ในที่สุดแอปเปิลได้อัปเดต iPad mini ใหม่อย่างเป็นทางการ นับเป็นรุ่นที่ 7 หลังจากว่างเว้นมาแบบยาวๆ ในรุ่นก่อนหน้าที่เปิดขายมาแล้วตั้งแต่ปี 2564 นับเป็นรุ่นหนึ่งที่มีกลุ่มผู้ใช้เหนียวแน่นรอคอยใช้อุปกรณ์ใหม่
เหตุผลเพราะเป็นแท็บเล็ตขนาดกะทัดรัด ขนาดจอเล็กเล็กกว่า iPad ปกติทั่วไป แต่ยังคงมีประสิทธิภาพสูงสำหรับการใช้งาน จึงเป็นที่นิยมสำหรับการพกพา ไม่ใหญ่เกินไปและหนักเกินไป และหน้าจอขนาด 8.3 นิ้วใหญ่พอสำหรับการใช้งานหลายๆ ด้านที่ iPhone ไม่สามารถใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
กลุ่มที่นิยมใช้มักจะเป็นกลุ่มนักธุรกิจและนักเดินทางบ่อยๆ ต้องการความคล่องตัวและประสิทธิภาพของเครื่องจอเล็ก เพื่อใช้งานประชุมออนไลน์ ใช้อีเมล ใช้งานแอป รวมถึงกลุ่มที่อยู่ในกลุ่มการแพทย์ที่ต้องการอุปกรณ์พกพาง่าย จดบันทึกข้อมูล การเข้าถึงข้อมูลผู้ป่วย การเข้าใช้แอปของโรงพยาบาลรวมไปถึงการสั่งจ่ายยา
...
หรือกลุ่มนักบินที่ต้องการข้อมูลภาคสนามอย่างเรียลไทม์สำหรับการใช้แอปเพื่อช่วยเป็นข้อมูลด้านการบิน รวมไปถึงกลุ่มคอเกมแบบฮาร์ดคอร์ ที่สามารถเล่นเกมกราฟิกหนักๆได้ไหลลื่น และใช้สองมือจับได้สบาย เล่นเกมนานๆไม่รู้สึกว่าถือเครื่องหนักจนเกินไป และอีกหลายๆกลุ่ม
iPad mini 7 ใหม่มาพร้อมกับสเปกแบบจัดหนัก ชิป A17 Pro ซึ่งเป็นชิปที่ใช้ใน iPhone 15 Pro เหมาะสำหรับงานที่ต้องประมวลผลหนักๆ ด้วย CPU และ GPU ที่เร็วขึ้น และการประมวล ผลด้านการเรียนรู้ของเครื่อง Neural Engine ที่เร็วกว่า iPad mini รุ่นก่อนหน้าถึง 2 เท่า
รวมทั้งการรองรับ Apple Intelligence คุณสมบัติปัญญาประยุกต์ชุดแรกของแอปเปิลจะพร้อมให้ใช้งานในภาษาอังกฤษแบบสหรัฐอเมริกาในเดือนตุลาคมนี้ผ่านการอัปเดตซอฟต์แวร์ iPadOS 18.1 โดยจะต้องตั้งค่าภาษาของอุปกรณ์และ Siri เป็นภาษาอังกฤษแบบสหรัฐอเมริกา สามารถใช้งานได้บน iPad พร้อมชิป A17 Pro หรือชิป M1 และใหม่กว่า
รองรับ Wi-Fi 6E ซึ่งมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นสูงสุด 2 เท่าเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า ผู้ใช้จึงสามารถดาวน์โหลดไฟล์ เล่นเกมออนไลน์ และสตรีมภาพยนตร์ได้เร็วขึ้นขณะเดินทาง
กล้องหลังไวด์ขนาด 12MP มอบประสบการณ์การถ่ายภาพที่น่าทึ่ง โดยรองรับ Smart HDR 4 เพื่อภาพถ่ายที่ดูเป็นธรรมชาติและมีช่วงไดนามิกที่กว้างขึ้น และใช้ระบบ Neural Engine เพื่อระบุประเภทและสแกนเอกสารได้โดยตรงในแอปกล้อง
iPad mini รองรับการใช้งาน Apple Pencil Pro ซึ่งช่วยเปิดโลกของการทำงานและสร้างสรรค์ด้วยวิธีใหม่ๆ รวมทั้ง Apple Pencil USB-C
ดีไซน์ขนาดกะทัดรัดที่หลายคนชื่นชอบ iPad mini มีให้เลือก 4 สี รวมถึงสีฟ้า, สีม่วงใหม่ และสีเดิม สีสตาร์ไลท์และสีเทาสเปซเกรย์ พร้อมด้วยจอภาพ Liquid Retina ขนาด 8.3 นิ้ว ราคาเริ่มต้นที่ 17,900 บาท ในรุ่น Wi-Fi ขนาด 128 GB ซึ่งราคาเริ่มต้นเท่ากับ iPad mini รุ่นก่อนหน้า
...
ซึ่งการอัปเกรดสเปก ในราคาเดิมเพื่อสร้างความคุ้มค่าและสร้างแรงจูงใจให้ผู้คนหันมาสนใจ iPad mini รุ่นใหม่มากขึ้นเป็นกลยุทธ์การตั้งราคาที่รักษาฐานลูกค้าและขยายตลาดใหม่ๆ เพิ่มขึ้น โดยวันจำหน่ายอย่างเป็นทางการจะมีการประกาศอีกครั้ง
นอกจากนี้ แอปเปิลยังได้ปรับราคา iPad ทุกรุ่นลงตั้งแต่ 1,000-7,000 บาท นับตั้งแต่ iPad 10 รุ่นเริ่มต้นไปจนถึง iPad Pro M4 และอุปกรณ์เสริมทั้ง Apple Pencil USB-C และ Magic Keyboard ลดลงตั้งแต่ 200-1,500 บาท
...
นับว่าจัดหนักให้ลูกค้าไทยได้เป็นเจ้าของ iPad และอุปกรณ์เสริมได้ง่ายมากขึ้น.
คลิกอ่านคอลัมน์ “บทความไซเบอร์เน็ต” เพิ่มเติม