ช่วงนี้เข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยว รัฐบาลต่อเวลาโครงการ "เราเที่ยวด้วยกัน" และยังมี "คนละครึ่ง" มาเสริมอีก คนละครึ่ง เรียกว่าส่งเสริมให้คนไปเที่ยวในช่วงหยุดยาว แต่หนาวๆ แบบนี้ ภาคเหนือ คือเป็นอะไรที่น่าเที่ยวที่สุดแล้ว ด้วยเหตุนี้ เราจึงรวบรวม 10 ที่เที่ยวภาคเหนือยอดฮิตมาให้เลือกฟินกัน
1. ไหว้พระธาตุประจำปีเกิดคนปีฉลู ชมเงาพระธาตุกลับหัว
เริ่มกันที่แรก จ.ลำปาง หากมาแอ่วแล้วต้องไปชมความงามของ “วัดพระธาตุลำปางหลวง” วัดคู่บ้านคู่เมืองลำปางมาแต่โบราณตั้งแต่สมัยพระนางจามเทวี ราวปลายพุทธศตวรรษที่ 20 วัดนี้ตั้งอยู่ใน อ.เกาะคา ห่างจากตัวเมืองลำปาง ไปทางทิศตะวันตก เฉียงใต้ ประมาณ 18 กิโลเมตร
เสน่ห์ของวัดพระธาตุลำปางหลวง คือ ความงดงามของสถาปัตยกรรมอันเก่าแก่ ฐานเป็นบัวลูกแก้ว ส่วนองค์เป็นทรงกลมแบบล้านนา ภายนอกบุด้วยทองจังโก ยอดฉัตรทำด้วยทองคำ มีลายสลักดุนเป็นลวดลายประจำยามแบบต่างๆ เป็นวัดไม้ที่มีความสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งของไทย สิ่งน่าสนใจภายในวัดที่โดดเด่นคือ “พระธาตุลำปางหลวง” เป็นพระธาตุประจำปีเกิดของคนปีฉลู ด้วยเริ่มสร้างในปีฉลูและเสร็จสิ้นในปีฉลูเช่นกัน และมีความพิเศษอันเลื่องชื่อเฉพาะผู้ชาย คือ ชมเงาพระธาตุกลับหัวในมณฑป
...
2. เที่ยวน้ำพุร้อน ชมน้ำตก 6 ชั้น อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน
เมื่อไปเที่ยววัดในลำปางแล้ว เราไปชมความงามของธรรมชาติกันบ้าง อีกที่เที่ยวยอดฮิตไม่แพ้กัน นั่นคือ อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน จังหวัดลำปาง ตั้งอยู่หมู่ที่ 8 ตำบลวังเงินถนนลำปาง-เดินชัย ภายในบริเวณอุทยานฯ เต็มไปด้วยต้นไม้ขนาดใหญ่ สร้างความร่มรื่น สูดอากาศบริสุทธิ์เต็มปอดแล้ว ยังมีโขดหินธรรมชาติสวยงามท่ามกลางแอ่งน้ำพุร้อนให้ได้อาบหรือแช่เพื่อสุขภาพ
นอกจากได้ถ่ายรูปเพลินๆ สวยๆ โดยเฉพาะเวลาเช้าตรู่มายืนชมพระอาทิตย์กำลังขึ้นท่ามกลางไอระเหยจากน้ำร้อน แล้วยังมีบริการต้มไข่น้ำแร่กินอิ่มท้อง นอกจากนี้ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ 1 กิโลเมตร ยังมีน้ำตกแจ้ซ้อนที่กำเนิดจากลำน้ำแม่มอญ ไหลตกลงมาถึง 6 ชั้น ให้ได้สัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิดอีกด้วย เรียกว่ามาที่เดียวเที่ยวหลายรูปแบบ
3. กระซิบกระซาบบอกรัก ณ น่าน
สถานีต่อไปในภาคเหนือที่ควรเที่ยวหน้าหนาว คือ วัดภูมินทร์ จ.น่าน เดิมชื่อ "วัดพรหมมินทร์" สร้างขึ้นเมื่อประมาณ พ.ศ. 2139 โดยพระเจ้าเจตบุตรพรหมมินทร์ เจ้าผู้ครองเมืองน่านได้สร้างขึ้นหลังจากที่ครองนครน่านได้ 6 ปี มนตร์เสน่ห์ของวัดที่น่าหลงใหล คือ โบสถ์และวิหารสร้างเป็นอาคารหลังเดียวกัน
...
นอกจากนี้ประตูไม้ทั้งสี่ทิศวิจิตรงดงามด้วยการแกะสลักลวดลายโดยช่างฝีมือล้านนา ไฮไลต์ที่ไม่ควรพลาด คือ ภาพจิตรกรรมฝาผนังทุกด้านในวิหาร ถ่ายทอดชีวิตและ วัฒนธรรมของคนเมืองน่านในอดีตน่าสนใจอยู่หลายภาพ แต่ที่โด่งดังจนกลายเป็นอีกเอกลักษณ์หนึ่งของเมืองน่าน และนักท่องเที่ยวต้องมาชม คือ ภาพปู่ม่านย่าม่าน ผู้ชายผู้หญิงชาวไทลื้อในสมัยโบราณกระซิบกระซาบบอกรักกัน
4. สัมผัสหมอกยามเช้า ดอยเสมอดาว
หากมาเยือนน่านแล้วอยากท่องเที่ยวกางเต็นท์พักแรม ตื่นมาสัมผัสหมอกยามเช้าละก็ “ ดอยเสมอดาว ” ในอุทยานแห่งชาติศรีน่าน อำเภอนาน้อย จังหวัดน่าน คือเป้าหมายตอบโจทย์ตรงใจที่สุด นอกจากมีธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์เหมาะแก่การมาเที่ยวพักผ่อนสุดๆ แล้ว ยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกและชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงามอีกที่หนึ่งเลยทีเดียว
...
ยามเย็นหลังท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนสีอมส้ม อากาศบน ดอยเสมอดาวเร่ิมลดลงๆ สายลมหนาวเร่ิมพัดผ่านผิวกาย เมื่อมองไปบนท้องฟ้า เห็นหมู่ดวงดาวส่องแสงสว่างไสวทั่วทั้งฟ้า เป็นภาพสวยจับใจที่น่าจดจำ พอตื่นเช้าก็จะมีทะเลหมอกให้ได้ชมความงามกันได้อย่างเต็มที่ เป็นอีกสถานที่สุดโรแมนติกสุดๆ ที่ต้องมาให้ได้สักครั้งไปเลยค่ะ
5. นอนบ้านดิน จิบชาอุ่น ณ บ้านรักไทย แม่ฮ่องสอน
หากอยากสัมผัสหมู่บ้านชาวจีนยูนนาน ที่รายล้อมด้วยหุบเขาใหญ่ละก็ แนะนำไปเที่ยวที่ บ้านรักไทย แม่ฮ่องสอน อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลถึง 1,776 เมตร ที่ตั้งอยู่ที่ตำบลหมอกจำแป่ ห่างจากตัวเมืองประมาณ 40 กว่ากิโลเมตร
...
ความน่าสนใจของที่นี่นอกจากจะภูมิทัศน์และความธรรมชาติที่สวยงามแล้ว เสน่ห์ของที่นี่คือบ้านเรือนและเกสต์เฮ้าส์ทำมาจากบ้านดินให้เราได้นอนพักเปลี่ยนบรรยากาศ รวมถึงอาหารสไตล์จีนยูนนาน ชา และ ขาหมู่หมั่นโถว ให้ได้ลิ้มรส เชื่อได้ว่าเมื่อมาเยือนที่นี่แล้วแทบไม่รู้สึกว่ากำลังอยู่เมืองไทย
6. ชมทุ่งดอกบัวตองใหญ่ที่สุดในไทย ดอยแม่อูคอ
มาเยือนเมืองเหนือทั้งที สิ่งไม่ควรพลาดอีกอย่างคือ ชมทุ่งดอกบัวตอง บานสะพรั่งสีเหลืองสดใสอร่ามปกคลุมทั่วทั้งหุบเขา บนดอยแม่อูคอ เบ่งบานให้ชมเฉพาะเดือนพฤศจิกายนและธันวาคมเท่านั้น ดอยแม่อูคอ ตั้งอยู่ในอำเภอขุนยวม แม่ฮ่องสอน มีพื้นที่กว้างใหญ่ถึงขนาด 500 กว่าไร่ นับเป็นทุ่งดอกบัวตองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย บนความสูงประมาณ 1,600 เมตรจากระดับน้ำทะเล
นอกจากสูดอากาศดีๆ แล้ว ยังได้รูปสวยๆ หลายมุมรอบ 360 องศาอีกด้วย บนดอยแม่อูคอ นอกจากนักท่องเที่ยวมาชมทุ่งดอกบัวตองแล้ว ยังมีจุดกางเต็นท์ ห้องน้ำ ห้องอาบน้ำไว้บริการหากต้องการนอนค้าง
7. มหัศจรรย์ธรรมชาติ "ผาช่อ" หน้าผาสุดอลังการกลางป่า
สำหรับนักท่องเที่ยวขาลุย อยากเดินออกกำลังกายพร้อมชมความงามของธรรมชาติ หากปักหมุดมาเชียงใหม่แล้ว ควรไปเที่ยว “ผาช่อ” ซึ่งตั้งอยู่ใน อุทยานแห่งชาติแม่วาง ตำบลสันติสุข อำเภอดอยหล่อ เสน่ห์ของผาช่อจนได้รับฉายา ว่า แกรนด์แคนยอนเมืองไทย คือความมหัศจรรย์ของลมฝนกัดเซาะจนเกิดความสวยงามตามธรรมชาติตามภาพที่เห็น
การเดินชม ผาช่อ แนะนำว่าควรใส่ผ้าใบและพกน้ำดื่มจิบระหว่างทาง เพราะต้องเดินลุยป่าฝ่าดงและตลอดทางเต็มไปด้วยกรวดหิน แต่ระหว่างทางก็มีร่มเงาของต้นไม้ให้หยุดพัก สูดอากาศบริสุทธิ์และชมความงามของผาช่อมุมต่างๆ ทำให้การเดินเท้าเต็มไปด้วยความสนุกสนาน และเมื่อไปถึงจุดหมายแล้วถือว่าคุ้มค่าสุดๆ กับความงามอันซีนที่ยิ่งใหญ่สุดอลังการ
8. มนตร์เสน่ห์กลางหุบเขา "แม่กำปอง"
หากอยากปลีกสัมผัสวิถีชีวิตคนพื้นถิ่น ต้องอย่าลืมปักหมุด “แม่กำปอง” ซึ่งตั้งอยู่ในกิ่งอำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่ จะเที่ยวแบบไปเช้าเย็นกลับ หรือเลือกนอนพักโฮมสเตย์ก็ได้ เพราะหมู่บ้านแห่งนี้เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางธรรมชาติป่าเขาอันเขียวขจี มีลำธารใสเย็นไหลพาดผ่าน หากมาเยือนแห่งนี้ความสุขที่จะได้รับ คือ อากาศอันสุดแสนบริสุทธิ์ รวมถึงได้สัมผัสกลิ่นอายความเป็นอยู่ของชาวบ้านที่อยู่อย่างเรียบง่าย
9. สัมผัสทะเลหมอก 360 องศา กลางขุนเขาภูชี้ฟ้า
สถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตเต็มไปด้วยทะเลหมอกต้อง ภูชี้ฟ้า ตั้งอยู่ในอำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย เป็นยอดเขาสูงที่สูงถึง 1,200 - 1,628 เมตร และเป็นยอดเขาที่อยู่ติดพรมแดนไทย-ลาว เอกลักษณ์ของภูชี้ฟ้าที่ต้องมาให้ถึง คือ หน้าผาปลายยอดแหลมที่ชี้ไปทางฝั่งประเทศลาว ซึ่งเป็นที่มาของชื่อ ภูชี้ฟ้า นั่นเอง และยังเป็นจุดชมวิวทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้น ที่เป็นไฮไลต์สำคัญของภูชี้ฟ้าที่สวยไม่แพ้ที่ไหนๆ อีกด้วย
10. เที่ยวไร่ชาขั้นบันได อิ่มท้องกับเมนูสารพัดชา
มาเยือนเชียงรายทั้งทีไม่แวะเที่ยวไร่ชาฉุยฟง ตั้งอยู่ที่ อำเภอแม่จัน ถือว่ายังมาไม่ถึงเชียงรายป็นแหล่งท่องเที่ยวฮอตฮิตติดลมบนที่คนไม่เคยพลาด เพราะที่นี่เป็นผู้ผลิตใบชารายใหญ่สุดมากว่า 40 ปีแล้ว นอกจากได้ชมไร่ชาขั้นบันได ลงไปถ่ายรูปสวยๆ กับไร่ชา ที่นี่ยังมีคาเฟ่สุดชิลให้นักท่องเที่ยวได้อิ่มอร่อยกับเค้ก อาหาร พร้อมนั่งจิบชา ที่วัตถุดิบทำจากชาเขียวทุกอย่าง พร้อมชมวิวในบรรยากาศดีๆ อีกด้วย เรียกได้ว่าคุ้มสุดๆ มาที่นี่ที่เดียวทั้งอิ่มท้องกับของกินอร่อยๆ และอิ่มใจกับบรรยากาศที่สวยงาน
(ขอบคุณข้อมูล : ททท.)
: ข่าวน่าสนใจ :