจะเป็นดาดฟ้าเอาไว้นั่งจิบเครื่องดื่มเย็นๆ ยามพระอาทิตย์ตก ลิฟต์โดยสารที่ช่วยให้แขกไม่ต้องถือกระเป๋าหนักๆ ขึ้นห้อง รวมถึงเรื่องอาหารการกินที่ ห้องอาหาร Forklift Cafe ด้านล่างก็มีบริการอาหารและเครื่องดื่มตลอดทั้งวัน โดยเฉพาะชุดอาหารเช้าที่มีให้เลือกหลากหลาย ทั้งไข่กระทะเสิร์ฟพร้อมโยเกิร์ตและมูสลี่ สครัมเบิลเอ้กเสิร์ฟเคียงกับเห็ดผัดเนย หรือถ้าชอบแบบเอเชียสักหน่อย ต้องลองข้าวต้มเครื่องที่มีผักกาดดองและกุนเชียงเป็นเครื่องเคียง อีกอย่างที่ไม่ควรพลาดคือเครื่องดื่มทั้ง Orange Latte กาแฟผสมน้ำส้ม Pink Latte กาแฟผสมน้ำแดง และ Green Tea Lemonade ชาเขียวโซดา สีสวยรสเปรี้ยวหวาน ดื่มเย็นชื่นใจ
The Warehouse Bangkok 120 ถ.บุญศิริ แขวงศาลเจ้าพ่อเสือ เขตพระนคร กรุงเทพฯ โทร.0-2622-2635 www.facebook.com/forkliftcafebkk
Gingerbread House สวรรค์ของคนรักสุนัข
Gingerbread House หรือบ้านขนมปังขิง ได้แรงบันดาลใจมาจากนิทานเรื่อง Hansel and Gretel ที่เล่าถึงเด็กชายหญิงคู่หนึ่งที่พลัดหลงเข้าไปในป่าใหญ่ จนได้เจอกับบ้านขนมปังขิงที่ทำจากขนมปังนานาชนิด เมื่อเข้ามาถึงคุณจะได้พบกับบ้าน 4 หลังซึ่งตั้งอยู่ท่ามกลางแมกไม้น้อยใหญ่ แต่ละหลังตั้งชื่อได้อย่างน่ารัก (และน่ากิน) ว่า Marble green tea, Vanilla cup cake, Tiramisu และ Cheesecake
ที่นี่เป็นสวรรค์สำหรับน้องหมาจริงๆ เพราะสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ถูกออกแบบมาเพื่อเจ้าสี่ขาโดยเฉพาะ ทั้งสระว่ายน้ำที่สุนัขและผู้เลี้ยงลงไปเล่นด้วยกันได้ ห้องพักเน้นใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้ เหล็ก มีเตียงนอนเฉพาะสำหรับเจ้าตูบ รวมถึงร้านอาหารของทางรีสอร์ต ที่เปิดจำหน่ายให้ทั้งกับแขกผู้มาพักและบุคคลภายนอก ก็ยังมีเมนูสำหรับเจ้าตัวเล็กขนปุยจำหน่าย ให้ทั้งคนและน้องหมาอิ่มไปพร้อมกันด้วย ขอย้ำว่าร้านอาหารแบบนี้คงถูกใจคนรักสุนัขสุดๆ แต่หากท่านใดไม่ปลื้มน้องหมาแนะนำว่าพักใจอยู่ด้านนอกจะดีกว่า เพราะหากเข้ามาในร้านจะเจอเจ้าสี่ขาวิ่งเล่นกันซุกซนไปหมดนะจ๊ะ
คุณจารุวัจน์ เล็กดำรงศักดิ์ และ นายสัตวแพทย์ ศิริเชษญ์ นิธิพิธชัย คู่รักเจ้าของรีสอร์ตเล่าว่า ที่นี่ต้องดูแลด้านสุขอนามัยมากกว่าปกติถึง 4 เท่า ต้องมีพนักงานคอยสอดส่องดูสัตว์เลี้ยงที่มาพัก หากเจ้าตูบฉี่บริเวณใดต้องรีบเข้าไปทำความสะอาดทันที สระว่ายน้ำเปลี่ยนน้ำบ่อยกว่าสระทั่วไป 4 เท่า ห้องพัก ห้องอาหารต้องลงน้ำยาฆ่าเชื้อโรค บ่อยๆ หากพบว่าห้องไหนมีเห็บเล็ดลอดมา ก็ถึงขั้นต้องลงน้ำยาฆ่าเชื้อขนานใหญ่ แล้วปิดห้องนั้นไว้หลายสัปดาห์เลยทีเดียว และด้วยความที่เจ้าของเป็นหมอรักษาสัตว์ แขกบางคนมาแล้วจึงปลื้มปริ่มมาก เพราะนอกจากพักสบายแล้วยังได้รับคำปรึกษาปัญหาสุขภาพของลูกรักสี่ขากลับไปด้วย
...
เมนูอาหารเช้าที่นี่จัดได้น่ารักน่าชัง มีทั้งชุดอเมริกันเบรกฟาสต์ เกี๊ยวน้ำ ข้าวต้ม หรือจะสั่งเป็นเมนูอะลาคาร์ท (ที่มีจำหน่ายทั้งวัน) ก็สามารถเลือกได้ แนะนำ สลัดไทยกุ้งสด สูตรเด็ดของเจ้าของร้าน สปาเกตตีผัดกะปิ เมนูฟิวชั่นที่รสดีกลิ่นหอมยั่วใจ แฮมสเต๊กชีส เนื้อแน่น หรือใครชอบแซ่บต้องลอง แซลมอนยำตะไคร้หอม และหอยแมลงภู่ราดซอสโหระพา
Gingerbread House 76/16 ต.พรหมณี อ.เมือง นครนายก โทร.0-2917-3349, 09-2268-8272 (โค้ดที่มุมกระดาษ) H&C Review ฉบับ ส.ค. 2558 Gingerbread House
รับลมชมสายน้ำ ณ Arthit-Tara
หากการได้ตื่นมาชมแสงอ่อนๆ ของพระอาทิตย์ริมน้ำ พร้อมอิ่มเอมไปกับอาหารเช้ารสชาติดีท่ามกลางแมกไม้เขียวขจี รวมถึงได้ซึมซับวิถีชีวิตเรียบง่ายแบบชนบท คือความต้องการของคุณ บอกเลยว่าไม่ควรพลาดที่นี่
เดิมทีคุณอาร์ท-หม่อมหลวงอภิชิต วุฒิชัย ตั้งใจสร้างที่แห่งนี้ไว้เป็นบ้านพักตากอากาศ ยามที่อยากหนีความวุ่นวายจากเมืองกรุง นานเข้าเริ่มมีเพื่อนฝูงแวะเวียนมาพักด้วยบ่อยครั้ง เพื่อนของเพื่อนก็เรียกร้องอยากให้เปิดเป็นรีสอร์ต คุณอาร์ทและ คุณกบ-อาภาศิริ เทพหัสดิน ณ อยุธยา คนรู้ใจจึงเริ่มขยับขยาย สร้างบ้านเพิ่มจนมีจำนวน 4 หลัง แล้วนำหลักฆราวาสธรรม 4 (ธรรมะสำหรับผู้ครองเรือน 4 ประการ) อันได้แก่ สัจจะ ทมะ ขันติ และจาคะ มาตั้งเป็นชื่อบ้านเหล่านี้
...
จุดเด่นของ Arthit-Tara (อาทิตย์-ธารา) คือทำเลที่ตั้งซึ่งอยู่ติดกับคุ้งน้ำบางปะกง สายลมโชยอ่อนที่พัดมาทำให้คุณนั่งมองเรือหาปลาลำเล็กของชาวบ้านแล่นไปมาได้เพลินจนแทบลืมเวลา โดยเฉพาะบ้าน สัจจะ และ ทมะ วิวดีสุดๆ เพราะเมื่อเปิดม่านออก จะสามารถนอนมองวิวแม่น้ำจากบนเตียงแบบพานอรามาเลยทีเดียว ด้านการตกแต่งเน้นความเรียบง่ายแต่สะดวกสบาย ช่วงสุดสัปดาห์ที่คนนิยมมาพัก เจ้าของอย่างคุณอาร์ทและคุณกบ มักจะขับรถจากกรุงเทพฯ มาดูแลแขกด้วยตัวเอง รวมถึงพนักงานส่วนใหญ่ของที่นี่ก็เป็นชาวบ้านในละแวกใกล้เคียง เมื่อมาพักคุณจึงได้พบกับบริการที่เปี่ยมไปด้วยน้ำใจไมตรี อบอุ่นใจราวกับมาพักบ้านญาติของตัวเองจริงๆ
ร้านอาหารในรีสอร์ตมีเมนูให้เลือกหลากหลาย เน้นเป็นอาหารไทยและอาหารฝรั่งรับประทานง่าย เมนูน่าลอง อาทิ แกงเลียงกุ้งสด ปลากะพงทอด น้ำพริกกะปิ ทุกจานเน้นวัตถุดิบสดใหม่ ใช้กุ้งแม่น้ำหรือปลาจากชาวบ้านมาปรุง ดังนั้นหากอยากรับประทานเมนูใด จึงต้องสั่งล่วงหน้าเสียหน่อย ส่วนอาหารเช้ามีให้เลือกทั้ง อเมริกันเบรกฟาสต์ และข้าวต้มเครื่อง ที่มีไข่เจียวเคียงมาให้ จัดเสิร์ฟในจานและถาดสังกะสี นั่งรับประทานที่ระเบียงไม้ริมน้ำ รู้สึกเลยว่าเป็นมื้อเช้าที่เรียบง่ายท่ามกลางบรรยากาศผ่อนคลาย แต่แฝงไปด้วยเสน่ห์อันยากจะลืม
Arthit-Tara 78-78/1 หมู่ 2 ตำบลบางยาง อำเภอบ้านสร้าง จังหวัดปราจีนบุรี โทร. 08-994-91956 www.arthit-tara.com
...
The Hen HUA HIN บ้านพักตากอากาศสุดคลาสสิก ริมหาดหัวหิน
ไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหน หัวหินยังคงเป็นเมืองชายทะเลสุดคลาสสิกอยู่เสมอ ยิ่งเดี๋ยวนี้มีละครพีเรียดหลายเรื่อง ที่ย้อนอดีตให้เห็นภาพบ้านพักตากอากาศสมัยคุณแม่ยังสาวอยู่บ่อยๆ หลายท่านดูแล้วคงรู้สึกอิน ฟินไปกับภาพบรรยากาศเหล่านั้น เราเลยอยากแนะนำให้มาที่นี่ “The Hen”
รีสอร์ตสุดเอ็กซ์คลูซีฟที่นำบ้านพักตากอากาศสมัยปลายรัชกาลที่ 7 มาปรับปรุงซ่อมแซมใหม่ แต่ยังคงไว้ซึ่งกลิ่นอายของหัวหินในอดีต พื้นที่ภายในกว้างขวาง พื้นบ้าน ตลอดจนการตกแต่งต่างๆ ล้วนสวยคลาสสิก จนต้องเผลอแอบคิดว่าหลุดเข้าไปในอดีตเลยทีเดียว รีสอร์ตมีห้องพัก 6 ห้อง
ประกอบไปด้วย THE PULLET ซึ่งอยู่ติดกับสระว่ายน้ำ, THE CHICK และ THE PLEIADES ห้องพักที่เปิดประตูไปเจอสวนสวยและทะเล, THE CHICK ตกแต่งสวยหวานพร้อมมีอ่างอาบน้ำขาสิงห์แบบโบราณตั้งอยู่กลางห้อง, THE PLEIADES ห้องพักขนาดใหญ่เหมาะกับมาเป็นครอบครัว และ Pool Villa บ้านโบราณหลังใหญ่พื้นที่กว้างขวาง มีห้องครัวและสระว่ายน้ำส่วนตัว
แม้ปัจจุบันตัวเมืองหัวหิน จะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตที่ผู้คนค่อนข้างจอแจ ทว่าเมื่อเดินเข้ามายัง The Hen ก็ราวกับได้พบกับอีกโลกที่แสนเงียบสงบ ชายหาดหลังบ้านอยู่ใกล้กับพระราชวังไกลกังวล เป็นบริเวณที่ค่อนข้างสะอาดสะอ้าน ไม่มีเตียงผ้าใบหรือร้านค้ามาบดบังทัศนียภาพ เมื่อนั่งมองพระอาทิตย์ขึ้นตรงนี้ จึงรู้สึกราวกับอยู่ริมชายหาดส่วนตัวเชียวล่ะ
ด้วยความที่ทำเลแห่งนี้อยู่ใจกลางเมืองหัวหิน สามารถเดินออกไปช็อป ชิม ของอร่อยได้ง่ายๆ แขกที่มาพักจึงนิยมออกไปซื้ออาหารทะเล และของอร่อยจากภายนอกเข้ามารับประทาน รีสอร์ตนี้จึงไม่มีอาหารกลางวันและเย็นเอาไว้บริการ (แต่จะมีจาน ชาม ช้อน เตรียมไว้ให้ในห้องอย่างครบครัน) ส่วนอาหารเช้า ที่นี่เขาจัดเต็มด้วยการตระเวนหาซื้อของอร่อยขึ้นชื่อเมืองหัวหินมาให้คุณลิ้มลอง อาทิ โจ๊กและต้มเลือดหมูร้านเจ๊กเปี๊ยะ ร้านชื่อดังที่เปิดมาเกือบ 40 ปีแล้ว ข้าวมันไก่ ร้านลมหวล ที่ใครมาหัวหินต้องไปต่อคิวรอ เมนูเหล่านี้จะเสิร์ฟมาพร้อมกับ เซตอเมริกันเบรกฟาสต์ น้ำผลไม้ ชา กาแฟ ขนมปัง แถมคุณยังเลือกได้ด้วยว่า จะให้เสิร์ฟถึงที่ห้องนอน หรือออกมานั่งรับประทานรับลมทะเลยามเช้าดี ซึ่งแน่นอนว่าทีมงานเราเลือกอย่างหลัง เลยได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศมื้อเช้าสุดชิลริมทะเล...จนอยากจะบอกเหลือเกินว่าอยากให้คุณผู้อ่านส่งจดหมายเข้ามาชิงรางวัล เพื่อตามรอยไปดื่มด่ำกับมื้อเช้าสุดชิลแบบนี้
The Hen HUA HIN 31 (สำนักดิศกุล) ถนนแนบเคหาสน์ ตำบลหัวหิน อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โทร.0-3253-1331 www.thehenhuahin.com
พักผ่อนในหมู่บ้านสไตล์ยุโรป ที่ La Provence SUAN PHUNG
La Provence SUAN PHUNG (ลา โปรวองซ์ สวนผึ้ง) รีสอร์ตแสนสวยที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก “แคว้นโปรวองซ์” ดินแดนตอนใต้ของฝรั่งเศส ที่มีสภาพภูมิประเทศอันสวยงาม บ้านเรือนเป็นสถาปัตยกรรมผสมผสานระหว่าง ศิลปะฝรั่งเศสและอิตาลีที่ดูแล้วแสนคลาสสิก จึงนับเป็นเมืองท่องเที่ยวในฝันของใครหลายคน
ด้วยความที่อยู่ใกล้กับเทือกเขาตะนาวศรี แถมมีลำธารเล็กๆ ทำให้ที่นี่อากาศเย็นเกือบทั้งปี ยิ่งช่วงที่อากาศหนาวจัด ตื่นเช้าขึ้นมาคุณจะได้เห็นหมู่บ้านในสายหมอกที่โรแมนติกมาก-ก รีสอร์ตนี้มีบ้านทั้งหมด 16 หลัง ทุกหลังสร้างเป็นบ้านขนาดย่อมสไตล์โปรวองซ์ หลังคามุงด้วยกระเบื้องดินเผา บานประตูสีเขียวมะกอก ผนังฉาบด้วยสีส้ม, สีเหลือง มองแล้วสบายตา ด้านหน้ามีทุ่งดอกไม้กว้างสุดสายตา ดูงดงามราวกับภาพวาดในจินตนาการ
บ้านพักทุกหลังมีระเบียงหน้าบ้าน ภายในบ้านนำข้าวของสไตล์โปรวองซ์มาตกแต่งไว้ทั่วบริเวณ เรียกว่าไม่หลุดคอนเซปต์เลยจริงๆ นอกตัวบ้านมีบันไดเดินขึ้นดาดฟ้าไปนั่งรับลมเย็นๆ ทำให้หลายคนมาแล้วมักนั่งชิลกันเพลิน
ตึกใหญ่ที่ออกแบบคล้ายโบสถ์คริสต์ คือที่ตั้งของร้านอาหารซึ่งได้เชฟฝีมือดีประจำการ พร้อมเสิร์ฟอาหารให้คุณอิ่มเอมทั้งมื้อเช้า กลางวัน เย็น โดยเฉพาะมื้อเช้าของที่นี่นอกจากจะมีอเมริกันเบรกฟาสต์ และข้าวต้มรสกลมกล่อมแล้ว ยังมีเมนูอะลาคาร์ทให้เลือกอิ่มอร่อย อาทิ เฟรนช์โทสต์ ซอสซัมเมอร์เบอร์รี่ เอ้กเบเนดิกส์ รวมถึงสลัดผลไม้รวม ที่เรียกความสดชื่นยามเช้าได้เป็นอย่างดี เช้านี้เราเลือกนั่งโต๊ะอาหารที่ด้านข้างสระว่ายน้ำ โต๊ะขนาดย่อมถูกวางอยู่ใกล้กับทุ่งดอกต้อยติ่งสีม่วงสด มองเห็นห่านสีขาวเดินผ่านทุ่งหญ้าไปช้าๆ สำหรับเราแล้วมื้อเช้านี้อร่อย งดงาม เกินคำบรรยายจริงๆ