นับตั้งแต่การเปิดตัว ChatGPT โดยโอเพนเอไอ (OpenAI) เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา โลกเทคโนโลยีได้ให้ความสำคัญกับ AI มากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ทำให้ผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีต่างๆ เริ่มเพิ่มฟีเจอร์ AI เข้ามาอย่างแพร่หลาย โดยในปี 2024 เราได้เห็นการนำ AI มาใช้งานอย่างชัดเจน และในปี 2025 AI จะกลายเป็นเทรนด์หลักของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีผู้บริโภค ทั้งในระดับสินค้าและบริการ

ต้นทุน AI ที่ลดลง

หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้ AI แพร่หลายมากขึ้น คือการประมวลผล AI บนอุปกรณ์โดยตรง (On-device AI) ซึ่งช่วยลดภาระต้นทุนการประมวลผลของ AI ได้อย่างมาก เมื่อเทียบกับการประมวลผลบนคลาวด์ ตัวอย่างเช่น การประมวลผลผ่านระบบคลาวด์ของ OpenAI มีต้นทุนประมาณ 4.38 ดอลลาร์สหรัฐต่อ 1 ล้านโทเคน แต่การประมวลผลบนอุปกรณ์สามารถทำได้ฟรี

การมาของ On-Device AI ยังช่วยให้ผู้ใช้งานได้รับประสบการณ์ที่เป็นส่วนตัวมากขึ้น สมาร์ทโฟนสามารถกลายเป็นผู้ช่วยดิจิทัลที่ทรงพลังอย่างแท้จริง โดยใช้ศักยภาพของหน่วยประมวลผลได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ธุรกิจเองก็กำลังหันมาใช้โซลูชัน AI แบบไฮบริดระหว่างคลาวด์และอุปกรณ์เพื่อลดต้นทุน และเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการผสาน AI เข้ากับชีวิตประจำวันและการทำงานขององค์กร

AI: เส้นแบ่งระดับสมาร์ทโฟน

ปี 2025 เมื่อ AI กลายเป็นหัวใจสำคัญของเทคโนโลยีสำหรับผู้บริโภค

...

ในปีที่ผ่านมา ฟีเจอร์ AI กลายเป็นจุดตัดที่แบ่งระดับระหว่างสมาร์ทโฟนพรีเมียมและสมาร์ทโฟนระดับกลาง ตัวอย่างเช่น Apple Intelligence ที่จำกัดการใช้งานบน iPhone 16 และ iPhone 15 Pro และ iPhone 15 Pro Max เท่านั้น ขณะที่ Samsung ได้เริ่มเปิดตัว Galaxy AI และทยอยอัปเดตให้สมาร์ทโฟนระดับกลางใช้งานได้บางส่วน อย่างไรก็ตาม ฟีเจอร์ AI ขั้นสูงยังคงถูกจำกัดอยู่ในสมาร์ทโฟนพรีเมียมอยู่ดี ซึ่งตรงนี้จะเป็นจุดตัดว่า ถ้าอยากใช้งานให้ครบทุกฟีเจอร์ก็ต้องเลือกสมาร์ทโฟนระดับพรีเมียมเท่านั้น

การเติบโตของ AI PC

ปี 2025 เมื่อ AI กลายเป็นหัวใจสำคัญของเทคโนโลยีสำหรับผู้บริโภค

ปี 2024 เป็นจุดเริ่มต้นของ PC ที่ขับเคลื่อนด้วย AI เช่น Microsoft Copilot+ PC และในปี 2025 ผู้ผลิต OEM และ ODM จะช่วยขยายฐาน AI PC ไปยังกลุ่มผู้บริโภคในวงกว้าง ส่งผลให้ราคาลดลงและเพิ่มโอกาสการเข้าถึงได้มากขึ้น เป็นโอกาสสำคัญให้อุตสาหกรรม PC กลับมามีลุ้นขยายตัวอีกครั้ง

จับตา Smart Glasses

ปี 2025 เมื่อ AI กลายเป็นหัวใจสำคัญของเทคโนโลยีสำหรับผู้บริโภค

ในปี 2024 ที่ผ่านมา Meta ได้ลดความสนใจในเมตาเวิร์ส (Metaverse) และหันมาเน้น AI มากขึ้น โดยเฉพาะการเปิดตัวแว่นตาอัจฉริยะ Ray-Ban Meta รุ่นใหม่ ซึ่งมาพร้อมกับ GenAI ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสัมผัสประสบการณ์ Immersive โดยไม่ต้องใช้มือ เช่น การแปลภาษาแบบเรียลไทม์ หรือการสั่งซื้อสินค้า

หากการใช้งาน Smart Glasses พัฒนาไปจนมีความคุ้มค่า ถึงจุดคุ้มทุน เราอาจได้เห็นการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ในกลุ่มแว่นตาอัจฉริยะเพิ่มมากขึ้นในอนาคต

AI ในทุกเนื้องาน

ปี 2025 เมื่อ AI กลายเป็นหัวใจสำคัญของเทคโนโลยีสำหรับผู้บริโภค

AI ได้กลายเป็นส่วนสำคัญในอุปกรณ์และเครื่องมือหลายประเภท ตั้งแต่ AI PC, AI Phone ไปจนถึงเครื่องมืออื่นๆ การเข้าถึง AI กลายเป็นเรื่องง่ายและเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน กระบวนการทำงานต่างๆ จะเริ่มผสาน AI เข้ากับ Workflow อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และเกิดการใช้งานจริงในระดับองค์กร

ดังนั้นปี 2025 จึงเป็นปีที่ AI จะเปลี่ยนผ่านมาสู่เครื่องมือที่อยู่ในทุกส่วนของชีวิตและการทำงานอย่างแท้จริง