หากวันนี้ เราถามว่าขนมหวานยอดฮิตของบรรดาวัยรุ่น วัยใส ที่นิยมซื้อทานคืออะไร คิดว่าต้องมีช็อกโกแลตติดอยู่ในความนิยม 1 ใน 5 แน่นอน

ช็อกโกแลต เป็นของหวานทานเล่นที่ผลิตมาจากเมล็ดโกโก้ที่นำมาปรุงแต่งรสชาติให้มีความหวานและเติมส่วนผสมอื่นๆ เข้าไปสร้าง รสชาติให้น่าหลงใหล

ช็อกโกแลตที่เราเห็นมีหลายประเภท เช่น ช็อกโกแลตดำ คือ ช็อกโกแลตที่ไม่ได้เพิ่มนมเป็นส่วนผสม มีสารฟลาโวนอยด์ เป็นสารแอนติออกซิแดนต์ป้องกันมิให้เกิดไขมันสะสมที่ผนังหลอดเลือดหัวใจ ที่เป็นสาเหตุของโรคหัวใจเลือดตีบและช่วยป้องกันไม่ให้เกล็ดเลือดแข็งตัว

ช็อกโกแลตนม มีการเติมเนย โกโก้ นม น้ำตาลเป็นส่วนผสม ช็อกโกแลตแทบทุกชนิดจะเติมความหวานจากนมและน้ำตาลเข้าไปเพื่อให้เกิดรสชาติกลมกล่อม

เมื่อเราทานช็อกโกแลตจะรู้สึกสดชื่น เพราะได้รับน้ำตาลเป็นสารที่ให้พลังงาน แต่หากทานในปริมาณที่มากเกินไป อาจส่งผลเสียต่อร่างกายได้ เช่น ทำให้เกิดภาวะโรคอ้วนและโรคที่เกิดต่อเนื่องจากความอ้วน ได้แก่ เบาหวาน โรคหลอดเลือดหัวใจ

เด็กๆ ก็ไม่ควรทานมากเพราะจะทำให้ฟันผุ องค์การอนามัยโลกแนะนำ ให้บริโภคน้ำตาล ที่เติมในอาหารไม่ควรเกินร้อยละ 10 ของพลังงานที่ได้รับใน 1 วัน จึงจะเหมาะสมและเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย

ขณะที่สหรัฐฯแนะนำให้คนแต่ละวัยไม่ควรได้รับน้ำตาลที่เติมลงไปในอาหารและเครื่องดื่มเกินกำหนด คือ เด็กวัยก่อนเรียน และวัยเรียน ไม่ควรเกิน 4 ช้อนชา/วัน วัยรุ่นไม่เกิน 5 ช้อนชา/วัน และผู้ใหญ่สุขภาพปกติไม่เกิน 8 ช้อนชา/วัน และผู้สูงอายุไม่เกิน 3 ช้อนชา/วัน

วันนี้ สถาบันอาหารได้สุ่มตัวอย่างช็อกโกแลตนม จำนวน 5 ตัวอย่าง จาก 5 ยี่ห้อ เพื่อนำมาวิเคราะห์หาปริมาณน้ำตาลทั้งหมดที่มีในช็อกโกแลต ผลที่ได้ตามตารางด้านล่าง

...

จะเห็นว่าใน 1 วัน เพียงแค่เราทานช็อกโกแลต 1 ถุง ก็ได้รับน้ำตาลในปริมาณพอเหมาะต่อร่างกายแล้ว นี่ยังไม่รวมถึงน้ำตาลที่ได้รับจากอาหารอื่นๆอีก

เห็นอย่างนี้แล้ว ผู้ชื่นชอบช็อกโกแลต ควรยับยั้งชั่งใจกันบ้าง อย่าตามใจปากกันจนเกินไปจะได้ห่างไกลโรค.