Apple เปิดตัว iPad Air ชิป M3 รุ่นใหม่ในปี 2025 โดยยังคงเป็นตัวเลือกที่ลงตัวระหว่างราคา ประสิทธิภาพ และการใช้งานจริง เหมาะสำหรับนักเรียน ผู้ใช้ทั่วไป และมืออาชีพที่ต้องการแท็บเล็ตทรงพลังที่ไม่ต้องจ่ายแพงเท่ากับ iPad Pro
ดีไซน์และหน้าจอ จอ Liquid Retina ความละเอียดสูง สีสันสดใส แต่ยังคงใช้ รีเฟรชเรต 60Hz มีให้เลือกสองขนาดคือ 11 นิ้ว และ 13 นิ้ว ตัวเครื่องบางเบา เพียง 6.1 มม. มีให้เลือก 4 สีได้แก่ เทาสเปซเกรย์, ฟ้า, ม่วงและสตาร์ไลท์ ตอบโจทย์ทั้งการพกพาและการ ทำงานเต็มรูปแบบ

iPad Air รุ่นใหม่นี้ ใช้ชิป M3 ที่ให้ประสิทธิภาพเร็วขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เร็วกว่า iPad Air M1 เกือบ 2 เท่า และ iPad Air A14 ถึง 3.5 เท่า รองรับ Ray Tracing แบบฮาร์ดแวร์ ทำให้เกมและแอปกราฟิกทำงานได้ดีขึ้น

...

ฟีเจอร์เด่นรองรับ Apple Intelligence ซึ่งเป็นระบบอัจฉริยะส่วนบุคคลมาพร้อม Siri และ ChatGPT ในตัว สำหรับการ ช่วยเหลือและสร้างเนื้อหา เพื่อใช้งาน Image Wand, Image Playground, Writing Tools, Smart Script, และ Clean Up ในแอปรูปภาพ

รองรับ Apple Pencil Pro และ Apple Pencil (USB-C) อุปกรณ์เสริม Magic Keyboard ใหม่ ทำให้ iPad Air M3 ใช้งานเหมือนแล็ปท็อปมากขึ้น มาพร้อมกับการปรับปรุง แทร็กแพดใหญ่ขึ้น รองรับ Gesture ได้ดีขึ้นเพิ่มแถวปุ่มฟังก์ชัน 14 ปุ่ม ควบคุมเสียง ความสว่าง และสื่อต่างๆ ได้สะดวกขึ้น พอร์ต USB-C รองรับการชาร์จ 60W วัสดุใหม่ แข็งแรงแต่บางเบากว่าเดิม มีเฉพาะสีขาว และเคส Smart Folio รองรับมุมมองที่หลากหลาย
เมื่อทำงานบน iOS 18 มีฟีเจอร์ใหม่ๆ ซึ่งเป็นประโยชน์โดยเฉพาะสำหรับน้องๆนักเรียน เช่น Math Notes ในแอป Notes และ Calculator เพื่อคำนวณสมการ กำหนดตัวแปร และสร้างกราฟได้ง่ายดาย รวมถึง Smart Script ปรับปรุงลายมืออัตโนมัติให้สวยงามและอ่านง่ายขึ้น


นอกจากนี้ ฟีเจอร์ Customization ช่วยให้สามารถจัดวางไอคอนแอปได้อิสระ ปรับแต่งธีม และขนาดวิดเจ็ตได้ตามต้องการ Freeform ใช้ Snap to Grid และ Magnetic Connection Lines เพื่อสร้างแผนผังได้ง่ายขึ้น และ Game Mode ลดดีเลย์ของอุปกรณ์ไร้สายและเพิ่มประสิทธิภาพเกม
...

เมื่อทดลองโหลดเกม Resident Evil 4 ตัวเดโม มาเล่นผ่าน Game Mode และใช้ตัวคอนโทรลเลอร์ โดยเล่นที่การตั้งค่ากราฟิกเดิมไม่ได้ปรับแต่ง ปรากฏว่าการเล่นใน 30 นาที เกมไหลลื่นได้เป็นอย่างดี เฟรมเรตที่ 30 FPS ได้อย่างเสถียร ด้วยพลังชิป M3
อย่างไรก็ตามเมื่อเล่นไปได้สักพักเริ่มมีความร้อน ตอนเล่นไป 30 นาที วัดอุณหภูมิสูงถึง 41.1 องศาเซลเซียสตรงขอบจอด้านบน ส่วนแบตเตอรี่ลดลงจากระดับ 40% เหลือเพียง 18%
iPad Air ชิป M3 เปิดตัวค่อนข้างเร็วหลังจากรุ่น M2 ยังไม่ถึงปี แต่มีสเปกดีขึ้นและราคาที่คุ้มค่ากว่า โดยแอปเปิลได้ยกเลิกการจำหน่ายรุ่นก่อนหน้าไปแล้ว ดูเหมือนว่าแอปเปิลจะมุ่งเน้นการใช้งานด้าน AI ที่จะมีฟีเจอร์ใหม่ๆออกมารองรับให้มากขึ้น

...
มีตัวเลือกความจุที่ 128 GB 256 GB 512 GB และ 1 TB สำหรับรุ่น Wi-Fi ราคาจำหน่าย รุ่น 11 นิ้ว เริ่มต้นที่ 21,900 บาท รุ่น 13 นิ้ว เริ่มต้นที่ 28,900 บาท ส่วนอุปกรณ์เสริม Magic Keyboard ใหม่สำหรับรุ่น 11 นิ้ว ราคา 9,900 บาท และรุ่น 13 นิ้ว ราคา 10,900 บาท
บทสรุป iPad Air ชิป M3 เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการมองหาอุปกรณ์แรงๆ ในราคาคุ้มค่า หรือผู้ที่ต้องการอัปเกรดจากรุ่นเดิมๆ แต่หากจะเทียบกับผู้ใช้ชิป M2 เดิมที่ตอบโจทย์การใช้งานได้ดีอยู่ ประสิทธิภาพยังต่างกันไม่มากนัก และดีไซน์ยังคงเดิม
ส่วนอุปกรณ์เสริม Magic Keyboard ได้มีการอัปเกรดใหม่ แต่ยังคงมีราคาสูงไปนิดและมีให้เลือกเพียงแค่สีขาวที่ดูสวยงามแต่ก็ต้องคอยทำความสะอาดเพราะเห็นคราบเปื้อนง่าย.
คลิกอ่านคอลัมน์ “บทความไซเบอร์เน็ต” เพิ่มเติม