นั่งรถไฟ NEW-JR-WEST ไปเที่ยวสวนไทรโยค

หกโมงเช้าของวันที่ 12 สิงหาคม แขกรับเชิญแต่งกายด้วยเสื้อผ้าสีฟ้ามาพร้อมกันที่สถานีรถไฟหัวลำโพง คุณยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย มาส่งคณะของเราขึ้นรถไฟโบกี้พิเศษ ซึ่งเป็นเที่ยวปฐมฤกษ์เที่ยวเดียวเพื่อท่องเที่ยวไปตามเส้นทางรถไฟสายน้ำตก จุดแรกที่ขบวนรถไฟหยุดคือ สถานีนครปฐม ผู้โดยสารได้ลงไปนมัสการ องค์พระปฐมเจดีย์ และเดินตลาดเช้าหาซื้อของอร่อยตามตำรับนครปฐมที่มีให้เลือกมากมาย โดยเฉพาะ ข้าวหลามเชลล์ชวนชิมของแม่ลูกจันทร์ ที่วางขายอยู่หน้าสถานี เป็นของกินที่เหมาะจะกินบนรถไฟที่สุด พอได้เวลาก็กลับมาขึ้นรถไฟเดินทางต่อไป ตลอดเส้นทางที่รถไฟวิ่งผ่านจะเห็นทิวทัศน์สองข้างทางเขียวขจีไปด้วยต้นไม้ใหญ่น้อย และท้องทุ่งที่เต็มไปด้วยนาข้าวออกรวงไสวสุดลูกหูลูกตา ยิ่งช่วงนี้เป็นหน้าฝน  แม่น้ำลำคลองเจิ่งนองเต็มสองฝั่ง มองเห็นความอุดมสมบูรณ์ของเมืองไทย ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว

นั่งเพลินๆ ไปจนถึง สถานีสะพานข้ามแม่น้ำแคว ซึ่งอยู่กลางเมืองกาญจนบุรี และเป็นจุดที่น่าสนใจของเส้นทางรถไฟสายนี้ รถไฟหยุดให้นักท่องเที่ยวได้ลงไปถ่ายรูปกับขบวนรถไฟและสะพานประวัติศาสตร์ที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ สะพานและทางรถไฟสายนี้เป็นเส้นทางที่กองทัพทหารญี่ปุ่นสร้างขึ้น เพื่อใช้เป็นเส้นทางเชื่อมต่อไปยังประเทศพม่า โดยใช้แรงงานจากเชลยศึกของฝ่ายพันธมิตร มีอังกฤษ อเมริกัน ออสเตรเลีย ฮอลันดา นิวซีแลนด์ ประมาณเจ็ดหมื่นคน นี่ยังไม่รวมกรรมกรที่เป็นชาวจีน ญวน ชวา มลายู พม่า อินเดีย และคนไทยอีกหลายพันคนมาช่วยกันสร้าง เฉพาะช่วงที่เป็นสะพานระยะทาง 300 เมตรใช้เวลาสร้างแค่เพียง 1 เดือนเท่านั้น ลองคิดดูว่าทำได้อย่างไรในเมื่อความยากลำบาก ความเหน็ดเหนื่อย อาหารการกินไม่เพียงพอ และโรคภัยไข้เจ็บ ตลอดจนความโหดร้ายทารุณจากภาวะสงคราม ทำให้หลายหมื่นชีวิตต้องตาย
ลงบนเส้นทางสายนี้ เขาเปรียบจำนวนไม้หมอนของทางรถไฟสายนี้ว่า หนึ่งไม้หมอนเท่ากับหนึ่งชีวิตเชลยศึกที่ตายไป เส้นทางรถไฟสายนี้จึงมีชื่อว่า “เส้นทางรถไฟสายมรณะ”

เราเดินทางต่อไปยัง สวนไทรโยค ซึ่งเป็นที่หมายสุดท้าย รถไฟจอดส่งนักท่องเที่ยวลงที่สถานีถ้ำกระแซ อยู่หน้าสวนไทรโยครีสอร์ทพอดิบพอดี ขณะนั้นเป็นเวลาเที่ยงตรง คณะผู้ร่วมเดินทางทุกคนจึงลงไปรับประทานอาหารกลางวันที่แสนเอร็ดอร่อยที่ ทางสวนไทรโยคจัดเตรียมไว้ให้อย่างดีเยี่ยม แล้วจึงแยกย้ายกันเข้าห้องพัก

พูดถึงสวนไทรโยค ขอเล่าให้ฟังหน่อยว่า ผมรู้จักสนิทสนมกับ คุณเล็ก เดิมชื่ออัจฉรา เป็นครูสอนโรงเรียนเตรียมอุดมและพณิชยการธนบุรี ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น กัญกิติกา เอกกีรติกุล เจ้าของสวนไทรโยคมานานแล้วตั้งแต่เริ่มสร้างใหม่ๆ ประมาณปี 2526 คุณเล็กมาขอให้ผมพูดวิทยุรายการครอบจักรวาลเชิญชวนคนไปเที่ยวและล่องแพ (สวนไทรโยคเป็นต้นตำรับผู้บุกเบิกการล่องแพล่องแก่งเป็นเจ้าแรกในสมัยนั้น) พอพูดจบคนก็แห่กันไปเที่ยวจนสวนไทรโยคดังระเบิดแพแทบแตก ไปคราวนี้ได้เห็นความเจริญก้าวหน้าและความเติบโตของสวนไทรโยค ตลอดจนการพัฒนาที่ไม่หยุดยั้ง มีห้องพักที่ทันสมัย ก็รู้สึกดีใจ สำหรับผมก็ได้แต่ชื่นชมและนั่งพักผ่อนอยู่ริมแควน้อย ดูเด็กๆล่องแพ เล่นน้ำ และคอยดูรถไฟวิ่งผ่านสวนไทรโยคไปยังสถานีน้ำตก

กิจกรรมที่สวนไทรโยคจัดให้นักท่องเที่ยวในคราวนี้ มีการล่องแพ เป็นแพสมัยใหม่ที่ทำจากไม้สักและทุ่นเหล็ก ทำให้มีความปลอดภัย บนแพปูกระดานไม้สักสามารถนั่งได้ 14 คน ก่อนลงแพเจ้าหน้าที่จะให้ทุกคนใส่ชูชีพและบอกกฎกติกามารยาทในการล่องแพและเล่นน้ำให้เข้าใจเพื่อความปลอดภัย จากนั้น เรือหางยาวจะลากแพที่ผูกต่อกันหลายๆ แพแล่นทวนน้ำขึ้นไปประมาณ 2 กิโลเมตร แล้วปล่อยให้แพล่องตามน้ำกลับมาที่พัก คนไหนอยากลอยคอตามน้ำไปพร้อมๆกับแพก็กระโดดลงน้ำ เกาะกลุ่มกันลอยตามน้ำอย่างสนุกสนาน โดยมีเจ้าหน้าที่คอยบอกว่าให้ลอยมาทางไหน ไม่ให้ลอยไปตรงน้ำเชี่ยว แต่ถ้าใครไม่อยากลงแพลงน้ำก็ไปผจญภัยที่สวนไทรโยคแอดเวนเจอร์ปาร์ค ที่มีเครื่องเล่นหลายชนิด เช่น โดดหอสูง โรยตัวจากหอสูง ปีนหน้าผาจำลอง ไต่บันไดลิงบนต้นไม้ และฐานผจญภัยอีกมากมายหรือจะขับรถ ATV วิบากไปตามเส้นทางเชิงเขาในป่าไผ่ก็ไม่ผิดกติกาแต่อย่างใด

ช่วงค่ำ หลังจากรับประทานอาหารเย็นเสร็จแล้ว คุณเอก-ฉัตร สุนทรหัทยา ลูกชายของคุณเล็ก ซึ่งเป็นกรรมการผู้จัดการสวนไทรโยค ได้จัด พิธีเทิดพระเกียรติแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระ บรมราชินีนาถ และวันแม่แห่ง ชาติ โดยให้ผมเป็นตัวแทนกล่าวถวายพระพรชัยมงคล จากนั้น ก็ชมการแสดงดนตรี “บทเพลงอมตะแห่งราชอาณาจักรไทย” จำนวน 12 เพลง บรรเลงโดยวงดนตรีคลาสสิกของดุริยางค์กองทัพอากาศ ทั้งบรรยากาศและความไพเราะของบทเพลง สร้างความปลื้มปีติให้แก่ผู้ที่มาร่วมงานกันถ้วนหน้า

เช้าวันที่ 13 สิงหาคม รับประทานอาหารเช้าเสร็จ ใครใคร่ทำกิจกรรมอะไรก็ตามอัธยาศัย กินข้าวกลางวันเสร็จก็ขึ้นรถโค้ชและชมสถานที่ท่องเที่ยวตามรายทางกลับกรุงเทพฯ ความสนุกความประทับใจแบบนี้สวนไทรโยคเขาถนัดและรับประกันความมันตามสโลแกน “ไปง่าย จ่ายน้อย อาหารอร่อย กิจกรรมสนุก” ถ้าสนใจก็ถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่เบอร์ 0-2967-8181-4, 0-3453-1548 หรือ www.suansaiyok.com

สำหรับโบกี้รถไฟสุดหรูได้สอบถาม คุณกมล-ชนก มุกดา หัวหน้ากองโฆษณาและส่งเสริมการท่องเที่ยว ของการรถไฟฯได้ความว่า การรถไฟฯได้ปรับปรุงโบกี้เพื่อรองรับความต้อง การของลูกค้าเอกชน บริษัท ห้างร้านทั้ง หลาย จึงทำโบกี้โดยสารที่หรูที่สุดตั้งแต่ก่อตั้งรถไฟมา มีทั้งหมด  3 โบกี้ แต่ละโบกี้จะตกแต่งต่างกันไป เป็นห้องพักส่วนตัวพร้อมห้องน้ำ  ห้องประชุมสัมมนา พร้อมเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ไฮเทค ห้องคาราโอเกะพร้อมจอ LCD ห้องรับประทานอาหารพร้อมบาร์ โซฟา แต่ละห้องมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครันแอร์เย็นฉ่ำชื่นใจ ที่แจ๋วที่สุดเห็นจะเป็นหน้าต่างกระจกใสรอบโบกี้ที่ทำให้เรามองเห็นทิวทัศน์สองข้างทางแบบพาโนรามา 360 องศา ระหว่างนั่งชมวิวเพลินๆ คุณปรีชา ไมตรีรักษ์ เจ้าพนักงานการเดินรถ 6 ได้มาเล่าประวัติศาสตร์เส้นทางรถไฟสายมรณะให้ผู้โดยสารฟังทุกโบกี้ ต้องขอชื่นชมว่าเล่าได้อย่างสนุกสนาน แถมมีของรางวัลมาแจกให้ผู้ที่ตอบคำถามได้อีก ทำให้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ได้ทั้งความรู้และความบันเทิง

สำหรับลูกค้าที่ต้องการความหรูหราเป็นส่วนตัว พร้อมการเดินทางท่องเที่ยวแบบสบายๆ กับการรถไฟฯ จะเช่าเหมาโบกี้พิเศษ NEW-JR-WEST สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่กองโฆษณาและส่งเสริมการท่องเที่ยวการรถไฟแห่งประเทศไทย โทร. 0-2220-4273ความสะดวกสบายและความสุขแบบนี้แหละที่ผมฝันอยากให้การรถไฟฯ ทำมานานแล้ว บัดนี้ความฝันเป็นจริงแล้ว จึงอยากเชิญชวนผู้ที่ชื่นชอบการเดินทางด้วยรถไฟแบบผม

ไปสัมผัสความสุขให้ชีวิตสักครั้ง อายุจะได้ยืนยาวไปอีกหลายปี.