Huawei Watch GT 5: นาฬิกาอัจฉริยะระดับกลางที่มีจุดขายตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์

Huawei Watch GT 5 คือนาฬิกาอัจฉริยะรุ่นใหม่ล่าสุดจาก Huawei ที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน โดยผสานเทคโนโลยีสำหรับการออกกำลังกายและเซนเซอร์ตรวจวัดสุขภาพ พร้อมแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนาน ตัวเรือนมีให้เลือก 2 ขนาด ได้แก่ 46 มม. และ 41 มม. เพื่อความเหมาะสมกับผู้สวมใส่ที่หลากหลาย

การออกแบบ

Huawei Watch GT 5 มาพร้อมตัวเรือนสเตนเลสสตีลที่ให้สัมผัสพรีเมียม มีสายให้เลือกทั้งสายหนังและสายยาง ขนาดหน้าจอ AMOLED 1.43 นิ้ว (ในรุ่น 46 มม.) ให้สีสันสดใส ใช้งานได้ดีแม้กลางแจ้ง

ตัวเรือนทรงแปดเหลี่ยมโดดเด่น สามารถปรับเปลี่ยน Watch Face ได้หลากหลาย มีทั้งแบบที่ดาวน์โหลดได้ฟรี และแบบเสียเงิน ซึ่งดูได้ที่แอปพลิเคชัน Huawei Health

การใช้งานบน Huawei Watch GT 5 สามารถควบคุมได้ทั้งผ่านเม็ดมะยม หรือการสัมผัสผ่านหน้าจอบนนาฬิกาก็ได้ โดยค่าเริ่มต้นของการสั่งการผ่านเม็ดมะยมเป็นการเข้าสู่หน้าแอปพลิเคชัน หรือกลับไปสู่หน้าปัดนาฬิกา และมีปุ่มเรียกใช้งานด้านล่างเป็นทางลัดการเข้าสู่ฟังก์ชันออกกำลังกาย นอกจากนี้ Huawei Watch GT 5 ออกแบบโดยพกพาฟีเจอร์กันน้ำลึกระดับ 5 ATM

ฟังก์ชันด้านสุขภาพ

Huawei Watch GT 5 ใช้ระบบเซนเซอร์ TruSense ที่ช่วยเพิ่มความแม่นยำในการตรวจจับอัตราการเต้นหัวใจ รองรับฟังก์ชันการออกกำลังกายหลากหลายรูปแบบ เช่น เดินป่า ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน และแม้แต่อีสปอร์ต นอกจากนี้ระบบของ TruSense มีระบบตรวจจับความเครียด รวมถึงการประเมินสุขภาพทางอารมณ์

Huawei ได้เพิ่มระบบโค้ชอัจฉริยะที่พัฒนามาจากห้องวิจัยกีฬาเฉพาะทางของบริษัท เพื่อช่วยลดความเสี่ยงจากอาการบาดเจ็บและเพิ่มประสิทธิภาพในการออกกำลังกาย นอกจากนี้ ยังมีระบบตรวจจับความเครียดและประเมินสุขภาพทางอารมณ์

อ่านเพิ่มเติม: ย่ำตงกวน เยือน Health Lab แหล่งบ่มเพาะนวัตกรรมสมาร์ทวอทช์ของ Huawei

การตรวจจับการนอน

การตรวจจับการนอนจากการทดสอบมีความแม่นยำพอสมควร มีระบบช่วยตรวจจับทางเดินหายใจระหว่างนอนหลับ ซึ่งเอาไว้ช่วยดูว่ามีปัญหาการหยุดหายใจระหว่างการนอนหลับหรือไม่

ในเวลาเดียวกัน ถ้าเราตั้งโหมด Sleep เอาไว้ก่อนเข้านอน จนกระทั่งเมื่อตื่นนอนแล้ว เรายังไม่กลับไปตั้งเป็นโหมดปกติ ระบบของนาฬิกาจะถามผู้ใช้งานว่า คุณตื่นแล้วใช่หรือไม่ เพื่อให้นาฬิกากลับคืนสู่โหมดปกติ

การใช้งานและระบบปฏิบัติการ

Huawei Watch GT 5 มาพร้อม HarmonyOS ที่รองรับการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนทั้ง iOS และ Android สามารถใช้งานฟีเจอร์พื้นฐาน เช่น การแจ้งเตือน การควบคุมเพลง การดูสภาพอากาศ และตอบข้อความด้วยคีย์บอร์ด QWERTY อย่างไรก็ตาม รุ่นนี้ไม่มีฟีเจอร์การชำระเงินแบบ NFC ซึ่งเป็นจุดเด่นของคู่แข่งอย่าง Garmin

แบตเตอรี่ที่ใช้งานยาวนาน

จุดเด่นของ Huawei Watch GT 5 คือแบตเตอรี่ที่ทนทาน หากใช้งานในโหมดปกติ สามารถอยู่ได้นานถึง 2 สัปดาห์ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง แต่หากเปิดฟังก์ชัน Always-On Display ตลอดเวลา แบตเตอรี่จะใช้งานได้ประมาณ 3-4 วัน

สรุป

Huawei Watch GT 5 เป็นสมาร์ทวอทช์ที่ครบครันทั้งด้านการออกแบบ การใช้งาน และฟังก์ชันสุขภาพ ตัวเรือนหรูหรา เหมาะกับทั้งการใช้งานในชีวิตประจำวันและกิจกรรมออกกำลังกาย แม้จะไม่มีฟีเจอร์การชำระเงินแบบ NFC แต่ก็ยังคงเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้มองหาสมาร์ทวอทช์ระดับกลางที่มีประสิทธิภาพการใช้งานที่ครบถ้วน