ปลายเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา ผอ.เอ...ปาริชาติ บุญคล้าย ชวนไปร่วมงาน เปิดตัวแบรนด์ “We Love Chiang Mai” ที่บริเวณข่วงประตูท่าแพ นัยว่า เพื่อปลุกกระแสการท่องเที่ยวอันซบเซาของเชียงใหม่ ให้ตื่นตัวอีกครั้ง

ก็พอดีกับที่เรากำลังเริงร่าท้าลมหนาว อยู่ที่ อ.สะเมิง ในงานสตรอว์เบอร์รี ซึ่งถือเป็นไฮไลต์งานใหญ่ประจำปีของอำเภอเล็กๆที่เงียบสงบแห่งนี้
และไม่ใช่แค่เป็นแหล่งปลูกสตรอว์เบอร์รี เท่านั้น แต่สะเมิงยังเป็นแหล่งรวมพันธุ์ไม้เมืองหนาวหลายชนิด โดยเฉพาะล่าสุดเมื่อปลายปี อำเภอเล็กๆแห่งนี้ ก็โด่งดังเป็นพลุแตก กับ ทุ่งดอก เก๊กฮวย ที่บรรดาบล็อกเกอร์ เว็บเพจ แถมด้วยอินฟลูเอนเซอร์ทั้งหลาย ต่างพากันมาเช็กอิน เซลฟี่ ถ่ายรูป โพสต์ลงโซเชียลมีเดีย จนทำให้ผู้คนพากันแห่แหนไปเที่ยวนับจำนวนได้หลายหมื่น เพราะนอกเหนือไปจากความสวยงามของดอกไม้แล้ว ที่นี่ยังมีหมอกจางๆและอากาศเย็นๆให้เราได้สูดความบริสุทธิ์กับไปสู้ทั้ง PM 2.5 และ COVID-19

เสียดายที่ตอนเราไปถึง ดอกเก๊กฮวยทั้งสีขาว สีเหลือง ร่วงโรยไปหมดแล้ว คงต้องรอปีหน้า ช่วงประมาณเดือน ต.ค.-พ.ย. บรรดาเก๊กฮวยทั้งหลายจึงจะออกดอกบานชูช่อรอต้อนรับนักท่องเที่ยวกันอีกครั้ง

...

ทริปนี้ หลักๆคือ มาเก็บและกินสตรอว์เบอร์รีสด ที่จะออกในช่วงเดือนพฤศจิกายนไปจนถึงเดือนเมษายนของทุกๆปี ถือเป็นช่วงพีกของสตรอว์เบอร์รีเลยทีเดียว เพราะสวนสตรอว์เบอร์รีทุกสวนจะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปเก็บผลสตรอว์เบอร์รีที่เริ่มสุก และแก่ โดยจะเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงหรือสีชมพูจนถึงสีแดง และอำเภอสะเมิงก็จะอาศัยช่วงนี้ จัดงานสตรอว์เบอร์รีของดีอำเภอสะเมิงดึงดูดนักท่องเที่ยว ให้เดินทางมาท่องเที่ยว

หลังจากเก็บและกินสตรอว์เบอร์รีจนอิ่มหนำ สำราญ ในช่วงกลางคืนของงาน จะมีการประกวดสาวงาม ประกวดร้องเพลงลูกทุ่ง ผู้คนจากหมู่บ้านบนดอยสูงทั้งแม่ยางห้า อมลอง บ่อแก้ว จะพากันลงมาร่วมงานอย่างสนุกสนาน ที่หนึ่งปีมีแค่ครั้งเดียว

คืนนี้เราพักที่ หลองข้าวสะเมิง ที่พักสุดฟิน อยู่ในตัวอำเภอสะเมิงเลย เรียกว่า เดินจากที่พักไปงานสตรอว์เบอร์รีได้ แถมกลางคืนยังมีเสียงประกวดร้องเพลงลูกทุ่งขับกล่อมมาไกลๆให้ได้นอนฝันดีอีกต่างหาก

บรรยากาศของหลองข้าวสะเมิง บอกเลยว่า ใครมาก็ติดใจ เพราะสวยมาก ทั้งกลางวันและกลางคืน ไอเดียการออกแบบห้องพักก็เก๋ไก๋ เพราะสร้างแบบยุ้งฉางของภาคเหนือ หรือที่เรียกว่า “หลองข้าว” เป็นบ้านไม้มีใต้ถุน ภายในตัวห้องพักส่วนใหญ่ใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้ ตั้งแต่เตียง โต๊ะ ตู้ ไปจนถึงไม้ขัดแตะที่ทำเป็นกลอนประตู ยิ่งถ้าไปช่วงหน้าหนาวแทบไม่ต้องเปิดพัดลมเปิดแอร์กันเลย ตื่นมาตอนเช้าก็มีทุ่งดอกไม้สีสวยบานรับอรุณ เช่นเดียวกับที่ตอนกลางคืน มีระเบียงให้นอนดูดาว โรแมนติกสุดๆ เป็นกลิ่นไอของความอบอุ่น ที่หาได้ยากในที่อื่น

วันนี้ หลังจากใส่บาตรภายในบริเวณรีสอร์ตแล้ว เรามีนัดไปออนเซน ที่ น้ำพุร้อนโป่งกวาว ซึ่งอยู่ห่างจากอำเภอสะเมิงประมาณ 30 กิโลเมตร แม้ว่าเส้นทางไปยังน้ำพุร้อนออกจะค่อนข้างไกล เป็นหลุมเป็นบ่อไปบ้าง แต่ระหว่างทางก็ได้สัมผัสธรรมชาติ ที่เต็มไปด้วยป่า หุบเขา ที่ทั้งสวยงามและสดชื่น

พอถึงเวลาแช่น้ำร้อน บอกเลยว่า ฟินสุดๆ บอกเลยว่า น้ำพุร้อนโป่งกวาวแห่งนี้เป็นสถานที่พักผ่อนอีกที่หนึ่งที่ดีมากๆของสะเมิง เรียกได้ว่าเป็นออนเซนที่ดีที่สุดของเชียงใหม่ ใครที่ชอบความเป็นส่วนตัวก็มีห้องส่วนตัวให้สะอาดสะอ้าน แช่ตัวเสร็จจะนวดหรือประคบสมุนไพร ก็มีบริการ ไม่ต้องบินไปไกลถึงญี่ปุ่นเลยจริงๆ

...

ขากลับจากสะเมิงมาเชียงใหม่ ก็ไม่ธรรมดา มีที่ให้แวะเที่ยวทั้งโป่งแยงแอ่งดอย ปางช้างแม่สา ฟาร์มงูแม่สา น้ำตกแม่สา สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ก่อนจะเข้าสู่ตัวเมืองเชียงใหม่ มาทันงานเปิดแบรนด์ “We Love Chiang Mai” ที่บริเวณข่วงประตูท่าแพพอดี

เจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวในงานว่า จากสถานการณ์การระบาดของโรค COVID-19 ทำให้สถานการณ์การท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ได้รับผลกระทบอย่างมาก ทั้งในด้านการท่องเที่ยว และธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง แบรนด์ “We Love Chiang Mai” จะเป็นแบรนด์ของจังหวัด ที่สร้างสรรค์โดยทุกคน และคนเชียงใหม่เป็นเจ้าของร่วมกัน ใช้ความสามัคคีของทุกภาคส่วนร่วมมือในการสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ ให้กับจังหวัดเชียงใหม่ ทั้งทางด้านการประชาสัมพันธ์ การสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่ให้กลับมาคึกคักเช่นเดิม

“หากคุณรักเชียงใหม่คุณจะไม่เผาป่า เราจะไม่เอาเปรียบนักท่องเที่ยว เพราะเรารักเชียงใหม่ ทั้งนี้ สถานประกอบการใดที่เข้าร่วมโครงการ จะมีสติกเกอร์ We Love Chiang Mai ติดหน้าร้านสถานประกอบการ โรงแรม ที่พัก เป็นสัญลักษณ์ ส่วนรถยนต์จะมีสติกเกอร์ We Love Chiang Mai ติดท้ายรถยนต์ไว้ว่าเรารักเชียงใหม่ เราจะไม่ทำผิดกฎจราจร ถือเป็นสิ่งที่คนเชียงใหม่จะทำสิ่งดีๆร่วมกันครับ” ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ บอก

...

เอาเป็นว่า ถ้านึกถึงที่เที่ยวหนีโควิด-19 สงกรานต์นี้ หรือหน้าหนาวคราวหน้า นึกถึงเชียงใหม่ ไปออนเซน เก็บสตรอว์เบอร์รี สัมผัสอากาศหนาว ดอกไม้สวยๆ เที่ยวแบบไทยๆกันดีกว่า.